หลังจากที่มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ยื่นคำร้องขอส่งตัวนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดี เผาทำลายทรัพย์สินหน้าเรือนจำคลองเปรม คืนศาล หลังจากเมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกไปแล้วนั้น
โดยศาลอาญา มีคำสั่งให้ยกคำร้องที่มารดาของนายแอมมี่ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลเห็นว่า ศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาในชั้นฝากขังนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนี จนไปถูกจับกุมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ใช่เพราะเหตุหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ส่วนที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอส่งคืนตัวผู้ต้องหาต่อศาล หลังจากที่จะไม่ควบคุมตัวที่โรงพยาบาลตำรวจแล้วนั้น ศาลได้ไต่สวนพยานหลักฐานผ่าน Video Conference ขณะนี้ได้มีคำสั่งภายหลังการไต่สวนแล้ว ให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรี ระหว่างการฝากขังครั้งแรก ที่ยังเหลือเวลาอีก 11 วัน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน
ต่อมาได้มีการเผยแพร่คลิป ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวขึ้นรถของเรือนจำ นายแอมมี่ได้หันมาชูสามนิ้วก่อนขึ้นรถไป ทั้งนี้ตอนแรก นายแอมมี่ได้ขอว่า ให้เจ้าหน้าที่ส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพราะมีก๊วนเพื่อนทั้ง 4 คน อยู่ที่นั่น แต่เจ้าหน้าที่เห็นควรว่าให้ฝางขังที่เรือนจำธนบุรี
ขณะที่อาการป่วยของนายแอมมี่ มีอาการบาดเจ็บที่บริเวณหัวไหล่ซ้ายและซี่โครง และบาดเจ็บจากแผลผ่าตัดช่องท้อง รวมทั้งต้องรักษาอาการที่ตาอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จะประสานให้รักษากับแพทย์เฉพาะทางต่อไป
ภายหลังจากการส่งตัวแอมมี่เข้าเรือนจำ แม่ของเจ้าตัวก็ได้มารอเฝ้าเยี่ยม แต่เนื่องจากหมดเวลาเยี่ยม จึงได้พูดคุยผ่านเจ้าหน้าที่แทน โดยแม่บอกว่า ไม่ท้อในการขอประกันตัว ยืนยันจะยื่นประกันตัวเรื่อย ๆ แต่ถ้าสุดท้ายจะไม่ได้จริง ๆ ก็ขอให้ลูกยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และปรับตัวอยู่ในเรือนจำให้ได้
อย่างไรก็ตามหากย้อนไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 ที่ได้มีการชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวง “แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ ” ได้พูดปราศรัยกับกลุ่มมวลชน เล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเองไปสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ผมคือสายแอคชั่น ผมคือสายพลีชีพ การที่ผมก้าวเข้ามาเต็มตัว ผมพลีชีพ ผมรู้ สิ่งที่ผมทำไป ผมต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่ต้องปกป้องผม ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องห่วงผม ขอให้สู้ต่อไป จนกว่าจะได้ชัยชนะ ผมรักพวกคุณมาก ผมรู้ว่าผมจะต้องสูญเสียอะไร ถ้าวันนึงผมแพ้ ผมก็แค่เป็นกบฎ เขาไม่ปล่อยผมไว้แน่ แค่สีกระป๋องเดียว มันเทียบอะไรไม่ได้กับชีวิตคน ผมต้องการจะขยายเพดานให้กับการชุมนุม
จากคำพูดของนายแอมมี่ จะเห็นว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะแกนนำ หรือเพื่อนพ้องแกนนำ ถึงเวลาเข้าคุกก็รักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น ตอนแรกที่ปลุกระดมมวลชนออกมาสู้ ก็บอกว่าไม่ต้องออกมาปกป้อง ไม่ต้องห่วง และพร้อมพลีชีพ แต่พอถึงเวลาต้องเข้าเรือนจำจริง ๆ ก็มีเพียงแต่แม่ของตัวเองที่ต้องวิ่งเต้น หาหนทางประกันตัวลูกออกมา
นอกจากนี้นายแอมมี่ ยังไม่ได้สำนึกกับสิ่งที่ทำลงไป ครั้งก่อเหตุที่หน้าเรือนจำด้วย เนื่องจากยังมีการใช้ถ้อยคำจาบจ้วงสถาบันผ่านโพสต์ที่สารภาพว่าลงมือเผาด้วยตัวเอง
