Truthforyou

กิตติอุ้มอแมนด้า ถ้าเธออยู่อีกฝ่าย ตอกหน้าสื่อไร้สำเหนียก ฝ่ายไหนไม่สำคัญหากชังชาติ-คิดล้มสถาบัน?

จากที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่ากรมสุขภาพจิต ได้แต่งตั้ง นางสาวอแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทูตด้านสุขภาพจิต ส่งเสริมการสร้างสุขภาพจิตที่ดีของตนเองและคนรอบข้างผ่านการรับฟัง ซึ่งต่อมาก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงความไม่เหมาะสม เพราะว่าช่วงหนึ่งนางสาวอแมนด้า เคยได้ออกมาเคลื่อนไหวหนุนม็อบ 3 นิ้ว และวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่

กระทั่งต่อมา กรมสุขภาพจิต ได้มีการประกาศยุติการมอบหมาย นางสาวอแมนด้า เป็นทูตด้านสุขภาพจิต ตามที่กรมสุขภาพจิตและกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ได้เคยมีการตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมภาพลักษณ์งานด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุขนั้น รวมไปถึงสนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางกรมสุขภาพจิตมีข้อตกลงกับกองประกวด ในการมอบหมายให้เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ดำเนินภารกิจเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรมสุขภาพจิตหรือทูตด้านสุขภาพจิต เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยสร้างความตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพจิตในประเทศไทย นั้น

เรื่องนี้เอง ทำให้ทางด้าน นายกิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง รายการ ข่าว 3 มิติ ทางช่อง 3 ได้มีการแสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวผ่านทางโซเชียลฯ ระบุว่า “น่าสนใจว่า ถ้า เธอแสดงความเห็นไปิกทาง จะถูกปลดไหม?” ซึ่งจากข้อความดังกล่าวนี้เองก็มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นตอบกลับนายกิตติด้วยว่า “น่าสนใจว่า ถ้า คุณกิตติ วิจารณ์ช่องสามเสีย ๆ หาย ๆ ช่องสามจะปลดคุณกิตติไหม”

ทั้งนี้ จากประเด็นการออกมาแสดงความเห็นในครั้งนี้ของนายกิตตินั้น ทำให้คนในสังคมต่างเกิดคำถามที่ตามมาด้วยว่า นายกิตตินั้นต้องการเจาะจงวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ และการแสดงความคิดเห็นแบบนี้เพราะมีความคิดสนับสนุนม็อบที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่?

อย่างหากย้อนไปดูแล้วจะพบว่านายกิตติก็มีการเคลื่อนไหวนำเสนอข่าวของม็อบมาตลอด เช่น กรณีเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 วันที่การเมืองดุเดือดไม่แพ้วันอื่น ๆ ทั้งของเหล่าคณะราษฎร รวมไปถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ญัตติ โดยนายกิตติ ได้โพสต์ทวิตเตอร์ถึงเหล่า ส.ส. ถึงเหตุผลที่ควรรับฟังข้อเสนอของเด็ก ๆ นักศึกษา โดยระบุข้อความ ว่า “ท่าน ส.ส.ครับเหตุผลหนึ่งที่ควรรับฟัง ข้อเสนอของเด็ก ๆ นักศึกษาก็คือ เขาไม่ได้ต้องการมาแย่งอำนาจใด ๆ จากพวกท่าน เพราะอำนาจที่ท่านมีอยู่ทุกวันนี้ ก็มาจากการกาบัตรของประชาชน และพวกเด็ก ๆ นี้ก็ไม่ได้มาเป็นรัฐบาลแทนพวกท่านอยู่แล้ว มีกติกาใหม่ พวกท่านก็ลงสมัครใหม่ได้เหมือนเดิม

ไม่เพียงเท่านั้น วันที่ 18 พ.ย. 2563 นายกิตติ ยังได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ตั้งข้อสังเกตถึงเพจของตำรวจ ว่าลงข้อมูลที่ผิดพลาดความว่า ผมกลับบ้านขอนแก่นมานอนนา ตื่นเช้ามามาคนส่งภาพนี้มาฟ้องว่า เพจที่ชื่อ สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงรูปรถตู้ตำรวจโดนพ่นสี แล้วบอกว่า ผมถ่ายภาพ มันปลอมนะครับ ให้รีบแก้ไขเสีย

ทั้งนี้ ภาพดังกล่าว เป็นภาพของรถตู้ ที่จอดอยู่ด้านหน้า กรมทหารราบที่ 11 ซึ่งถูกปล่อยลมยางและพ่นสเปรย์ข้อความต่างๆ โดนเพจ สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำมาโพสต์ พร้อมเขียนข้อความอ้างว่า ภาพโดย @Kitti3Miti

จากการยกตัวอย่างข้างต้น ที่นายกิตติออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่มีม็อบคุกรุ่นนี้เอง ทำให้นึกไปถึงอีกสื่อเจ้าดังที่นำเสนอข่าวเอนเอียงเข้าข้างม็อบ ซึ่งเจ้าของสื่อดังกล่าวก็คือ อดีตลูกน้องของนายกิตติ นั่นคือ The Reporters ของ ฐปนีย์ เอียดศรีไชย หรือ แยม

Exit mobile version