“พท.-ก้าวไกล” จะช่วย”แอมมี่” แต่ขอดูก่อนอ้างเผาพระบรมฉายาลักษณ์เรื่องละเอียดอ่อน!?!

2878

“เพื่อไทย-ก้าวไกล” จะช่วย”แอมมี่ สาดสี” แต่ขอดูก่อน อ้างเผาพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน!?!

จากกรณีการวางเพลิงเผาทรัพย์ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า จากการสืบสวนของตำรวจร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ตอนนี้ทราบว่ามีผู้ก่อเหตุ 3 ราย ชาย 2 หญิง 1 ใช้รถยนต์ในการก่อเหตุ ต่อมา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)  แถลงการณ์จับกุม นายไชยอมร แก้วพิบูลย์ หรือ แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ นักร้องชื่อดังและแกนนำกลุ่มราษฎร ตามหมายจับ ที่ 429/2564 ลงวันที่ 2 มี.ค.2564 ข้อหาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม ถนนงามวงษ์วาน เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ภัคพงศ์เผยว่า คดีนี้เหตุเกิดวันที่ 28 ก.พ.64 เวลาประมาณ 03.00 น.มีกลุ่มคนร้ายไปวางเพลิงเผาทรัพย์สินที่ด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งวันที่ 2 มี.ค.ทีผ่านมา ได้มีการขออนุมัติหมายจับนายไชยอมร หรือแอมมี่ ต่อศาลอาญา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวกระทั่งพบตัวนายไชยอมร อยู่ที่บ้านเช่าที่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จับกุมตัวได้เวลา 01.00 น. ขณะที่เข้าทำการจับกุมตัว นายไชยอมร มีอาการบาดเจ็บที่บริเวณไหล่ซ้าย และเชิงกรานด้านซ้าย จึงนำตัวส่ง รพ.ราชธานี จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจรักษาเบื้องต้น หลังจากนั้นควบคุมตัวมารักษาต่อที่ รพ.ตำรวจ ขณะนี้ยังอยู่ที่ รพ.ตำรวจ โดยอาการบาดเจ็บมีมาก่อนที่ตำรวจเข้าจับกุม ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับตัวที่ รพ.พระราม 9 นั้นไม่เป็นความจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพยานหลักฐานใดที่เชื่อมโยงถึงตัวนายไชยอมร พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เผยว่า ศาลอาญาท่านได้อนุมัติหมายจับ มีกลุ่มคนร้ายไม่น้อยกว่า 1 คน ยืนยันว่าแอมมี่เป็นผู้ร่วมกระทำความผิด มีหลักฐานทั้งพยานบุคคล นิติวิทยาศาสตร์ ต้องมีหลักฐานศาลจึงออกกหมายจับให้ ตำรวจไม่ได้ดูแค่หลักฐานซีซีทีวียังมีหลักฐานอื่นอีกหลายประการ ตรงนี้เราไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในสำนวน เพียงแต่ยืนยันได้ว่า นายไชยอมร เป็นคนร้ายในคดีนี้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า ทรัพย์สินที่เสียหายอยู่ในด้านพื้นที่ของเรือนจำเป็นไปไม่ได้ว่าคนนอกจะเข้าไปได้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ตอบว่า บริเวณนั้นอยู่หน้าเรือนจำคนที่ผ่านไปมาสามรถเดินเข้าไปได้เลย อยู่นอกรั้วแต่เป็นพื้นที่ของเรือนจำ ส่วนผู้ที่ร่วมกันกระทำความผิดไม่ขอลงในรายละเอียดอยู่ระหว่างดำเนินการ จริงๆพยายามรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการออกหมายจับในทีเดียวแต่ปรากฏข่าวขึ้นมาก็มีความจำเป็นต้องขออนุมัติหมายจับนายไชยอมรก่อน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ผู้ที่เข้าร่วมก่อเหตุเป็นดาราที่ร่วมเคลื่อนไหวในม็อบร่วมด้วยหรือไม่ หรืออยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นยืนยันว่านายไชยอมร เป็นคนร้ายในคดีนี้ แต่เขายังไม่รับว่าทำแต่ตำรวจยืนยันว่ามีหลักฐาน เขายังไม่ให้การอยู่ระหว่างการควบคุมตัวที่ รพ.ตำรวจ เนื่องจากหลังจับกุมตัวเขามีอาการบาดเจ็บจึงนำตัวส่ง รพ.ราชธานี หลังจากนั้นควบคุมตัวมาที่ รพ.ตำรวจ ยังไม่มีการให้การใดๆ ถามอีกว่าคดีนี้เชื่อมโยงกับคดี 112 อย่างไร ผบช.น.ตอบว่า ขออนุญาตเรื่องนี้อยู่ในสำนวน  ถ้าผิดอย่างไรก็ดำเนินการก่อน เบื้องต้นวางเพลิงเผาทรัพย์และอาจพิจารณาตามาตรา 112

“คดีนี้ถ้าพยานหลักฐานถึงก็ดำเนินคดีหมด คนร้ายมีไม่น้อยกว่า 1 คน ขณะนี้จับกุมตัวได้ 1 คน จะจับกุมใครต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ไม่มีเหตุออกหมายจับก็ออกหมายเรียก”

ล่าสุดทางด้าน นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี แอมมี่ ที่ถูกจับกุมในคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมนั้น พรรคฝ่ายค้านจะให้การช่วยเหลือหรือยื่นประกันตัวหรือไม่นั้น คงจะต้องมีการหารือเพื่อช่วยเหลือในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งต้องดูข้อกล่าวหาและประเด็นต่างๆ เพราะจากการติดตามข่าวคือมีเหตุเพลงไหม้ และลุกลามไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งในเรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อน ซึ่งเราก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไป

ในขณะที่ ทางด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวเสริมว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นกล่าวหา ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่านายไชยอมรทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมาที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลเข้าไปมีบทบาทในการช่วยประกันตัว เป็นการทำในฐานะประกันสิทธิในกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้โอกาสออกมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ส่วนจะถูกหรือผิดก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรามีจุดยืนที่ว่าเราควรเคารพสิทธิในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมของทุกฝ่าย และให้สันนิษฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยจนถึงที่สุด

ตนคิดว่าเรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัญหาความขัดแย้งทางความคิดไปแล้ว เราอยากให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจคิดต่อประเด็นการชุมนุมที่ผ่านมา การแสดงออกทางการเมืองที่ผ่านมา ในฐานะที่เป็นความขัดแย้งทางความคิด ทั้งนี้เมื่อเป็นความคิดเห็นแตกต่างทางการเมืองก็ควรใช้กระบวนการทางการเมืองในการแก้ปัญหา ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถยุติหรือมีทางออกได้ หากใช้กฎหมายปราบปรามอย่างเข้มงวดโดยมองเหมือนปัญหาการก่ออาชญากรรม ก่อคดีอาญาปกติ แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาความขัดแย้งทางความคิด