“อดีตทูตนริศน์โรจน์” แนะ “อแมนด้า” ด่าประเทศตัวเองเยอะๆ จะได้มงลงสมใจอยาก หลังถูกปลด “ทูตสุขภาพจิต”

จากกรณีที่ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความพาดพิง “อแมนด้า-ชาลิสา ออบดัม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020

และทางกรมสุขภาพจิตได้มอบหมายให้ อแมนด้า ขึ้นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรมสุขภาพจิตหรือทูตด้านสุขภาพจิต โดยพูดถึงตำแหน่งแหน่งที่เธอได้รับนั้นไม่เหมาะสมเนื่องจากการแสดงออกทางการเมืองของเธอ

ได้นายนริศโรจน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Fuangrabil Narisroj ระบุว่า “การจะประกาศแต่งตั้งใครให้เป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” ในตำแหน่งสาขาด้านใดด้านหนึ่ง บุคคลนั้นจะต้องมีประวัติและพฤติกรรมที่ เคลียร์ สมเป็นตัวแทนประเทศจริง ๆ
แต่ถ้าไปเอาคนที่ประวัติและพฤติกรรมไม่เคลียร์มาเป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” แล้ว ดันมีคนไปขุดคุ้ยเจอเรื่องราวการแสดงออกทั้งวาจาและคำพูดของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเป็น บุคคลสาธารณะ ( public figure)
เพราะบุคคลนั้น ๆ ขาดการไตร่ตรอง ไม่มองให้รอบด้าน ไม่เป็นกลาง หรือใช้ fake news นำไปเผยแพร่ขยายความเพื่อประจานประเทศตัวเอง ก็ย่อมก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้งทางสังคมตามมาอย่างช่วยไม่ได้
แบบนี้ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ทำให้คนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทะเลาะกันวุ่นวายจน “เสียสุขภาพจิต” กันไปหมด นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ที่งุบงิบยัดเยียดแต่งตั้งกันเพื่อหวังผลประดับ profile ของบุคคลนั้น ๆ fail ไม่สง่างามและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ”

ต่อมา กรมสุขภาพจิตที่เพิ่งจับมือแต่งตั้ง ได้ออกแถลงการณ์ “ยุติ” การเป็นทูตสุขภาพจิตของอแมนดา หลังรับการแต่งตั้งเพียง 5 วัน

โดยออกประกาศซึ่งมีใจความว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม กรมสุขภาพจิต ยุติการมอบหมาย นางสาวอแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทูตด้านสุขภาพจิต ตามที่กรมสุขภาพจิตและกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ได้เคยมีการตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์งานด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุขนั้น รวมไปถึงสนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกรมสุขภาพจิตมีข้อตกลงกับกองประกวดในการมอบหมายให้เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ดำเนินภารกิจเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรมสุขภาพจิต หรือทูตด้านสุขภาพจิต เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยสร้างความตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพจิตในประเทศไทย

กรมสุขภาพจิตมีเป้าหมายในการสร้างความสุขให้แก่ประชาชนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ดี กรมสุขภาพจิตรับทราบถึงความกังวลใจของประชาชนในขณะนี้ และกรมสุขภาพจิตไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนในสังคมได้

ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตได้มีการปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์และรับทราบร่วมกันถึงความกังวลใจของประชาชน ทางกรมสุขภาพจิตจึงขอยุติบทบาทภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยในกรณีดังกล่าว ซึ่งบางส่วนได้แสดงความเห็นแซะกลุ่มการเมืองต่างๆด้วย

ทั้งนี้ ล่าสุด นายนริศโรจน์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า
“น้องๆที่เชียร์นางงามที่ถูกกรมสุขภาพจิตปลด แล้วพยายามเข้ามาด่าทอหยาบคาย ถากถางผมว่าให้คอยดูวันประกวดจริง ถ้านางได้ตำแหน่ง พวกสลิ่มจะได้อกแตกตาย !
เอางี้ นะครับน้อง ผมเห็นด้วยว่าคนที่น้องเชียร์มีสิทธิ์เข้ารอบลึก อาจติด top 3 และหรืออาจได้มง สมตามความต้องการของพวกน้องๆ
เพราะอะไร ? เพราะผมเชื่อว่าฝ่ายจัดประกวดคือ ไอ้กันมันชอบนางงามสไตล์นี้ ดูตอน เปีย นางงามไอ้ปินส์สิ เชลียร์ไอ้กันเรื่องเห็นด้วยกับการมีฐานทัพสหรัฐฯในฟิลิปปินส์ ขนาดประกาศให้คนอื่นไปแล้ว ยังเรียกมงเอาคืนมาให้ได้เลย !
ในยุคนี้ ขอให้น้องด้าตอบเชลียร์ไอ้กันให้เยอะๆนะครับ คำก็ ประชาธิปไตย สองคำก็ประชาธิปไตย พูดให้เยอะๆ
และถ้าสมมุติว่าน้องเขาไม่พอใจรัฐชาติที่น้องเค้าเป็นตัวแทนว่าโหดร้าย อยุติธรรม มีอำนาจลับหลังม่าน แบบที่น้องเขาโพสต์ ก็แนะนำว่าเวลาตอบคำถามก็ให้ประจานบ้านเกิดเมืองนอนให้มากๆ ยกเอา fake news ต่างๆมาเสริมก็ได้ ไอ้กันมันแยกไม่ออกหรอก

ตอบคำถามเสร็จก็ให้ชู 3 นิ้ว เอาสายสะพายที่เป็นชื่อประเทศออกมาเขวี้ยงทิ้ง หรือ กระทืบเร่าๆแล้วโยนทิ้งก็ได้ ประกาศกลางเวทีไปเลยว่าไม่ happy กับการเป็นตัวแทนประเทศนี้ รับรองน้องจะต้องถูกใจ ถูกจริต ไอ้กันแน่ๆ และแล้ว มง 3 ก็จะได้มาครองสมใจอยาก
จากนั้น ไอ้กันก็จะดีใจที่จะได้น้องเป็น “ตัวเล่น” ใหม่ของไอ้กันเพิ่มมาอีก 1 เพื่อเอาไปต่อยอดปลุกปั่นให้ม๊อบฮึกเหิม เพื่อที่จะได้บรรลุวัตถุประสงค์ของไอ้กัน ตามนโยบาย New World Order ของไอ้กันต่อไป
ที่นี้สิ่งที่น้องทำก็จะสมประโยชน์ให้ไอ้กันที่ต้องการเข้าไปหนุนม๊อบในประเทศนั้นประเทศนี้ ปั่นป่วนเพื่อล้มระบอบเดิม เพื่อที่ไอ้กันจะได้เข้ามาคุมและแบ่งผลประโยชน์ในบ้านเราได้อย่างสบายใจ
ขอเชียร์นะครับ น้องๆ เชียร์ให้น้องด้าได้ มง 3 สมใจอยาก ส่วนเกียรติภูมิ เกียรติประวัติของชาติจะชิบหายอย่างไร พวกน้องก็ไม่แคร์อยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนใจ นี่พูดจากใจจริงเลยนะ ขอให้เธอโชคดีได้มง 3 ครับ !
แต่สำหรับผมต้องขอโทษน้องๆด้วยความรู้สึกจากใจจริงไว้ล่วงหน้าว่า ถึงแม้ได้มงกลับมา แต่ความรู้สึกดีใจ ภูมิใจ ผมคงไม่มีให้เหมือนตอนที่ อาภัสรา กับ ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ได้มงนะครับ คงมองแบบยิ้มอ่อนให้แค่นั้นคงพอมั้ง !?”