พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯย้ำว่ามาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด19 ต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ล่าสุดกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทยจับมือเปิด “One stop serviceเราชนะ” เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษทั้งผู้ไม่มีสมาร์ทโฟ หรือผู้ที่ลงทะเบียนไม่ได้ ทางรมว.กระทรวงการคลังได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า เปิดเผยว่า หากพบมีผู้ตกหล่นมากอาจพิจารณาขยายระยะเวลาลงทะเบียนจากเดิมภายใน 5 มี.ค.นี้ออกไปอีกครั้ง
ปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิ์โครงการเราชนะ รวมแล้วมากกว่า 28.1 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วมากกว่า 38,524.6 ล้านบาท ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะมากกว่า 1.01 ล้านกิจการ
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้กลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และ ไม่สามารถลงทะเบียน www.เราชนะ.com ได้ และขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 5 มี.ค.2564 ทั้งนี้รวมไปถึงกลุ่มเปราะบาง หรือ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษด้วย
โดยจุดที่มีการขยายเพิ่มเติมทาง กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจัดหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวที่ไม่สามารถเดินทางไปจุดบริการลงทะเบียนได้ ซึ่งดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน หรือ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ และสำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2564 ทำให้มีจุดรับบริการลงทะเบียนโครงการฯ รวมอย่างน้อย 3,500 แห่งทั่วประเทศ สำหรับการให้บริการประชาชน ใครสะดวกใกล้หน่วยงานไหน สามารถไปขอรับบริการได้
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า มาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มให้มากที่สุด หลายหน่วยงานได้ปรับรูปแบบการดำเนินมาตรการต่างๆ ให้รับกับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการเราชนะ นอกจากการขยายเวลาการลงทะเบียนตามโครงการสำหรับกลุ่มประชาชนผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนไปจนถึงวันที่ 5 มี.ค. จากเดิม 25 ก.พ. 2564 แล้ว กระทรวงการคลังได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการเปิดศูนย์อำนวยความสะดวก One Stop Service โครงการเราชนะแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ในพื้นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ รวมถึงหน่วยรับลงทะเบียนของกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ ซึ่งศูนย์อำนวยความสะดวกนี้จะให้บริการทุกเรื่องของโครงการเราชนะตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการร่วมโครงการแบบครบจบ ณ จุดเดียว
ในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ.2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ลงพื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของจุดบริการ One Stop Service โครงการเราชนะ ได้แก่จุดบริการ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ และที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมสถานคุ้มรองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ เพื่อรับทราบถึงปัญหา ข้อจำกัด การเข้าถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งในครั้งนี้ธนาคารกรุงไทยได้เข้ามาอำนวยความสะดวกรับลงทะเบียนเพื่อร่วมโครงการเราชนะให้แก่กลุ่มคนไร้ที่พึ่ง ณ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ด้วย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของ รมว.คลัง ได้พบประเด็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนว่า ก่อนหน้านี้ประชาชนจำนวนมากไม่ทราบข้อมูลว่าสามารถลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน ณ สาขาธนาคารของรัฐได้ จึงได้ใช้สมาร์ทโฟนของลูกหลานลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิ์ก่อน
อย่างไรก็ตามวิธีนี้จะทำให้มีปัญหาการยืนยันตัวตน และไม่สะดวกในการใช้จ่ายเนื่องจากโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับเจ้าของสิทธิ์ ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความสะดวก หากประชาชนที่ได้ลงทะเบียนด้วยโทรศัพทย์ลูกหลานและได้รับสิทธิ์แล้วยังไม่ได้ยืนยันสิทธิ์ ให้ดำเนินการกดยกเลิกสิทธิ์ในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง หรือหากไม่สะดวกก็ให้นำบัตรประชาชนไปให้เจ้าหน้าที่ ณ One Stop Service โครงการเราชนะ ณ ที่ว่าการอำเภอ ดำเนินการให้ เมื่อแก้ไขแล้วก็สามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประชาชนต่อไป ส่วนประชาชนที่ยังไม่ลงทะเบียนก็สามารถใช้บริการ One stop Serviceโครงการเราชนะ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำทุกขั้นตอนได้ด้วย
รมว.คลังได้ขอบคุณกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส. ออมสิน และเจ้าหน้าที่ทุกๆคนที่ร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนให้โครงการนี้ได้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด พร้อมระบุว่าจะพิจารณาข้อมูลอีกครั้งหากยังเหลือผู้ตกหล่นจากการลงทะเบียนอีกมากก็อาจจะพิจารณาขยายระยะเวลาการลงทะเบียนออกไปจากเดิมภายในวันที่ 5 มี.ค. 2564 ซึ่งจะแจ้งให้ทราบเร็วๆนี้