สรุปชัด การชุมนุม 28 ก.พ. เจ้าหน้าที่เจ็บเพียบ เสียชีวิต 1 ขณะ “ผู้ชุมนุม” บาดเจ็บเล็กน้อย เพราะหกล้ม!!
จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ซึ่งนำโดย “คณะเยาวชนปลดแอก” ได้นัดรวมพล ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในเวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อมุ่งหน้าไปบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการระทรวงกลาโหม ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ โดยอ้างว่าไปทวงคืนภาษีของประชาชน
การบุกไปในครั้งนี้ นักวิชาการจำนวนมาก ต่างมองว่าไม่มีเหตุผลเลยที่จะทำการนำมวลชนบุกไปยังสถานที่ดังกล่าว เพราะมีความเสี่ยงสูงเป็นพื้นที่ของส่วนราชการทหารราบ ที่มีการระวังภัยสูง การไปครั้งนี้จึงมีการมุ่งหวังในสิ่งเดียวคือ ต้องการยั่วยุ ให้เกิดการปะทะ มีเจตนาชัดเพื่อต้องการให้เกิดความรุนแรง
ถึงขนาดที่ขาประจำที่เชียร์ผู้ชุมนุมมาตั้งแต่ต้นอย่าง นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และแพทย์สนามประจำการชุมนุมคณะราษฎร รวมถึง นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ลี้ภัยการเมืองในฝรั่งเศส ต้องเคลื่อนไหวออกมาเพื่อให้หลุดการชุมนุมในวันดังกล่าว เพราะมองเห็นถึงความผิดปกติต่างๆ ของผู้ชุมนุม
แก๊งหลอกเด็ก สุดเอือม “คณะปลดแอก” ส่อแวว “จบแล้ว” ผู้ร่วมชุมนุม มีแต่กลุ่มหัวรุนแรง
ระหว่างการชุมนุม ทางด้าน เพจสาธารณะ “เยาวชนปลดแอก” ก็พยายามที่จะลงคลิปและภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม พร้อมข้อความปลุกระดมชวนเชื่อ โดยที่ไม่ลงถึงต้นสายปลายเหตุใดๆที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการสลายการชุมนุม เพื่อเพิ่มระดับอารมณ์ความโกรธเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของกลุ่มผู้ชุมนุม
แต่แล้วขบวนก็เริ่มเสียขึ้นไปอีกเมื่อกลุ่มผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติฮิวแมนไรท์วอทช์ ที่สนับสนุนผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมมาโดยตลอด อย่าง “นายสุนัย ผาสุก” ต้องออกมาปรามม็อบว่าอย่าโยนให้มือที่สาม เพราะการชุมนุม มีการยั่วยุของกลุ่มผู้ชุมนุมชัดเจน และบางส่วนยังใช้ความรุนแรงอีกด้วย
สุนัย HRW ซัด “ม็อบปลดแอก” เลิกโยนมือที่สาม ยอมรับโดยดี ผู้ชุมนุมยั่วยุ ใช้ความรุนแรง
ในวันที่ 1 มี.ค.64 ทางด้านของ ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหนคร ได้มีรายงานสรุปจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด ในการชุมนุมของกลุ่มปลดแอก เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนมากถึง 33 ราย ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาล
โดยแยกออกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 23 ราย และประชาชนจำนวน 10 ราย และมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่จำนวน 1 ราย โดยได้พาผู้บาดเจ็บทั้งหมดไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 22 ราย โรงพยาบาลราชวิถี 7 ราย (ผู้เสียชีวิต 1 ราย) โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 ราย โรงพยาบาลพระรามเก้า 1 ราย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1 ราย
โดยเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บส่วนมากมีอาการแผลฟกช้ำ บาดแผลจากการโดนหิวหรือของแข็ง ในส่วนของประชาชนส่วนมากเป็นแผลฟกช้ำ หกล้ม และแก๊สน้ำตา ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ที่เสียชีวิต 1 ราย คือ ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ ตำรวจ สน.ธรรมศาลา เกิดจากอาการหัวใจหยุดเต้นขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถี
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ฝั่งไหนที่ถูกกระทำการอย่างรุนแรง ภาพทั้งหมดก็ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยั่วยุหยามเกียรติ และทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ เพียงเพราะคนบางกลุ่มแค่ต้องการภาพ เจ้าหน้าที่ทำการตอบโต้ผู้ชุมนุม เพื่อไปสร้างความชอบธรรมในโลกโซเชียล และปลุกเป็นกระแสต่อเนื่องเท่านั้นเอง