ลูกน้องแห่อาลัย “ผู้กองวัฒน์” ขอบคุณที่คอยห้ามคอยสอน ด้านนายก เสียใจ กำชับดูแลสวัสดิการเต็มที่

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 23.30 น. มีรายงานแจ้งว่า ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสริฐสนิท สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น ถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลส่งโรงพยาบาลราชวิถี โดยแพทย์รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินแล้วทำซีพีอาร์ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสียชีวิตในห้องฉุกเฉิน ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนข้าราชการตำรวจและผู้บังคับบัญชา

ล่าสุดก็ได้มีผู้ใต้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เสริฐสนิท โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก ปาณิชา รังสิปภากิจ  ได้โพสต์ข้อความอาลัยเป็นจำนวนมาก โดยระบุข้อความว่า ขอบคุณ​ วันแรกที่​ ผมเข้ามาอยู่ในชุด​ แล้ว​ มี​ ผู้กองเป็นหัวหน้าชุด ขอบคุณที่สั่งสอนผมมาตลอดว่าอย่าทำ ขอบคุณที่คอยห้ามคอยสอน ขอบคุณรอยยิ้มที่เคยมอบให้ ขอบคุณที่คอยเลี้ยงกาแฟผมกับน้องๆ ขอบคุณที่ไม่เคยด่าเคยบ่นผม ขอบคุณหลายๆอย่าง วันนี้ขอให้​ ผู้กอง​ ไปสู่ภพภูมิที่ดี​ ผมจะคิดถึงผู้กองเสมอ คฝ.ครั้งสุดท้าย​ ไว้อาลัย​ ร.ต.อ.วิวัฒน์​ เสริฐสนิท​ รอง.สว.ป.สน.ธรรมศาลา​ 2-0 สายตรวจชุดปฏิบัติการที่​ 3​ RIP

และยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sureeporn Thepasa Hrd ได้โพสต์อาลัยเช่นกัน โดยระบุข้อความว่า R.I.P พี่วัฒน์ หลับสบายนะคะ พี่ ( ร้อยตำรวจเอก วิวัฒน์ เสริฐสนิท ) ขอแสดงความเสียใจ ให้พี่ ขอให้บุญกุศลที่พี่วัฒน์ และพี่ปุ้ย พร้อมด้วย ตัวข้าพเจ้า และครอบครัว ส่งไปถึงพี่วัฒน์ ขอให้ไปสู่สุขคติ และไปสู่ในภพภูมิที่ดีนะคะ น้องขอให้พี่ ไปอย่าง ภาคภูมิใจในหน้าที่ด้วยค่ะ สาธุๆๆ #สถานีตำรวจธรรมศาลา #สนธรรมศาลา #สถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา #เคารพรัก

ทั้งนี้ ทางด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความเสียใจกรณี ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งไปปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนในเหตุการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายกรัฐมนตรีรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาทุกระดับดูแลสวัสดิการตามระเบียบทางราชการอย่างเต็มที่ และให้กำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่สำคัญจะต้องใส่ใจเรื่องสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือผู้ชุมนุมก็ตาม โดยขอให้ผู้ที่จะชุมนุมตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก ทุกคนมีสิทธิชุมนุมได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่นหรือใช้ความรุนแรง หรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยกในสังคม รวมทั้งฝากความห่วงใยถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ระมัดระวังปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีสากล โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและตนเองเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอร้องสื่อเสนอข่าวการชุมนุม2ด้าน อย่าเสนอเพียงด้านใดด้านหนึ่ง และการใช้กำลังของจนท.เป็นไปตามหลักสากล หลังผู้ชุมนุมได้รุกเข้าพื้นที่หวงห้าม และมีการใช้ความรุนแรงทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมกลุ่มมวลชน “REDEM” ที่เกิดความวุ่นวายถึงขั้นจลาจล ว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต เสียใจกับทางครอบครัวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาก็ตั้งใจทำงาน แต่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้สูญเสียชีวิตและมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถึง 16 คน
เมื่อถามว่า ทำไมสถานการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้กระสุนยางเข้าดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการชี้แจงแล้ว ซึ่งก็เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน

เมื่อถามต่อว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นปัญหาอยู่ที่ว่าไม่ปรากฏแกนนำ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แล้วตนจะทำอย่างไรได้ ก็เขาว่าเขาไม่มีแกนนำ เมื่อถามอีกว่า หลังจากนี้จะมีมาตรการเด็ดขาดหรือสลายการชุมนุม หากมีบุคคลใดสร้างเงื่อนไขสถานการณ์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เขาว่ากันไปตามมาตรการต่างๆ ตามขั้นตอน แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ.