หลังจากที่ศาลอาญาได้ใช้เวลาอ่านคำพิพาษา 6 ชม. ในคดีของกลุ่มกปปส. ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกแกนนำและแนวร่วม กปปส. รวม 39 คน เป็นจำเลย
โดยทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ว่าให้จำคุกคดีที่เกี่ยวข้องกับแกนนำกลุ่มกปปส. โดยมี 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลรวมอยู่ด้วย ว่า เมื่อศาลมีคำตัดสินจำคุกผู้เป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (7) จะหลุดจากตำแหน่งทันทีตั้งแต่มีคำพิพากษา ส่วนตำแหน่ง ส.ส. จะหลุดด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าศาลไม่ได้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองก็ไม่เป็นไร
สำหรับรายชื่อจำเลยคดี ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบไปด้วย
1. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์
2. นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร ประชาธิปัตย์
3. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ บัญชีรายชื่อพลังประชารัฐ และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
4. นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาธิปัตย์
5. นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ประชาธิปัตย์ รมช.คมนาคม
6. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ
7. น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ประชาธิปัตย์
8. นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และการที่ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดังกล่าว ทำให้ทั้ง 3 คนต้องหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีทันทีนั้น ทำให้เป็นที่จับตามองว่าต้องมีการปรับครม. และโควต้านี้พรรคพลังประชารัฐจะได้สิทธิ์ทันทีด้วยเช่นกัน
ล่าสุดในรายการพิเศษเฉพาะกิจ ที่นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และดร.เวทิน ชาติกุล 2 บุคคลสำคัญของสถาบันทิศทางไทย ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงประเด็นร้อนนี้ ทันทีที่ผลคำตัดสินออกมา โดยบางช่วงบางตอน น่าสนใจและชวนให้คิดตามว่า เมื่อ 2 รัฐมนตรีจาก 2 กระทรวงสำคัญหลุดจากตำแหน่ง ใครจะเป็นคนขึ้นมาแทน ซึ่ง 2 กระทรวงนี้ ที่ผ่านมาต้องรับมือกับก๊วนม็อบปลดแอก ม็อบนักเรียนเลว และแกนนำราษฎรมาอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งกระทรวงดิจิทัล นายพุทธิพงษ์ ได้คอยตรวจสอบความผิดในช่องทางโซเชียลและไซเบอร์ต่าง ๆ ที่เป็นชนวนการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบ หากขาดบุคคลสำคัญไป แล้วคนที่ขึ้นมาแทนที่ไม่ได้ยึดหลักการทำงานแบบที่ควรจะเป็น งานนี้รัฐบาลอาจจะต้องพบกับความระส่ำครั้งใหญ่
โดยนายสนธิญาณเราว่า งานนี้รัฐบาลป่วน พรรครัฐบาลป่วน พรรคฝ่ายค้านก็ป่วน และที่สำคัญมันจะทำให้รัฐบาลสั่นคลอน ในกลุ่มทั้งหมด 39 คน แยก 4 กลุ่ม ยกฟ้องไป 12 คน ถัดมารอลงอาญา 6 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว 7 คน และมีคนที่ถูกตัดสินจำคุก 8 คน ยังไม่รู้ว่าจะได้รับการประกันหรือไม่ สำหรับผู้ที่โดน 2 ชั้นได้แก่ ณัฐพล ที่หมดสิทธิ์การเมืองและส.ส. ด้วย
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ คือ พรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีหลุดไป 2 คน แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบรรดานักการเมือง คือฝุ่นตลบ ตั้งแต่ศาลอ่านคำพิพากษา เห็นเค้าลางมาแล้ว ในพรรคจะมีรัฐมนตรีใหม่เกิดขึ้น 2 คน ไม่ได้หมายความว่า 2 คนนี้ที่จะเกิดขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีเลย ทำให้รัฐมนตรีว่าการต้องวิ่งเต้น แล้วพรรคพลังประชารัฐ ถ้าวันนี้ไม่มีพล.อ.ประวิตร ก็เจ๊งไปแล้ว ถ้าวันไหนลุงตู่ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นการเมือง
พลังประชารัฐแตกแน่ บรรยากาศข้างในเวลาบอกว่าเป็นเอกภาพ ๆ แต่ขอพูดกันด้วยหัวใจ ว่ารัฐบาลนี้ อยู่มาได้ ก็เพราะกปปส. ไมได้ทวงบุญคุณ แต่อยากให้เข้าใจ วันนี้ต้องพูดถึงคนที่เสวยอำนาจอยู่ และอยาจะพูดถึง 3 กีบที่จะต้องเรียงหน้ากันเข้าคุก เมื่อโดดลงมาเล่นแบบนี้ก็ต้องรู้ ต้องเข้าใจ
อยู่ ๆ จะลอยมาเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเลย ถ้าไม่ใช้โควต้าท่านนายกฯ ลำบากแน่ เพราะ 2 ตำแหน่งนี้เป็นโควต้าพรรค ให้จับตา 3 รัฐมนตรีช่วย “ธรรมนัส-นฤมล-สันติ” 3 คนนี้อยากเป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่ตลอดเวลา
2 กระทรวงที่หลุดไป ต้องหาแม่ทัพคนใหม่ เพราะเป็นฐานหลักที่ต้องรบกับพวกม็อบ สู้กับพวกล้มเจ้า ที่ผ่านมาทั้งรัฐมนตรี “ตั้น-บี” ก็สู้มาตลอด ในบทบาทของกลุ่มกปปส. คือเต็มที่ ดีมาก พอมาเป็นรัฐมนตรี ก็โดนพวกม็อบ 3 นิ้วเล่นจนแย่ แต่เรารู้ว่าทั้ง 2 คน พยายามรับมือมาตลอด ทั้งเล่นงานในโซเชียล จัดการกลุ่มเฟซบุ๊ก แต่การสู้ของตั้น ไม่ให้ผ่าน เพราะไปง้อเด็กเลว นักเรียนเลวมาชุมนุมไม่กี่ร้อยคน ก็ไปยอม
อยากจะฝากไปยังท่านนายกฯว่า ถ้าจะตั้งใครขึ้นมา อย่าตั้งคนที่ไม่มีทักษะพอเพียง เพราะ 2 กระทรวงนี้สำคัญมาก ถ้าลองตั้งมาแล้วทำอะไรได้น้อยกว่าคนเก่า ประชาชนเอาตาย ขนาดบี-ตั้น ทำงานโอเคยังแทบแย่ เมื่อเจอม็อบล้มเจ้าเข้าไป แทบเซ จะตั้งคนใหม่ก็ต้องหาคนที่เอาม็อบอยู่หมัด รับมือได้ ไม่อย่างงั้นฟันธงไว้เลยว่าพรรครัฐบาลตาย และนายกฯก็จะแย่สาหัสด้วย