จากที่วานนี้ (24 ก.พ. 2564) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดี กลุ่มกปปส. ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.กับพวกรวม 39 คน เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2561
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายสุเทพ 5 ปี และพวกรวม 26 คน โดยมีโทษจำคุกแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 9 ปี 24 เดือน ส่วนข้อหาความผิดฐานกบฎและก่อการร้ายยกฟ้อง เพราะพฤติการณ์ชุมนุมไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลใด เพื่อล้มล้างการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ นิติบัญญัติ อำนาจบริหาร จึงไม่เป็นความผิดตามฐานดังกล่าว ส่วนข้อหาอื่นพิพากษาจำคุก
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว มีผลพิพากษาจำคุกจำเลยสำคัญคือนายสุเทพ จำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี, นายชุมพล จำเลยที่ 3 จำคุก 9 ปี 24 เดือน, นายพุทธิพงษ์ จำเลยที่ 4 จำคุก 7 ปี, นายอิสสระ จำเลยที่ 5 จำคุก 7 ปี 16 เดือน, นายวิทยา จำเลยที่ 6 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท, นายถาวร จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี, นายณัฏฐพล จำเลยที่ 8 จำคุก 6 ปี 16 เดือน, นายเอกนัฏ จำเลยที่ 9 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท และนายสุวิทย์ จำเลยที่ 16 จำคุก 4 ปี 8 เดือน
นอกจากนี้ยังยกฟ้องจำเลย 12 คนได้แก่ จำเลยที่ 2,13,18,21,22,23,27,28,31,32,36,39 ขณะที่จำเลย 1 คนเสียชีวิตระหว่างการพิจารณาคดี (พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ) ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ทางด้าน พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อมีโจรที่มีอำนาจรัฐในการบริหารราชการแผ่นดินปล้นชาติ ท่านผู้พิพากษาในฐานะประชาชนคิดอย่างไร???
เมื่อประชาชนลุกฮือ ขับไล่โจรปล้นชาติ โดยที่ไม่สามารถพึ่งใครได้ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐล้วนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของโจร ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย…ท่านผู้พิพากษาในฐานะประชาชนคิดว่าประชาชนจะสู้อย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมายในการขับไล่โจรซึ่งมีอำนาจรัฐในการบริหารราชการแผ่นดินที่สามารถสั่งการบังคับใช้กฎหมายได้…เมื่อประชาชนจนตรอกและจำต้องต่อสู้แม้จะต้องสู้อย่างผิดกฎหมายก็ตาม
วิญญูชนอย่างผม เมื่อผมไม่สามารถพึ่งใครได้ตามกฎหมาย ผมก็จะตัดสินใจบุกบ้านโจร บุกที่ทำงานโจร แม้ที่ทำงานโจรนั้นจะเป็นสถานที่ราชการที่โจรมีอำนาจรัฐสั่งการบังคับบัญชาก็ตาม วิญญูชนอย่างผมก็จะบุกเพื่อขับไล่โจรออกไป…ถึงแม้การบุกรุกขับไล่นั้นจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ตาม…ในที่สุดมีทหารทนเห็นผมบุกรุกขับไล่โจรโดยไม่มีอำนาจใดๆเลยในการต่อสู้กับโจร ทหารก็มาช่วยผมขับไล่โจรออกไปในที่สุด
ในขณะที่ผมกำลังบุกรุกที่ทำงานโจรซึ่งเป็นสถานที่ราชการที่โจรมีอำนาจอยู่ในขณะนั้น โจรก็สั่งการให้ตำรวจและอัยการในขณะนั้นดำเนินคดีกับผม…หลายปีต่อมาคดีที่ผมถูกดำเนินคดีสู่การตัดสินของศาลชั้นต้นซึ่งพิพากษาว่าการขับไล่โจรของผม ไม่ใช่กบฎ แต่เป็นการผิดกฎหมายเพราะบุกรุกสถานที่ราชการ ศาลชั้นต้นจึงสั่งขังผม…แล้วผมก็ขอประกันตัวสู้คดีในศาลอุทธรณ์หรืออาจต้องถึงศาลฎีกาต่อไปให้ถึงที่สุด…การบุกรุกที่ทำงานโจรซึ่งเป็นสถานที่ราชการของผมนั้น…ไม่ใช่การบุกรุกที่เข้าไปเพื่อปล้นทรัพย์สินหรือทำลายทรัพย์สินของราชการ แต่เป็นการบุกรุกเพื่อขับไล่โจรให้ออกไปเท่านั้น…ที่สำคัญ โจรนั้น ไม่ใช่โจรธรรมดา แต่เป็นโจรปล้นชาติครับ…การบุกรุกของผมจึงมีเหตุอันควรให้รอลงอาญาแผ่นดินเพราะไม่ได้ปล้นทรัพย์สินหรือทำลายทรัพย์สินของราชการแต่บุกรุกเข้าไปเพื่อขับไล่โจรปล้นชาติ
ผมในที่นี้ ไม่ใช่ พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา นะครับ…แต่ผมในที่นี้ คือ แกนนำ กปปส ทุกท่าน …ท่านทั้งหลาย คือ ‘วีรบุรุษผู้กล้าหาญและเสียสละอย่างสูงยิ่ง’ ที่มึคุณูปการต่อชาติและราชบัลลัง…ท่านสมควรยิ่งที่จะได้รับการรอลงอาญาในชั้นอุทธรณ์หรือแม้แต่ศาลฎีกาเมื่อถึงที่สุดแห่งคดี
ด้วยความเคารพศรัทธาอย่างสูงยิ่งต่อแกนนำ กปปส ทุกท่าน พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา หนึ่งในมวลชน กปปส. 25 ก.พ.64
ขณะที่ทางด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า #ภารกิจเพื่อชาติ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมขอให้กำลังใจลุงกำนันสุเทพ และพี่น้องกปปส.ทุกท่านครับ ผมถือว่าทุกท่านได้เสียสละ อย่างยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติและบ้านเมืองของเรา #ให้กำลังใจครับ