Truthforyou

“สมบัติ” ขำหนัก “สามกีบ” ย้อนแย้ง หยาม ต.ร.เป็นหมา แต่วันนี้มาขอเป็นพวก!?

จากกณีที่ เพจเฟซบุ๊ก “ราษฎร” รวมถึงเพจเครือข่ายต่าง ๆ เช่น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมถึงช่องทางอื่น ๆ ในทวิตเตอร์ ออกมาเคลื่อนไหวโหนกระแสตั๋วช้างจากการอภิปรายของ ส.ส.รังสิมันต์ โรม

โดยได้โพสต์แจ้งการนัดชุมนุมระบุข้อความว่า “ราษฎรกระจายข่าว ม็อบตำรวจล้มช้าง ผลงานดี ผลงานเด่น ถ้าไม่วิ่งเต้นก็อยู่กับที่ เราจะชวนพี่ตำรวจทุกคนที่ไม่มีตั๋วช้าง มาล้มช้างกัน ตำรวจเอ๋ยยย ถึงเวลาเลือก จะอยู่ข้างราษฎร หรือทรราชย์

วันอังคารที่ 23 ก.พ. พบกันราชประสงค์ เวลา 17.00 น. พบกิจกรรมสนุก ๆ ภายในม็อบ ของแจก ของแถม ช้าง ๆ ทั้งนั้น ปิดท้ายด้วยบทเพลงที่คุณไม่ต้องซ้อม ก็ร้องกันได้ อย่าลืม!!! มาล้มช้างด้วยกันนนนน ผู้พิทักษ์สันติราษฎรจะฟาดตั๋วช้าง”
นายสมบัติ ทองย้อย การ์ดเสื้อแดง และแนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วิพากษ์วิจารณ์ “กลุ่มราษฎร” ที่ชุมนุมกันที่บริเวณแยกราชประสงค์(วานนี้) ก่อนยกขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนเคียงข้างการต่อสู้กับเผด็จการและความอยุติธรรม

ทั้งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ 23 ก.พ. ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิร์ล แยกราชประสงค์ ตั้งแต่เมื่อเวลา17.00น. กลุ่มแนวร่วมม็อบราษฎร ได้นัดจัดกิจกรรม “ม็อบตำรวจล้มช้าง ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะฟาดตั๋วช้าง” ซึ่งบรรยากาศในบริเวณดังกล่าว ได้เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางเข้าร่วมการชุมนุม โดยได้เริ่มตั้งขบวนบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัล เวิร์ล ให้แถวยาวไปถึงบริเวณสะพานลอยทางเชื่อมเข้าห้างเกสรพลาซ่า

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้ชุมนุมได้ประกาศว่า เมื่อมวลชนมาสมทบเป็นจำนวนมากแล้ว จะเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)

ขณะเดียวกันยังได้มีการแจกแผ่นสติ๊กเกอร์ตั๋วเป็นรูปช้างสีน้ำเงิน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปช้างน้อยให้กับผู้มาชุมนุมอีกด้วย สำหรับบริเวณโดยรอบมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลการจราจรเพียงเท่านั้น ส่วนภายในสตช.ตำรวจได้เตรียมความพร้อมรับการชุมนุม โดยเตรียมวางกำลังตำรวจ ชุดควบคุมฝูงชน พร้อมอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนทั้งโล่ กระบอง เดินทางเข้ามาสแตนบายรอคำสั่งในที่ตั้ง รวมทั้งมีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูง จำนวน 2 คัน รถบรรทุกน้ำ 2 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องขยายเสียงงานประชาสัมพันธ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) จำนวน 1 คัน รถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียงของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) จำนวน 1 คัน เข้ามาจอดอยู่ภายในรั้วของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้รับมือการชุมนุม

ด้านนายธัชพงศ์ แกดำ แนวร่วมกลุ่มราษฎร ได้ขึ้นปราศรัยผ่านรถขยายเสียงว่า การชุมนุมวันนี้ เราจะเป็นมิตรกับตำรวจ เรามาอย่างสันติ จะไม่มีการพ่นสี สาดสีใส่ตำรวจ เราจะพูดถึงตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้รับการดูแล เหมือนตำรวจที่มีตั๋วช้าง เพราะวันนี้ตำรวจจะยืนอยู่ข้างเรา เราเชื่อมั่นในหลักการคนเท่ากัน ตำรวจก็คนเหมือนกันจะไม่มีการมายั่วยุ ไม่มีการปะทะ ไม่ว่าจะจากฝั่งใด ใครก็ตามที่จะปะทะ เราจะคอยห้ามปราม และใช้แนวทางสันติวิธี

“ทราบว่าวันนี้ตำรวจมีรถน้ำมาด้วย แต่เราไม่ต้องไปทำอะไรเขา ให้หัวใจพูดกับเขา ขอให้ตำรวจเปิดใจรับฟังเรา คำว่าตั๋วช้างมีมานานแล้ว แต่มาหนักยุคคสช. ที่ให้ทหารมาคุมตำรวจ ทำให้เห็นว่าทหารพยายามให้ตำรวจมาอยู่ใต้ตีน ตำรวจอยู่ใกล้กับประชาชนมากที่สุด แต่รัฐบาลประยุทธ์ พยายามทำให้ตำรวจเป็นศัตรูกับประชาชน จริง ๆ แล้วไม่ใช่ตำรวจที่เป็นศัตรูกับเรา แต่เป็นทหารต่างหากที่ต้องการเป็นศัตรูกับเรา” นานธัชพงศ์ กล่าว

ล่าสุด นายสมบัติ ทองย้อย การ์ดเสื้อแดง และแนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า
โดยนายสมบัติ โพสต์ว่า “เทอาหารหมาให้ตำรวจ เอาสีสาดตำรวจ เอาน้ำแดงสาดตำรวจ ด่าพ่อล่อแม่ตำรวจ คฝ. เสียๆ หายๆ ไม่ให้เกียรติตำรวจชั้นผู้ใหญ่ บุกโรงพักตำรวจ สาดสีใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คิดว่าสิ่งเหล่านี้ ตำรวจเขาไม่มีสมองจะจำหรือ ว่าทำอะไรกับพวกเขาไว้บ้าง แล้ววันดีคืนดี มาชวนตำรวจเป็นพวก หุหุ เป็นยุทธศาสตร์ที่โคตรดีเลย”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พฤติกรรมของม็อบที่แสดงท่าทีต่อตำรวจในด้านลบนั้นมีอยู่หลายเหตุการณ์ เช่น กรณีที่มีการชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้พ่นสีเป็นข้อความต่าง ๆ บริเวณรั้ว ประตูทางเข้า รวมทั้งป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งยังมีปืนฉีดน้ำใส่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ประจำการบริเวณรั้ว

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายสิริชัย นาถึง หรือนิว อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในตอนนั้นโลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้รวมตัวกันบริเวณหน้า สภ.คลองหลวง เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายสิริชัย แต่ปรากฏว่าได้มีการกระทำดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดยโปรยอาหารสุนัขให้บริเวณด้านหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนั่งเรียงแถวควบคุมเหตุการณ์ไม่ให้วุ่นวาย อีกทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้พ่นสีด้วยถ้อยคำหยาบคายบริเวณตึกอาคารสถานที่ราชการอีกด้วย

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 มีรายงานว่ากองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 3 มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากผู้ชุมนุมราษฎรติดป้าย “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่หน้า สภ. จาก การชุมนุมของ “ราษฎร” ผู้ชุมนุมนำป้าย “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” และ “#saveเมียนมาร์” ขึ้นแขวนหน้า สภ.ภูเขียว ตำรวจได้เข้ายื้อแย่งป้าย เกิดการโต้เถียงกันกว่า 5 นาที ก่อนผู้ชุมนุมนำป้ายขึ้นแขวนอีกครั้ง และเปิดเวทีปราศรัยได้

แม้ว่าต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ายึดทั้งสองป้าย ขณะที่ผู้ชุมนุมเก็บเต็นท์ออกจากหน้า สภ. แม้ทางผู้ชุมนุมจะเจรจาขอคืนแต่ตำรวจระบุว่าเป็นพยานหลักฐานโดยที่ไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย และการกระทำดังกล่าวของผู้ชุมนุม เป็นเหตุให้ มีคําสั่งให้เด้ง ว่าที่ พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก.สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ

และ15 ม.ค. 2564 ที่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี นายชยพล ดโนทัย หรือ เดฟ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2 คณะรัฐศาสตร์ หนึ่งในสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามมาตรา 112 โดยมี นายพริษฐ์ ชิวรักษ์ หรือเพนกวิน และรุ้ง – ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร และกลุ่มการ์ด wevo ร่วมเดินทางไปด้วย โดยมีรายงานว่าวันดังกล่าว กลุ่มราษฎรได้ปลดงชาติลงมาจากยอดเสาธง หน้าสภ.คลองหลวง โดยมีกลุ่มการ์ด Wevo ใส่ชุดดำได้ล้อมเสาธงไว้ให้กลุ่มราษฎร นำผืนธงสีแดงมีหมายเลข 112 สีขาว สื่อถึงการต่อต้านประมวลกฎหมายอาญา 112 ชักขึ้นสู่ยอดเสาแทน แล้วโรยดอกไม้จันทน์ไว้บริเวณรอบเสาธง

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองหลวง 8 นายได้เดินไปที่เสาธงเพื่อนำธงสีแดง 112 ลงมา แล้วอัญเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเขาดังเดิม โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เก็บธงสีแดง 12 ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เนื่องจากกลุ่มราษฎรได้ทำแย่งธงคืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ยอมคืนให้จากนั้นกลุ่มราษฎรได้นำป้ายมีข้อความว่า สถานที่จัดแสดงคอกสุนัขทรงเลี้ยงจากภาษีประชาชน กางขึงไว้ที่หน้าสภ.คลองหลวง

ทั้งนี้พฤติกรรมของม็อบนั้นได้เหยียดหยามย่ำยีดูถูกอาชีพตำรวจ มาอย่างโดยตลอด โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อยที่ม็อบอ้างว่าถูกกดขี่และกำลังพยายามชวนไปเข้าร่วมนั้น คือกลุ่มคนที่โดนม็อบย่ำยีเกียรติมากที่สุด

Exit mobile version