จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (23 ก.พ. 64) อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริและอาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ได้ยื่นทำเรื่องยื่นประกันตัว สำหรับคดีความม.112 ของแกนนำ 4 ราษฎร
ได้แก่ ทนายอานนท์ นำภา พริษฐ์ ชิวารักษ์ สมยศ พฤกษาเกษมสุข และปฏิวัติ สาหร่ายแย้ม ซึ่งถูกขังระหว่างพิจารณาคดีมาเป็นเวลากว่า 14 วันแล้ว นั้น
ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว 4 แกนนำราษฎรเป็นครั้งที่ 3 เห็นว่าศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตโดยแสดงเหตุผลไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว กรณีมีเหตุอันควรให้เชื่อว่าจำเลยจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้อีก จึงยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ต่อมา เฟซบุ๊กของนายอานนท์ นำภา ได้โพสต์ข้อควาระบุว่า
“ขออนุญาตแจ้งเรื่องการดูแลอานนท์และเพื่อน
อีก 3 คน ในเรือนจำ เนื่องจากทั้ง 4 คน อาจจะ
ถูกขังแยกแดนในวันพุธที่จะถึงนี้ หลังจากพ้น
ระยะกักโควิด 14 วัน จึงขอแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับ
การเยี่ยมและการฝากเงินดังนี้
1.เรือนจำไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมนักโทษ
นับตั้งแต่ธ.ค. 63 เป็นต้นมา จากสถานการณ์
โควิดจนถึงปัจจุบัน (22 ก.พ.) ยังไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ “ทนาย” เป็นคนกลุ่มเดียว
ที่เข้าเยี่ยมได้ จึงแจ้งมาเพื่อให้ทุกคนไม่ต้อง
เสียเวลาเดินทางไปเยี่ยม (หากมีการเปลี่ยนแปลง
กฎการเยี่ยมจะแจ้งให้ทราบโดยทันที)
2.การซื้อของหรือฝากเงินให้คนทั้ง 4 ภายหลัง
มีการแยกแดนแล้ว จะกระทำได้เฉพาะผู้ที่มี
รายชื่ออยู่ใน “10 รายชื่อ” ที่เรือนจำอนุญาต
โดยทั้ง 4 จะเป็นผู้เขียนชื่อและแจ้งผ่านทนาย
ว่าทั้ง 10 คนของแต่ละคนจะมีใครบ้าง
ด้วยความห่วงใยจากครอบครัว จึงไม่อยาก
ให้เกิดการแอบอ้างจากผู้ไม่หวังดี/มิจฉาชีพว่า
สามารถฝากเงินช่วยเหลือได้ ทุกท่านควร
ตรวจสอบโดยการขอดูใบเสร็จการซื้อของเยี่ยม
ตรวจสอบวันที่และชื่อของผู้ซื้อของ/ชื่อของ
ผู้ที่ได้รับฝากของ เพื่อความชัดเจน
3.เงินที่ผู้ต้องขังจะครอบครองได้สูงสุดคือ
15,000 บาท/เดือน (เมื่อก่อนสูงสุด 9,000)
ไม่สามารถครอบครองเกินจากนี้ได้
ค่าใช้จ่ายรายวันในการซื้อของเยี่ยม
แยกกันจากเงินฝากส่วนนี้ หากจะต้อง
ซื้ออาหารเพื่อเยี่ยมทุกวัน ค่าใช้จ่ายรายเดือน
ต่อคนอาจจะตกอยู่ที่ราว 20,000-30,000 บาท
ต่อเดือน ในกรณีที่ถูกขังเป็นเวลานาน
4.เนื่องจากเหตุผลทางด้านการ
จำกัดคนเข้าเยี่ยม-การจำกัดรายชื่อ
และความสะดวกต่อการจัดการดูแลเพื่อนๆ
อย่างเป็นระบบ สำหรับผู้ที่ประสงค์ช่วยเหลือ
สมทบทุน สามารถฝากเงิน/โอนเงิน ทางบัญชี
ของอานนท์ ธ.ออมสิน 054011462840
ครอบครัวและเพื่อนทนายของอานนท์
จะนำเงินไปดูแลทั้ง 4 คน เท่าที่ทำได้
และจะโพสต์ยอดการบริจาครวมถึง
ความคืบหน้า-สลิปของเงินที่ฝากและ
ซื้อของไป ทุกครั้งของการฝากเงิน
(เนื่องจากสลิปเป็นข้อมูลส่วนตัวขอความ
กรุณาไม่โพสต์สลิปใต้คอมเมนต์เพื่อ
ความปลอดภัยของท่านเอง หากอยากแจ้ง
ให้ทราบกรุณาส่งทางหลังไมค์)
5.หากทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว
ทางครอบครัวจะโพสต์แสดงยอดเงิน
ในบัญชีที่เหลือล่าสุดและโอนเงินที่เหลือ
เข้า กองทุนราษฎรประสงค์
22 ก.พ. 64
เชื่อมั่นและศรัทธา
ครอบครัวอานนท์”
ต่อมา นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า
“ในคุกอยู่ฟรีกินฟรีไม่ต้องเสียค่าน้ำค่าไฟเจ็บไข้มีหมอรักษาจะรับบริจากสะสมไว้รวยตอนออกมาเรอะ อยู่ข้างในต้องสมถะอู่ฟู่ไม่ได้”
“หวังรวยทั้งในคุกนอกคุกเรอะ..ก่อนเข้าคุกมีเงินในบัญชีธนาคารสิบล้านบาท ทั้งๆไม่มีงานทำเป็น น.ศ. เข้าอยู่ในคุกครอบครัวเปิดบัญชีรับบริจากอีก พวกมึงหาความร่ำรวยกับหมิ่นเจ้าเรอะ…”