ส.ส.เต้ ทวงเครื่องราชย์ คาใจถูกแกล้ง พ้อไม่อยากโดนเข้าใจผิดไม่จงรักภักดี

3483

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ได้ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจนเสร็จสิ้น แต่ได้อภิปรายต่อนอกประเด็น

โดยระบุว่า ตนขอถามไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี แทนเพื่อนสมาชิก 20 คน ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามที่กฎหมายกำหนด และสภาผู้แทนราษฎรได้คัดกรองเบื้องต้น ส่งไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาว่าผ่านหรือไม่ผ่านคุณสมบัติ ตนขอถามว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการหรือไม่ ที่พวกตนส่วนใหญ่เป็นผู้ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล

“แต่มีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลบางคนขาดคุณสมบัติถูกจำคุกถึงที่สุดและพ้นสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังได้สิทธิ์นี้ ฉะนั้นผมไม่อยากให้ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศเข้าใจผมผิดว่า ที่ผมไม่ได้เพราะตนอาจเป็นผู้ไม่จงรักภักดี” นายมงคลกิตติ์กล่าว

โดย ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2563 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 รวมทั้งสิ้น 31,268 คน ประกอบด้วย ชั้นสายสะพาย จำนวน 30,042 ราย และชั้นต่ำกว่าสายสะพายสำหรับบุคคลบางประเภท จำนวน 1,226 ราย ซึ่งพบว่ามีทั้งรัฐมนตรี, อดีตรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างมีชื่อได้รับเป็นจำนวนมาก

ในครั้งนั้น นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ออกมาโพสต์รูปภาพ เอกสารร้องเรียนกรณีไม่ถูกเสนอชื่อขอรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง พร้อมกับได้ระบุข้อความว่า “มาตามเหตุผลไม่ได้รับเครื่อราชฯ #ส.ส.เต้007& ส.ส.เอ๋ พระบาท

เท่าที่เช็กแล้วที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเอกสารนำส่งตรวจคุณสมบัติ ยืนยันคุณสมบัติ ทางประธานสภาผู้แทนราษฎรสรุปว่ามีรายชื่อทั้ง 2 รายผ่านคุณสมบัติ นำส่งที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว และได้ทราบจากกองงานสำนักเครื่องราชฯ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาในส่วนของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล-ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว. รอหนังสือตอบมาว่าเป็นอย่างไร”

โดยในเอกสารดังกล่าวได้มีการตั้งคำถาม 3 ข้อ ไปถึงสำนักงานนายกรัฐมนตรีถึงสาเหตุแห่งการไม่ได้รับพระราชทาน คือ

1. ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งรายชื่อขอรับพระราชทานมายังสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่

2. สำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาส่งเพื่อขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือไม่

3. สาเหตุที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับพระราชทานเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์คืออะไร

อย่างไรก็ตาม จากเรื่องดังกล่าวจึงได้ย้อนไปที่กรณีของ ส.ส. อย่างน้อย 25 ราย ซึ่งเป็น ส.ส. พรรคก้าวไกล เเละอีก 7 ราย เป็นอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทั้งยังพบว่า ส.ส.ก้าวไกลทั้ง 7 ราย ประกอบไปด้วย นายคารม พลพรกลาง, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร, นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์, นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายวาโย อัศวรุ่งเรือง และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กรอกเอกสารและลงนามในช่วงวันที่ 23-24 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา โดย ส.ส. บางคนกรอกขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ให้กับคู่สมรสด้วย

ซึ่งจากกรณีนี้เองที่กลายเป็นที่กังขาของคนในสังคม เนื่องจากพรรคก้าวไกล มีแนวทางชัดเจนว่าสนับสนุนกลุ่มม็อบราษฎร ซึ่งมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อสถาบันฯ เหตุใดถึงยื่นเรื่องขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์

และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายระบุว่า “พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน มักใหญ่ใฝ่สูงหมายจะเอาเงินภาษีของประชาชนไปสร้างซีนให้กับตนเอง คุยโม้คุยโต โง่แล้วอยากนอนเตียง เอาชีวิตของราษฎรไปขึ้นเขียง เอาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนไปเสี่ยงกับบริษัทเอกชนที่เพิ่งรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และน่าจะไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน นี่หรือคนที่อ้างว่าสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และที่กล้าที่จะเป็นเหลือบ ลิ้น ไร ปรสิต โหนนำสถาบันมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ความผิดตัวเองคนคู่นี้ แค่เดินเฉียดเงาผมยังรู้สึกรังเกียจ แค่คิดว่าต้องหายใจเอาอากาศร่วมกันกับคนสองคนนี้ ก็รู้สึกขยะแขยง จึงไม่อาจให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ และรมว.สาธารณสุขได้ต่อไป”

จากกรณีดังกล่าวเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงการอภิปรายของนายวิโรจน์ ว่าเอาเรื่องของวัคซีนโควิดมาโหนโจมตีสถาบัน และยังขาดข้อมูลที่เป็นจริงด้วย