สามกีบ โป๊ะแตก DNA ยันเอง “นิว” ไม่ใช่แพทย์อาสา มีหน้าที่แบกกระเป๋าแทนหมอ-พยาบาล วอนอย่าเบี่ยงประเด็นถูกทำร้าย
จากกรณีที่กลุ่มราษฎร เคลื่อนขบวนด้วยการเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าไปยังศาลหลักเมือง เพื่อทำพิธีทวงจิตวิญญาณเมืองกลับมาเป็นของราษฎร และได้มีการชุมนุมที่หน้าศาลฎีกา
ต่อมาสมาชิกทวิตเตอร์ “@VolunteerMedTH” บุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัคร ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 20 วินาที เผยให้เห็นนาทีที่หนึ่งในทีมแพทย์พยายามหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุ แต่สตาร์ทจักรยานยนต์ไม่ติด ก่อนที่ทางตำรวจควบคุมฝูงชนจะมีการควบคุมตัวไป และได้เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าล้อมรถทีมแพทย์อาสาและจับกุมได้ล็อกตัวและกดลงกับพื้น จนมีภาพหลุดออกมาในโลกโซเชียลฯ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ต่อมาทางด้านของ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง ได้ออกมาโพสต์คลิปอีกด้าน โดยระบุข้อความว่า
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวถึงปรากฏภาพที่อาจเข้าใจว่าตำรวจรุมทำร้ายบุคคลที่อ้างตัวเป็นพยาบาลอาสา (กั๊กเขียว) เป็น 1 ใน 8 ของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อความวุ่นวาย จากการสอบประวัติไม่พบว่าเคยศึกษาหรืออบรมหลักสูตรทางด้านการแพทย์ หรือสหวิชาชีพพยาบาล สอดคล้องกับทางแพทยสภาได้ออกมาระบุว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่แพทย์อาสา โดยเห็นพ้องกันว่าควรมีการจัดระบบลงทะเบียน เพื่อป้องกันการแอบอ้างและผู้ที่เป็นแพทย์อาสา ควรแต่งเครื่องแบบ หรือมีตราสัญลักษณ์บ่งบอกให้ชัดเจน
ล่าสุด ทวิตเตอร์ “@VolunteerMedTH” ของ DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร ได้ออกมาโพสต์ข้อความอธิบายให้สังคมเข้าใจหลังเกิดกรณีวิพากษ์วิจารณ์ว่า “นิว” ชายวัย 19 หนึ่งในกลุ่ม DNA เป็นแพทย์หรือพยาบาลหรือไม่ โดยได้ระบุข้อความว่า
“น้องนิว” เด็กอายุ 19 ไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็น แพทย์ พยาบาล หรือสหวิชาชีพ แต่บอกเสมอเป็นสมาชิกทีมแพทย์อาสา น้องทำงานภายใต้การดูแลของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในทีม น้องจะทำหน้าที่แบกกระเป๋าพยาบาลซึ่งค่อนข้างหนัก แทนแพทย์และพยาบาล เพื่อให้แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ในทีมสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างสะดวก และจะเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ที่ช่วยนำบุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงตัวผู้ป่วยเจ็บ และเปิดเส้นทางให้รถพยาบาล
ซึ่งงานที่น้องทำไม่จำเป็นต้องมีใบประกอบวิชาชีพ และน้องยินดีและภูมิใจในหน้าที่ที่น้องได้รับมอบหมายเสมอ ถึงแม้จะต้องแบกเป้หนักๆ ก็ตาม และน้องมีความใฝ่ฝันอยากเรียนต่อหลักสูตรเวชกิจฉุกเฉิน เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างที่น้องต้องการ บุคลากรทางการแพทย์มิได้มีเพียงแพทย์หรือพยาบาลเท่านั้น แต่นั่นรวมถึงสหวิชาชีพทางการแพทย์ และอาสาสมัคร การโจมตีเรื่องน้องเป็นแพทย์ พยาบาล หรือไม่นั่น เป็นการโจมตีที่พยายามเบี่ยงประเด็นที่น้องถูกทำร้าย ซึ่งไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
เด็กอายุ 19 ปี คนนี้ได้เสียสละเวลา เสียสละค่าเงินทอง ในการมาเป็นอาสาสมัคร ในทีม DNA ที่มิได้มีค่าตอบแทนใดๆ น้องมาด้วยใจที่อยากช่วยเหลือประชาชนด้วยใจจริง