“ศิษย์เก่าสารพัดช่างพระนคร” ประณาม “การ์ด3กีบ” รุมยำ4นศ.-แม่ค้าอ้างเข้าใจผิดเหตุปะทะหน้าเซเว่น

3512

จากกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในการชุมนุมของม็อบราษฎร บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 ก.พ. 64 มีสำนักข่าวหลายสำนักได้รายวานถึงกรณีที่การ์ดอาชีวะ รายหนึ่งถูกยิง

ขณะที่ตามข่าวรายงานว่า มือปืนหลบหนีเข้าไปในได้มีเหตุความวุ่นวายภายใน 7-11 สาขาถนนกะออม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมร้านสะดวกซื้อเอาไว้ กลุ่มการ์ดอาชีวะและมวลชนประมาณ 100 คน พยายามบุกเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่จึงเข้าระงับเหตุ ก่อนทำการจับกุมคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นได้ 1 คน พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ยังไม่ทราบขนาด จำนวน 1 กระบอก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตำรวจนำคนร้ายขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาจากหน้าร้าน 7-11 มุ่งหน้าไป สน.นางเลิ้ง ได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นอีกครั้ง เมื่อการ์ดอาชีวะและมวลชนทั้งหมดพยายามเข้ารุมประชาทัณฑ์คนร้าย มีการ์ด 2 คน กระโดดเกาะรถควบคุมผู้ต้องหาของตำรวจมาถึงด้านในโรงพัก ทำให้มวลชนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า ตำรวจจะจับกุมพวกตนเองด้วย จึงมารวมตัวกันที่หน้าโรงพักอีกรอบหนึ่ง พยายามขว้างปาข้าวของ และบุกเข้ามาในรั้ว จนตำรวจต้องยิงปืนขู่ พร้อมประสานกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) 1 กองร้อยมาเตรียมการระงับเหตุที่บริเวณถนนราชดำเนินนอก

ขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดอยู่นั้น ทาง พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้เรียกหัวหน้าการ์ดอาชีวะเข้าเจรจา ก่อนยินยอมตกลงปล่อยตัวพรรคพวกที่ติดร่างแหขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหามาด้วย ทั้ง 2 ราย สถานการณ์จึงคลี่คลาย ทำให้มวลชนและกลุ่มการ์ดอาชีวะอาสาสมัครส่วนใหญ่พากันเดินทางกลับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อมือปืนที่ยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนมีคนได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

แกนนำคนหนึ่งของกลุ่มการ์ดอาสาสมัคร ได้ข้อมูลว่า หลังจากที่มีการประกาศยกเลิกการชุมนุม ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ระหว่างที่มีมวลชนแยกย้ายเดินเท้ากลับที่พัก ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้จยย.เป็นยานพาหนะขับไปป่วนกลุ่มการ์ดอาชีวะด้านหน้าแมคโดนัล ถนนราชดำเนินกลาง ก่อนใช้ปืนไม่ทราบขนาด คาดว่าเป็นลูกซองสั้น ยิงใส่ 1 นัด กระสุนถูกนายแบงก์ อายุ 17 ปี นักเรียนอาชีวะซึ่งเดินทางมาเป็นการ์ดอาสา เข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำตัวส่ง รพ.วชิรพยาบาล

จากนั้นทางมวลชนและการ์ดอาสา จึงได้ถอยมาที่บริเวณแยกผ่านฟ้า กระทั่งพบตัวผู้ต้องสงสัยกลุ่มเดิม จำนวน 3 คน บนถนนนครสวรรค์ ทำให้เกิดการไล่ล่ากันขึ้น โดยผู้ต้องหา ทั้ง 3 คน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปใน 7-11 สาขาถนนกะออม และใช้ปืนยิงสวนใส่กลุ่มที่กำลังไล่ล่าออกมาอีก 1 นัด กระสุนถูก นายเมฆ อายุ 17 ปี นักเรียนอาชีวะอีกคนที่มาทำหน้าที่ การ์ดอาสา เข้าที่หน้าท้องและเเขนอาการสาหัสถูกนำตัวส่ง รพ.กลาง ซึ่งระหว่างนั้นมีคนร้ายใช้ช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ 2 คน โดนมวลชนล้อมรอตำรวจมาจับกุมได้ 1 คน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อวานนี้ 15 ก.พ. 64 เพจเฟซบุ๊ก “ศิษย์เก่าสารพัดช่างพระนคร” ได้ออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย จากเหตุการณ์ทำร้ายนักศึกษาของสถาบัน เมื่อการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า

เรื่อง เหตุการณ์ วันที่ 13 กุมกาพันธ์ 2564
เนื่องด้วยเหตุการณ์คืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมรียกร้องประชาธิปไตยมา ชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเกิดเหตุปะทะกันทำมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลังจากนั้น ในเวลา ต่อมาได้มี กลุ่มวัยรุ่นจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 คน มาที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า เข้ามารุมทำร้ายวัยรุ่นจำนวน 4 คนที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แล้วมีการปิดล้อมร้านสะดวกซื้อ 7-eleven

ซึ่งตอนหลังสืบทราบมาว่าเป็นเด็กนักศึกษาปัจจุบันของวิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร ซึ่งได้มานั่งเล่นบริเวณสะพานผ่านฟ้า และกินอาหารอยู่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเกิดการเข้าใจผิดจึงได้รุมทำร้าย

ทางชมรมศิษย์เก่าจึงขอประณามการกระทำดังกล่าว โดยทางกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตย นำภาพนิ่ง และภาพการดักทำร้ายน้องๆ ผ่านสื่อโซเชียล ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวน้องออกมา ได้มีการรุมทำร้ายซึ่งเป็นการกระทำดังกล่าวที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม และไร้จิตสำนึกโดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน

หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงมีอายุซึ่งขายของอยู่บริเวณหน้า 7-eleven ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง ทำให้เกิดรอยฟกช้ำ สาเหตุที่มีน้องๆ นักศึกษาทางวิทยาลัยของเราอยู่บริเวณนั้น เพราะบริเวณใกล้เคียงนั้นเป็นที่ตั้งสถานศึกษาของวิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร ทำให้มีศิษย์ปัจจุบันมานั่งจับกลุ่มกันเป็นเรื่องปกติของทุกวัน

ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นจะรู้กันดีว่า จุดนั้นจะเป็นบริเวณที่น้องๆ นักศึกษาปัจจุบัน หลังเลิกเรียน หรือวันหยุดจะมานั่งจับกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมบริเวณนั้นตลอดทุกๆ วัน ทางชมรมศิษย์จึงขอแจ้งไปถึงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกกลุ่มว่า น้องๆ ที่โดนทำร้ายในคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ตรงนั้นคือ น้องที่กำลังศึกษาทั้งสิ้นแล้ว น้องๆ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆ ตามที่มีการกล่าวอ้างมาโดยสิ้นเชิง

ทางชมรมจึงขอเรียกร้องให้กลุ่มที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยทุกกลุ่มแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ได้รับบาดเจ็บ และต่อน้องๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับ กลุ่มการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ทางชมรมไม่ได้นิ่งนอนใจ และขอประณามการกระทำดังกล่าว แล้วพร้อมที่จะทำตามกฎหมายอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน

ชมรมศิษย์เก่า วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร