ชำแหละวีรกรรม “อั่งอั๊ง” หลานรัก “ตี๋ทอน” ปากพาซวย โป๊ะแตกซ้ำซาก โดนน้าเป่าหูล้างสมอง

10360

หลังจากที่น.ส.อัครสร โอปิลันธน์ หรือ อั่งอั๊ง บุตรสาวของนางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และยังมีศักดิ์เป็นหลานสาวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า

โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ หมิ่นเบื้องสูง ก่อนลบโพสต์ในภายหลัง และศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด (Bully) ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ม.112 นั้น

ล่าสุดทางด้านนายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ผลกรรมมันเป็นเหมือนบูเมอแรง ที่ตี๋หนึ่งขว้างไปแล้วหลานตัวเองติดกับดักนั้นด้วย บูมเมอแรงแห่งกรรมที่หลอกให้คนหลงผิดกำลังเหวี่ยงเข้าสู่ลูกหลาน แม่และน้องของตัวเองแล้ว น่าสงสารคนรุ่นหนุ่มสาวที่น่าจะมีอนาคตสดใส


ทำให้มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ระบุว่า กลัวอยู่นอกคุกคนเดียวแล้วเหงา เลยอยากมีส่วนร่วมในการทำชั่ว เพื่อไม่ให้เสียชื่อตระกูลว่าเลวทั้งตระกูล และก็ต้องติดคุกทั้งตระกูลด้วยปากพาซวยเหมือนน้ามัน

อย่าไปโกรธคนอื่นเลย มันมาจากอากู่ของหนู การเลี้ยงดูในครอบครัวหนู ที่ไม่รู้จักสอนให้เด็ก ๆ แบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบ สอนแต่จะให้ใช้สิทธิ์ไปก้าวล่วงชาวบ้านตลอด แบบอากู๋ของหนูไง ตัวอย่างที่ชัดเจน

เป็นครอบครัวที่เหมือนกันทุกคน คิดและกระทำสิ่งเลวร้าย มองเป็นสิ่งควรกระทำ ให้สงสัยร่ำรวยเงินทองมาได้อย่างไร รุ่นพ่อที่ไม่อยู่แล้วลำบากสร้างตัวแต่เมียลูกใช้ฐานเงินต่อเงินด้วยการทุจริต ยังคิดร้ายต่อแผ่นดินอีก

เจ๊กตระกูลจึงฯ ที่ยังมีชีวิตอยู่นี่ มีคนไหนที่ยังเป็นคนคิดดีทำดีกับชาติศาสน์กษัตริย์บ้างมั้ย DNA สหายสมพรนี่แรงจริงๆ ส่งต่อมาถึงลูกหลานเหลนได้ไม่ผิดเพี้ยนเลย

โดยก่อนหน้านี้ในทวิตเตอร์ @AngAngOpilan ของน.ส.อัครสร หรืออั่งอั๊ง โพสต์ข้อความเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร 2563 กับตำรวจ ที่หน้าศาลฎีกา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา โดยพาดพิงถึงพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในลักษณะอันมิบังควร ภายหลังเจ้าตัวได้ลบข้อความไปแล้ว แต่ก็มีชาวเน็ตบันทึกภาพหน้าจอข้อความดังกล่าวเอาไว้ได้ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวคิดดังกล่าวจำนวนมาก


ก่อนหน้านี้ น.ส.อัครสรได้ร่วมวงเสวนาในหัวข้อ “ถ้าการเมืองดี นักเรียน-นักศึกษา จะรักชาติกันอย่างไร” ที่ห้องประชุมคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ชั้น 4 อาคารคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2563 ในตอนหนึ่งกล่าวว่า “การเมืองที่คุณตาคุณยายท่านหนึ่งต้องมาติดคุกเพียงเพราะเก็บเห็ดไปขาย” ทั้งที่จริงแล้ว เป็นกรณีที่สามีภรรยาถูกจับกุมเมื่ออายุ 48 ปี ข้อหาบุกรุกป่าและครอบครองไม้เถื่อน ซึ่งได้อธิบายจนสังคมสิ้นสงสัยไปนานแล้ว

ใจความตอนหนึ่ง ได้ระบุว่า “ถึงแม้ว่าเราจะทำบุญกี่ชาติ ทำบุญมากแค่ไหนในชาตินี้ หากรัฐธรรมนูญมันไม่เปลี่ยน เราจะเกิดอยู่ในลูปเดิมแห่งความยากจน ลูปเดิมแห่งความไม่เท่าเทียม” ทำให้เพจ Drama Fight – ศึกวันดราม่า ได้ออกมาฉะเดือดถึงเรื่องนี้ ระบุเรียงเป็นข้อ ๆ ว่า

น้องคนนี้ชื่อ อั่งอั๊ง เป็นหลานสาวธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

อั่งอั๊งขึ้นเวทีเสวนาที่ธรรมศาสตร์ในหัวข้อ ถ้าการเมืองดี นักเรียน นักศึกษา จะรักชาติกันอย่างไร
น้องพูดจาราบเรียบ สุภาพ แต่หลายข้อที่พูดถึงเป็นการบิดเบือน
ที่น่าขำ น้องยังกล่าวโจมตีรัฐบาลว่า ใช้อำนาจรังแก ตายายที่เพียงเข้าไปเก็บเห็ดในป่า
แถมยังบอกว่าหลังโควิดรัฐเอาเงินประกันสังคมไปอุ้มศรีพันวา โอ๊ยยย
อีหนู มึงยังจะมาตายายเก็บเห็ดอยู่อีก เขาพิสูจน์กันไปถึงไหนแล้ว คนรุ่นใหม่แต่ทำไมไม่อัพเดทเลย

และหากย้อนไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ที่มีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และท้องสนามหลวง ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น ได้มีการขึ้นปราศรัยของแกนนำได้มีการพูดโจมตีสถาบันอย่างชัดเจนและดุเดือด

โดยในโลกโซเชียลได้เผยแพร่คลิป ที่มีเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นภาษาอังกฤษ แสดงทัศนะต่อประเด็นทางการเมืองซึ่งเด็กผู้หญิงในคลิปก็คือ อั่งอั๊ง อัครสร โอปิลันธน์ อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนอินเตอร์ Concordian International School และผู้ร่วมก่อตั้ง a student-led media platform, Choose Change ที่มีจุดประสงค์เพื่อทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในสังคม ซึ่งเป็นบุตรสาวของ ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ซึ่งเหตุการณ์นี้ ได้มีการตั้งคำถามว่า ในวันที่มีม็อบ 19 กันยา มีการสัมภาษณ์เด็กสาวภาพลักษณ์อินเตอร์ โดยไม่เปิดเผยตัวว่าเป็นหลานธนาธร ให้ออกมาสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ดูอินเตอร์ ว่าเด็กไทยที่มีความรู้ดี ยังสนับสนุนม็อบ แต่จะเข้าข่ายใช้หลานเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2564 อั่งอั๊ง หลานสาวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงประเด็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 45 ล้านบาท โดยระบุข้อความว่า solar cells 45ล้านบาทจริง ๆ หรอคะ? ซึ่งก็ทำให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีการตั้งข้อคำถามของอั่งอั๊ง โดยเกิดการตั้งข้อสังเกตว่า อั่งอั๊ง สงสัยในการทำงานของรัฐบาลที่มีการติดตั้งโซล่าเซลล์ โดยใช้งบประมาณ 45 ล้าน แต่ในเรื่องของคดีความของครอบครัวตัวเองกลับไม่พูดถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การติดสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ถึง 20 ล้านบาท ของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ การบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และประเด็นเรือยอร์ชที่ถูกไฟไหม้ที่ภูเก็ต ซึ่งภายหลังมีการตรวจสอบพบว่า เรือยอร์ชลำดังกล่าวได้มีการจดทะเบียนที่เกาะคุก ซึ่งมีเจตนาที่จะเลี่ยงภาษี รวมไปถึงคดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ โดยคดีความทั้งหมดของตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ อั่งอั๊งกลับไม่คิดที่จะสงสัยและไม่มีการพูดถึงเลย