พระองค์ทรงรักษากฎ เผยที่มาทรงพระเกศาใหม่ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

25050

จากที่วานนี้ (12 ก.พ. 2564) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จออกแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ณ วังเทเวศร์ ทรงประกอบพิธีบวงสรวงเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2564

ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนที่หอพระ จากนั้นทรงวางพวงมาลัย จุดธูปเทียนที่หอพระบ้านหม่อมหลวงสราลี กิตติยากร ต่อจากนั้นทรงพระดำเนินไปยังศาลพระภูมิ ทรงผูกผ้าสีชมพู ทรงคล้องพวงมาลัย ทรงจุดธุปเทียนถวายสักการะ แล้วทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ทรงจุดประทัด

จากนั้นทรงพระดำเนินไปยังโต๊ะบวงสรวงหน้าพระตำหนัก ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดเทียนแดง ทรงจุดธูปหาง แล้วปักที่เครื่องสังเวย ทรงกราบ ได้เวลาอันสมควร ทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง แล้วทรงจุดประทัด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ปรากฏภาพของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงประกอบพิธีบวงสรวงเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ในสื่อต่าง ๆ หลายคนเกิดการตั้งคำถาม และพูดถึงอย่างมากว่าเหตุใดพระองค์ทรงพระเกศาใหม่ ที่เป็นลักษณะรองทรง ซึ่งเป็นทรงที่นิยมสำหรับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

เรื่องนี้เอง ต่อมา แอดมินเพจ เรารัก สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา : Our Beloved HRH Princess Bajrakitiyabha ได้เขียนอธิบายถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า ปัจจุบันทูลกระหม่อมภา ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ จึงทรงไว้พระเกศาตามระเบียบนายทหารราชวัลลภรักษาพระองค์ เรียนมาเพื่อทุกท่านทราบ

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Samanta Suaysodsai แฟนข่าว TOP NEWS THAILAND ยังได้เขียนความเห็นเรื่องนี้ว่า ทำไมสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ต้องทรงเจริญพระเกศา (ตัดผม) ให้สั้นเช่นเดียวกับข้าราชการทหารหญิงนายอื่น ๆ?

เนื่องจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับโอนข้าราชการฝ่ายอัยการเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารและพระราชทานพระยศทหารตามราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 3 ก.พ. 2564 โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา มาทรงดำรงตำแหน่ง เสนาธิการกองบัญชาการ ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็น #ข้าราชการฝ่ายทหาร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราโชบายเกี่ยวกับกองทัพว่า

กองทัพต้องเป็นไปตามพระบรมราโชบาย และเป็นไปตามรัชสมัย ดังนั้น เมื่อพระองค์ทรงโอนย้ายจากข้าราชการฝ่ายอัยการ (พลเรือน) มาทรงดำรงตำแหน่งข้าราชการฝ่ายทหารแล้ว จึงต้องปฏิบัติตามระเบียบของกองทัพเช่นเดียวกับข้าราชการทหารหญิงนายอื่น ๆ โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการยึดถือปฏิบัติตนแก่ทหารหญิงนายอื่น ๆ ทั่วไปด้วย

สำหรับ ทรงผมรองทรง ถือเป็นทรงผมชายมาตรฐาน โดยทรงผมรองทรงนั้นแบ่งเป็น 3 แบบหลัก ๆ ได้แก่ รองทรงสูง  หรือ ไฮเฟด (High Fade)  รองทรงกลาง  หรือ มิดเฟด (Mid Fade) และ รองทรงต่ำ หรือ โลว์เฟด (Low Fade)

ความแตกต่างระหว่างทรงผมรองทรงแต่ละแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของการสร้างแนวผม โดยรองทรงสูงจะขึ้นแบบให้ฐานค่อนข้างสูง หรือ อยู่ระดับเหนือขมับ ส่วนทรงผมรองทรงกลางจะขึ้นแบบให้ฐานอยู่ระดับใบหู และทรงผมรองทรงต่ำจะขึ้นแบบให้ฐานอยู่ค่อนข้างต่ำ หรือ ระดับต่ำกว่าติ่งหูลงมา

อย่างไรก็ตาม ทรงพระเกศารองทรงนี้ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา มีลักษณะเป็นแบบรองทรงต่ำ (Low Fade) ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงมากที่สุดในบรรดาทรงผมทั้ง 3 แบบ

ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก : เรารัก สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา : Our Beloved HRH Princess Bajrakitiyabha และ Samanta Suaysodsai