วุฒิสภาเปิดประชุมสอบสวนการถอดถอนอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป โดยพรรคเดโมแครตเดินหน้าชำแหละความผิดทรัมป์ ข้อหาปลุกปั่นยุม็อบบุกรัฐสภา และเปิดคลิปเหตุการณ์ย้ำเตือนความผิด มีสว.รีพับลิกันแหกคอก 6 คน ร่วมลงมติให้ไต่สวนการถอดถอน คาดว่าวันลงมติมีเสียงสนับสนุนไม่ถึง 2 ใน 3 ที่จะฝังทรัมป์ทางการเมือง แม้แต่ปธน.ไบเดนยังเอ่ยปาก “คงจะยากสำเร็จ”
Never-seen footage from inside the Capitol shows the much-acclaimed Officer Goodman ushering Sen. Mitt Romney to safety. pic.twitter.com/1n0OuL9Lhp
— Natasha Korecki (@natashakorecki) February 10, 2021
ในวันอังคารที่ 9 ก.พ.2564 วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 56-44 ปฏิเสธคำคัดค้านของทีมทนายอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งโต้แย้งว่า วุฒิสภาไม่มีอำนาจถอดถอนประธานาธิบดีที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว ทั้งนี้ให้เดินหน้าดำเนินการไต่สวนเพื่อถอดถอนทรัมป์ต่อไป ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ที่มีประมุขของประเทศถูกฝ่ายนิติบัญญัติไต่สวนเพื่อลงมติถอดถอน (อิมพีช) 2 ครั้งแม้ไม่สามารถลงมติถอดถอนได้ในท้ายสุดก็ตาม
พรรคเดโมแครตนั้นหวังว่า หากทำให้สภาสูงลงมติในท้ายที่สุดว่าทรัมป์มีความผิดจริง จะทำให้อดีตประธานาธิบดีซึ่งยังมีอิทธิพลอย่างสูงในพรรครีพับลิกันผู้นี้ ไม่สามารถลงเลือกตั้งรับตำแหน่งใดๆ ของสหรัฐฯได้อีก โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสมัยหน้า
ทว่า ผลการโหวตในวันอังคาร (9 ก.พ.2564)บ่งชี้ว่า งานนี้ไม่ง่ายเลย เพราะมีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันมาร่วมโหวตเห็นด้วยกับเดโมแครตเพียง 6 คน ขณะที่การลงมติเพื่อเอาผิดทรัมป์ในขั้นตอนสุดท้ายนั้นต้องการเสียงสนับสนุนจากรีพับลิกันถึง 17 เสียง จึงจะทำให้ได้คะแนน 2 ใน 3 ของจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด โดยในขณะนี้ทั้งสองพรรคมีที่นั่งในสภาสูงฝ่ายละ 50 ที่นั่งเท่ากัน
Truly remarkable footage of Vice President Pence and his family being escorted out of the Senate chamber. President Trump was back at the White House, continuing to trash Pence, according to multiple people. pic.twitter.com/Vr3c5EBwTR
— Kaitlan Collins (@kaitlancollins) February 10, 2021
คณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคเดโมแครต ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นอัยการฟ้องร้องต่อสภาสูง โดยที่บรรดาวุฒิสมาชิกทั้งหลายทำหน้าที่เป็นคณะลูกขุนนั้น ได้เปิดการไต่สวนในวันอังคาร ด้วยการฉายวิดีโอภาพเหตุการณ์ความรุนแรงในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 พร้อมคลิปคำปราศรัยของทรัมป์ก่อนหน้านั้นที่เรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขา “สู้สุดชีวิต” เพื่อเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 ที่ทรัมป์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต
ในคลิปยังมีภาพกองเชียร์ทรัมป์ทำลายสิ่งกีดขวาง ทำร้ายตำรวจสภา ช่วงหนึ่งในคลิปยังมีภาพตำรวจที่คุ้มกันห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรยิงผู้ประท้วงคนหนึ่งเสียชีวิต โดยในเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 5 คน ซึ่งรวมถึงตำรวจ 1 นาย
นอกจากทำร้ายตำรวจแล้ว ม็อบที่บุกเข้าสู่อาคารรัฐสภายังทำให้บรรดาสมาชิกรัฐสภาต้องหาที่หลบภัย และการประชุมรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดี ไบเดน อย่างเป็นทางการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง
Body camera footage shows rioters attacking police at entrance of US Capitol on Jan. 6. pic.twitter.com/e3nLP0Rtx4
— NBC News (@NBCNews) February 10, 2021
เดโมแครตระบุว่า ทรัมป์ละเมิดคำสาบานด้วยการพยายามยื้ออำนาจหลังการเลือกตั้ง ซึ่งนอกจากปฏิเสธความพ่ายแพ้ของตัวเองแล้ว เขายังปล่อยข่าวเท็จว่า มีการโกงการเลือกตั้ง และกดดันให้เจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งรวมถึง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในขณะนั้น ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจ
“ถ้านี่ยังไม่ใช่ความผิดที่สมควรถอดถอน ก็คงไม่มีอะไรอีกแล้วที่เป็นความผิด” เจมี ราสกิน ส.ส.เดโมแครต ที่เป็นผู้นำทีมอัยการซึ่งประกอบด้วย สมาชิก 9 คน กล่าวกับวุฒิสมาชิก หลังจบวิดีโอ
ราสกินถึงกับร่ำไห้ขณะเล่าว่า ญาติที่เขาพาไปร่วมชมพิธีรับรองชัยชนะไบเดนในวันนั้น ต้องเข้าไปหลบในห้องทำงานใกล้ห้องประชุมสภาผู้แทนฯ ด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ทว่า ทีมทนายความของทรัมป์กลับแย้งว่า กระบวนการถอดถอนขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทรัมป์พ้นตำแหน่งไปแล้ว พร้อมกล่าวหาว่า สภากำลังพยายามดับอนาคตทางการเมืองของทรัมป์ และประณามเดโมแครตว่า กระเหี้ยนกระหือรือถอดถอนทรัมป์ ก่อนเปิดวิดีโอเหตุการณ์ที่ ส.ส.เดโมแครต เรียกร้องให้ถอดถอนอดีตประธานาธิบดีผู้นี้เมื่อปี 2017
WATCH Former President Trump's Attorney David Schoen plays "lust for impeachment" video montage pic.twitter.com/KRHHi9tDB4
— Breaking911 (@Breaking911) February 9, 2021
ทั้งนี้ ทรัมป์ที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยเดโมแครตลงมติให้ดำเนินการถอดถอนเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2564 เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์อเมริกาที่เข้าสู่กระบวนการนี้ และเป็นคนเดียวที่ถูกสอบสวนเพื่อถอดถอน 2 ครั้ง
ทีมทนายของทรัมป์ยังอ้างว่า ตอนที่ปราศรัยกับผู้สนับสนุนก่อนเหตุการณ์ม็อบบุกสภา ลูกความของตนเพียงแต่กำลังใช้สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีภายใต้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 เท่านั้น
บรูซ แคสเตอร์ หนึ่งในทีมทนายของทรัมป์ กล่าวว่า ม็อบหลายร้อยคนที่บุกโจมตีสภาสมควรถูกประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด และว่า อาชญากรกลุ่มเล็กๆ เหล่านี้ คือ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่ปธน.ทรัมป์
(บรูซ แคสเตอร์ หนึ่งในทีมทนายของทรัมป์)
วุฒิสมาชิกรีพับลิกันหลายคน ซึ่งรวมถึง บิลล์ แคสสิดี้ ที่โหวตสนับสนุนให้เดินหน้ากระบวนการถอดถอน บอกว่า ส.ส.เดโมแครตเบิกความตรงประเด็นและน่าสนใจ ขณะที่ข้อโต้แย้งของทีมทนายของทรัมป์ โดยเฉพาะแคสเตอร์ ฟังไม่ขึ้น เดือนที่แล้ว แคสสิดี้ เป็นหนึ่งใน ส.ว.รีพับลิกันที่โหวตคัดค้านการไต่สวน แต่แพ้ด้วยคะแนน 45 ต่อ 55 และเป็นรีพับลิกันคนเดียวที่เปลี่ยนใจมาโหวตร่วมกับเดโมแครตเมื่อวันอังคาร
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์ที่ชมการไต่สวนทางทีวีอยู่ที่รีสอร์ตส่วนตัวในฟลอริดา ก็ไม่พอใจผลงานของแคสเตอร์เหมือนกัน
การไต่สวนนี้จะบ่งชี้แนวโน้มการตัดสินใจของรีพับลิกัน หลังจากช่วงเวลา 4 ปีแห่งความวุ่นวายของคณะบริหารทรัมป์ โดยมีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกลุ่มที่ภักดีต่อทรัมป์ กับกลุ่มที่คาดหวังผลักดันพรรคไปสู่ทิศทางใหม่ กระนั้น ดูเหมือนว่ามีวุฒิสมาชิกรีพับลิกันเพียงไม่กี่คนที่พร้อมแตกหักกับทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้เขารอดพ้นความผิดเหมือนการถอดถอนเมื่อปีที่แล้ว (2019) ในคดีขัดขวางการสอบสวนของสภาและลุแก่อำนาจในการกดดันให้ยูเครนเปิดการสอบสวนไบเดนและลูกชายในปี 2019