หมอเหรียญทอง ส่งหนังสือถึงศาลต้องเคลียร์ ปม รุ้ง อ้างมีผู้พิพากษาช่วยม็อบไม่ติดคุก?

7035

เป็นประเด็นร้อนแรงที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย เมื่อ รุ้ง ปนัสยา ออกมาพูดว่า “ศาลส่งสัญญาณมาให้เรา(คณะราษฎร) ว่าเขาจะยื้อได้ถึงแค่วันที่ 14 นี้เท่านั้น ศาลที่เขาอยู่ฝั่งเราที่เขาพยายามช่วยเรา เขายื้อให้ได้ถึงแค่วันที่ 17 เพราะเขาถูกกดดันลงมาเยอะมาก ถูกกดดันมาจากข้างบน ข้างบนที่ว่าคือใคร อำนาจเหนือใคร อำนาจเหนือศาลไปอีกเหรอ”

จนต่อมา หมอเหรียญทองได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ผมขอความกรุณาจากเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้โปรดตรวจสอบ เรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

จากกรณีวันที่ 9 ก.พ. 2564 ทีผ่านมา กลุ่มม็อบคณะราษฎร ได้มีการชุมนุมบริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน โดยสาเหตุมาจากที่ศาลได้ฝากขัง นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ในฐานความผิด ม.112, ม.116, ม.215 รวม 11 ข้อหา จากกรณีชุมนุม ม.ธรรมศาสตร์-สนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563

โดยในการชุมนุมดังกล่าว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า การจับ 4 คนเข้าคุกครั้งนี้ไม่ใช้การฝากขัง แต่เป็นการขังระหว่างพิจารณาคดีซึ่งไม่มีกำหนดเวลาว่าพวกเขาจะได้ออกมา และในวันที่ 17 ก.พ. 2564 เธอก็มีนัดพบอัยการเพื่อนำตัวไปส่งศาล ซึ่งคาดว่าในวันนั้นเธอก็จะถูกขังด้วยเช่นกัน ถามว่าการแสดงความคิดเห็นของพวกเรานั้นผิดอย่างไร พวกเราแต่ออกมาพูด หากไม่อยากให้คนพูดก็มาเย็บปากประชาชนให้หมดประเทศไปเลย จะได้ไม่ต้องมีใครพูด

“การที่ทุกคนออกมา เพราะทุกคนมีความหวังว่าประเทศเราจะพัฒนา คนจนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ชนชั้นนำไม่เคยเห็นใจประชาชนบ้างหรืออย่างไร ขอให้ศาลไตร่ตรองคำสั่งขังระหว่างพิจารณาคดีว่า คิดรอบคอบแล้วหรือไม่ อยากให้สถาบันตุลาการช่วยทำให้ทุกอย่างกลับมาถูกต้อง ไม่เห็นหรือว่าตอนจับคนเข้าคุกเมื่อปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีคนออกมาชุมนุมมาแค่ไหน อย่ากดดันให้ประชาชนไร้หนทาง ตอนนี้ยังมีเวลาที่ทุกฝ่ายยังสามารถตกลงเพื่อการปฏิรูปได้” น.ส.ปนัสยา กล่าว พร้อมทิ้งท้ายนัดมวลชนออกมาชุมนุมกันอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ. 2564

ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่หลายคนเกิดข้อสงสัยและตั้งคำถามคือ กรณีที่ในวันดังกล่าวมีบางช่วงบางตอน น.ส.ปนัสยา พูดขณะที่ทางด้านของ Voice TV ได้นำมาออกอากาศ โดยเป็นการ หมิ่นศาล และจาบจ้วงสถาบันฯ อย่างรุนแรง เนื้อหาใจความประมาณว่า

“ศาลส่งสัญญาณมาให้เรา(คณะราษฎร) ว่า เขาจะยื้อได้ถึงแค่วันที่ 14 นี้เท่านั้น ศาลที่เขาอยู่ฝั่งเราที่เขาพยายามช่วยเรา เขายื้อให้ได้ถึงแค่วันที่ 17 เพราะเขาถูกกดดันลงมาเยอะมาก ถูกกดดันมาจากข้างบน ข้างบนที่ว่าคือใคร อำนาจเหนือใคร อำนาจเหนือศาลไปอีกเหรอ”

นอกจากนี้ยังได้โยงว่าคนข้างบนนั้นคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมกับได้ตั้งคำถามต่อด้วยว่า ไหนว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งใช้คำที่หยาบคายจะสุดจะรับได้ ซึ่งทั้งหมด Vocie TV เป็นสถานีที่ได้นำมาออกอากาศโดยไม่มีการปิดคำพูดใด ๆ ทำให้หลาย ๆ คนมองว่า Voice TV อาจจะเป็นการกระทำความผิดร่วม หรือไม่!? แม้ว่าล่าสุด Voice TV จะได้ทำการลบคลิปดังกล่าวออกไปเป็นที่เรียบร้อย แต่หลักฐานทุกอย่างได้ถูกส่งต่อกันเป็นวงกว้าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เรียน เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ความว่าเนื่องจากการปราศรัยของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ต่อที่ชุมนุมเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ซึ่งเผยแพร่โดยการออกอากาศของสถานี VOICE TV ความว่า “ศาลส่งสัญญาณมาให้เราว่า เขาจะยื้อได้ถึงแค่วันที่ 14 นี้เท่านั้น ศาลที่เขาอยู่ฝั่งเราที่เขาพยายามช่วยเรา เขายื้อให้ได้ถึงแค่วันที่ 17 เพราะเขาถูกกดดันลงมาเยอะมาก ถูกกดดันมาจากข้างบน ข้างบนที่ว่าคือใคร อำนาจเหนือใคร อำนาจเหนือศาล”

ผมขอความกรุณาจากเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้โปรดตรวจสอบว่า

1 มีผู้พิพากษาหรือศาลตัวใดที่ส่งสัญญาณมาให้ผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของชาติว่าจะหน่วงรั้งการดำเนินคดีให้แก่ผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรงเยี่ยงนี้

2 มีผู้พิพากษาหรือศาลตัวใดที่อยู่ฝั่งผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของชาติและพยายามช่วยผู้กระทำความผิด

3 มีผู้พิพากษาหรือศาลตัวใดที่ถูกกดดันมาจากข้างบนที่มีอำนาจเหนือศาล

ทั้งนี้ ผมขอให้เลขาธิการ สำนักงานยุติธรรมได้โปรดแถลงผลการตรวจสอบต่อสาธารณะเพื่อทราบโดยทั่วกันโดยด่วนที่สุดด้วย หากการปราศรัยของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ไม่เป็นความจริง เป็นการโกหกสร้างเรื่องเท็จซึ่งการปราศรัยตามความดังกล่าวเป็นการหมิ่นสถาบันศาลยุติธรรมอย่างร้ายแรง

เลขาธิการ สำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องแจ้งความดำเนินคดีอาญาแผ่นดินกับ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง อย่างถึงที่สุดโดยไม่มีการประนีประนอมยอมความอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นการทำลายศาลยุติธรรมและระบบยุติธรรมอันเป็นความมั่นคงของชาติ จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการโดยมิชักช้าด้วย ด้วยความปรารถนาดีต่อศาลยุติธรรม พ