Truthforyou

นิวซีแลนด์ตัดสัมพันธ์การทูตเมียนมา?!? สั่งแบนผู้นำกองทัพเข้าประเทศ ขณะบิ๊กตู่ห้ามพวกโหนหยุดปลุกปั่นถล่มเพื่อนบ้าน ไม่ฟังระวังเจอดี!

ชาติตะวันตก ที่เชิดชูประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างหลับหูหลับตา และใช้เป็นหอกดาบทิ่มแทง ประเทศใดก็ตามที่ไม่เอื้อประโยชน์ตามความต้องการของพวกเขา  ต่างดาหน้ากันมากดดันเมียนมารอบทิศ  วันนี้นิวซีแลนด์ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตและทางการทหารกับเมียนมา อย่างเป็นทางการรายแรก สั่งแบนผู้นำกองทัพห้ามเข้าประเทศ ขณะกลุ่มต้านกองทัพชุมนุมขยายตัวไม่กลัวกฎอัยการศึก ทำให้ทางการเมียนมาประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มในหลายเขต  ทุกฝ่ายหลงลืมปัญหาการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่คนเมียนมาในเมืองใหญ่หลงลืม พากันบ้าคลั่งตามกระแสปั่นจากเครือข่ายปล้นชาติของตะวันตก  คาดปัญหาการเจ็บป่วยติดโควิดและเสียชีวิตจะเพิ่มมากขึ้น  สำหรับบ้านเรา นายกฯรมต.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ฝากถึงคนไทยบางกลุ่มที่ร่วมชุมนุมเมียนมา ให้หยุดพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นโดยเด็ดขาด เป็นเรื่องละเอียดอ่อนระหว่างประเทศที่ไม่เป็นผลดีกับเอกภาพและความสามัคคีของไทยเราและเพื่อนบ้านอาเซียนแม้แต่น้อย

วันนี้ (9 ก.พ.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการชุมนุมของชาวเมียนมาหลายครั้งในไทย เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจในเมียนมา รวมถึงคนไทยบางกลุ่มพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุม มีความกังวลในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ว่า ตนไม่อยากให้มีการชุมนุมในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องมีความระมัดระวังพอสมควร ขอฝากไว้ด้วยสำหรับคนบางกลุ่มที่พยายามจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยุยงปลุกปั่นอะไรทำนองนี้ ตนไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องของอาเซียนด้วยกัน ตนคงไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ การหารือก็ต้องไปหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้

ในขณะที่ประเทศนิวซีแลนด์แสดงท่าทีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ ประเทศออสเตรเลียกดดันเมียนมาอย่างออกนอกหน้า  นางจาซินดาร์ อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ประกาศว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์จะระงับการติดต่อทางการเมืองและการทหารในระดับสูงกับเมียนมา หลังจากกองทัพเมียนมาได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลพลเรือนเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์จะออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้นำทหารของเมียนมาเดินทางเข้านิวซีแลนด์ และยืนยันว่า โครงการให้ความช่วยเหลือเมียนมานั้น จะไม่รวมถึงโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นประโยชน์กับรัฐบาลทหารของเมียนมา

กองทัพเมียนมาได้เข้ายึดอำนาจ พร้อมกับควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี และผู้นำคนอื่นๆ และได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี โดยอ้างเหตุผลในการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ว่าเกิดจากการทุจริตในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และกล่าวหาว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งประสบความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้ง เนื่องจากมีความผิดปกติในรายชื่อของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีการสวมสิทธิ์คนตายจำนวนมากถึง 8.6 ล้านรายชื่อ 

นางอาร์เดิร์น ระบุว่า “สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ นิวซีแลนด์จะทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ และหนึ่งในนั้นก็คือการระงับการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพม่า และตรวจสอบจนมั่นใจว่าเงินทุนที่เราให้แก่พม่าจะต้องไม่ถูกนำไปใช้สนับสนุนรัฐบาลทหารในทุกๆ กรณี” 

โครงการช่วยเหลือที่นิวซีแลนด์ให้กับพม่านั้นมีมูลค่าราวๆ 42 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ระหว่างช่วงปี 2018-2021

นางนาไนอา มาฮูตา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ออกคำแถลงยืนยันว่า รัฐบาลเวลลิงตันไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐบาลทหารพม่า และเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวผู้นำการเมืองที่ถูกคุมขัง รวมถึงคืนอำนาจปกครองกลับสู่รัฐบาลพลเรือน

รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังเห็นชอบให้ใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกับผู้นำทหารเมียนมา โดยคาดว่าจะมีผลบังคับอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์หน้า

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา  ออกมาย้ำคำมั่นสัญญาเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2564 ว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่และส่งมอบอำนาจให้แก่ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมต่อไป  ขณะที่ชาวเมียนมาหลายหมื่นคนตบเท้าลงถนนเพื่อประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร ติดต่อกันเป็นวันที่สี่ ผู้ประท้วงท้าทายกฎอัยการศึกในหลายพื้นที่ของย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ความตึงเครียดในเมืองหลวงเนปิดอว์กำลังดำเนินไปอย่างสูงเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ปืนแรงดันขนาดใหญ่ฉีดน้ำหลายกระบอกเพื่อสลายฝูงชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร  ทั้งนี้ทางการเมียนมาประกาศกฏอัยการศึก ภาคย่างกุ้ง 5 เขต ภาคมัณฑะเลย์ 7 เขตภาคสะกาย 4 เขต

Exit mobile version