จากที่ดีอีเอสได้แจ้งความปอท.ดำเนินคดีธนาธรไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิดพาดพิงสถาบันหลักฐานความผิด มาตรา 112 โดยศาลมีคำสั่งให้ระงับ ขณะธนาธร ร้องขอให้เพิกถอน ซึ่งในที่สุดศาลก็ได้มีคำตัดสินให้ยกคำร้อง จนมีคำถามดังสะเทือนว่าเกิดอะไรกับสถาบันศาล???
ทั้งนี้โดยศาลอาญา ได้อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ พศ.76/2546 ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการเผยแพร่คลิปไลฟ์สดของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กรณีการไลฟ์สดเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาลมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลได้มีคำสั่งให้ระงับคลิปตามที่ดีอีเอสยื่นร้องขอ ต่อมานายธนาธรได้ยื่นคัดค้าน โดยศาลได้ไต่สวนคู่ความทั้งสองฝ่ายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งในวันนี้มีผู้แทนดีอีเอส และทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายธนาธรเดินทางมาศาล ส่วนนายธนาธรไม่ได้เดินทางมา จากนั้นศาลได้อ่านคำสั่ง ซึ่งมีเนื้อหาพิเคราะห์ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงโดยละเอียด เนื้อหาที่นายธนาธร ผู้คัดค้านกล่าว มุ่งเน้นการกล่าวหารัฐบาลบกพร่อง ข้อมูลเรื่องผู้ถือหุ้นเป็นเพียงส่วนน้อย ไม่เป็นประเด็นหลักในการนำเสนอ ไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนถึงกับกระทบความมั่นคง จึงให้คำสั่งศาลที่ให้ระงับการเผยแพร่คลิปเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2564 เป็นอันสิ้นผล ยกคำร้อง
ต่อมาจากคำตัดสินดังกล่าวนั่นเองทำให้ นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด ได้ออกมาพูดถึงผ่านการโพสต์ข้อความลงในเหฟซบุ๊กว่า
คุณจะเฮ ก็เฮไป เเต่ผมหดหู่และเศร้าใจ แต่คงเฮอีกไม่นานหรอกนะ!!!! ข่าวว่า ศาลได้สั่งในห้องพิจารณา “เรื่องการขอสำเนาเทปฯ ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯต่อหน้าศาล”ว่า ให้ DES ไปแจ้งความ และให้ตำรวจมาขอในคดีฯ “
อะแฮ่ม!!! ขอถามผู้เกี่ยวข้องครับว่า… “คดีที่มีการแจ้งความ (ตามคำสั่งนายกฯ) ไว้ที่ สน.นางเลิ้ง เกี่ยวกับคดีวัคซีนพระราชทานฯ” ได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้วครับ??? เมื่อไหร่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ต้องหาสักทีครับ??? #กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ…แต่นานจัง!!!
อย่างไรก็ตามหลังจากข้อความ ได้เผยแพร่ออกมาทำให้มีคนเข้ามาถามถึงเรื่องราวดังกล่าว โดยมีบางคอมเมนต์ที่สงสัยในสิ่งที่มีการโพสต์เกี่ยวกับคดี ซึ่งทางอดีตอัยการสูงสุดได้เข้ามาตอบคอมเมนต์คำถามนั้นด้วยว่า
“ให้ตำรวจมาขอในคดี“ ช่วยอธิบายตรงนี้หน่อยครับว่าหมายถึงอะไรครับ?
ตระกูล วินิจนัยภาค “หมายความว่า ศาลได้บอกกับผู้แทนของ DES. ว่า ถ้าอยากดำเนินคดีกับนายธนาธรก็ให้ไปแจ้งความกับตำรวจ และถ้าตำรวจรับดำเนินคดีกับนายธนาธร ตำรวจก็จะมีหนังสือไปขอเทปที่นายธนาธรพูดดูหมิ่นสถาบัน..จากศาลมารวบรวมเป็นหลักฐานในสำนวนการสอบสวนของตำรวจครับ”
กระนั้นเองทางทีมข่าวเดอะทรูธ จึงได้ตรวจสอบถึงประเด็นที่นายตระกูลระบุถึงกรณีการแจ้งความเอาผิดนายธนาธร ที่สน.นางเลิ้งโดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรีกพบว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี และการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 32/2563 ลงวันที่ 21 กันยายน 2563
โดยนายอภิวัฒน์ ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตามคดีอาญาที่ 21/64 ลงวันที่ 20 มกราคม แจ้งความเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ใน 3 ข้อหา ได้แก่ ความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ความผิดฐานหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังได้ตรวจสอบพบว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ ได้โพสต์ข้อความและลงไลฟ์สดในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้ลงโพสต์ข้อความและไลฟ์สดอันเป็นเท็จด้วยข้อความว่า “วัคซีนพระราชทานใครได้ใครเสีย” เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้จาการตรวจสอบของทีมข่าวเดอะทรูธ ยังพบอีกว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2564 นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการ หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมทีมงาน ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฐานหมิ่นเบื้องสูงในข้อหา ม.112 และ ม.116 ฐานยุยง ปลุกปั่น จากกรณีการไลฟ์วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า นายธนาธรได้บิดเบือน ก้าวล่วงสถาบันพระหากษัตริย์ ให้ร้าย และนำไปสู่การยั่วยุปลุกปั่น พร้อมนำหลักฐาน 2 ส่วน เป็นเนื้อหาการไลฟ์ ของนายธนาธร และหลักฐานการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วโลก
“เป็นการดำเนินการในฐานะคนไทย และไม่ได้มีกระบวนการทำลาย หรือรังแก พรรคก้าวไกล และพรรคอนาคตใหม่ ตามที่ ส.ส.พรรค ระบุ แต่ในทางกลับกันเห็นว่า นายธนาธร ควรทบทวนตัวเอง เพราะเป็นกระบวนการทำลายสถาบันฯมากกว่า และเชื่อว่าเป็นระบบที่เชื่อมโยงไปยังต่างชาติ พร้อมเรียกร้องไปยังนายธนาธร และพรรคก้าวไกล รวมถึงทีมงาน ให้เอาเวลามาช่วยดูแลประชาชนและตรวจสอบรัฐบาลจะดีกว่า เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครนำเรื่องสุขภาพของประชาชน และระบบการแพทย์มาเป็นประเด็นทางการเมือง” นายแพทย์วรงค์ ระบุ
