เปิดนส.3ก.-กางเอกสารทำประโยชน์ที่ดิน พบธนาธรได้ตอนอายุ22 มีแจ้งบัญชีปปช.

3530

จากที่กรมป่าไม้และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในความผิดใช้เอกสาร ภ.บ.ท.5 และ น.ส.2 ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติแบบผิดกฎหมาย เนื้อที่รวม 440 ไร่นั้น

โดยได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งดำเนินการไปแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมประเมินความเสียหายภาครัฐ เพื่อดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายภาครัฐตามระเบียบ และกฎหมาย

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กรมที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ผู้นำชุมชนหมู่ 14 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ร่วมกันปักป้ายประกาศยึดที่ดินของนางสมพร โดยที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี แปลงที่ 1 จำนวน 350 ไร่

ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ของชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า มีการนำเอกสารสิทธิที่ดินประเภท น.ส.3 ก ที่เป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกจำนวนมาก ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ, น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 60 ฉบับ (รวมเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ) นำมายึดถือครอบครองที่ดิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมขยายผลสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบต่อเนื่องจนถึงวันนี้

“จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่มีการครอบครองทำประโยชน์ อยู่ในท้องที่ ต.รางบัว ,ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่เศษ มีการใช้ประโยชน์พื้นที่โดยปลูกยูคาลิปตัสต่อเนื่องทั้งพื้นที่ สืบทราบมีการจ้างเฝ้าดูแลพื้นที่โดยกลุ่มบุคคลในพื้นที่ (เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ด่านท่าตะโก)

และยังตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดถูกครอบครอง โดยใช้เอกสารสิทธิประเภท น.ส.3ก ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 60 ฉบับ ตรวจสอบพบผู้ครอบครอง น.ส.3ก คือ นางสมพร จำนวน 53 ฉบับ เนื้อที่ 1,940-3-93 ไร่ เป็นของ นางสาวชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 5 ฉบับ เนื้อที่ 132-0-22 ไร่ และของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 2 ฉบับ เนื้อที่ 81-3-67 ไร่ รวมเนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่”

กระทั่งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ยื่นหนังสือถึงพลตำรวจตรีพิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงิน รวมพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดีทั้งหมดเนื้อที่ 2154-3-82 ไร่ ประเมินความเสียหายภาครัฐจำนวน 147,063,223.15 บาท

“เพื่อดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายภาครัฐตามระเบียบ และกฎหมายต่อไป และจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมที่ดินแปลงอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันอีกจำนวนหลายร้อยไร่ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนางสมพร ว่าเอกสารที่ใช้ครอบครองถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่

รวมทั้งพื้นที่อีกประมาณ 30 ไร่ ที่มีตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และพบว่า นางสมพร ได้นำไปมอบให้สถาบันราชภัฏจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งตรวจสอบพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ จะขยายผลตรวจสอบต่อไปให้ได้ข้อยุติต่อไป รวมทั้งจะตรวจสอบเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งเจ้าพนักงานที่ดินและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองที่ได้ร่วมกันออกเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3ก ทั้ง 60 แปลง”

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้เผยแพร่ข้อมูลถึงกรณีดังกล่าวในเว็บไซต์ โดยรายงนจากตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายธนาธร ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2562 พบว่า แจ้งถือครองที่ดิน 5 แปลง มูลค่า 41,700,000 บาท ในจำนวนนี้เป็น น.ส. 3 ก. 2 ฉบับ

ฉบับแรก น.ส.3 ก. เลขที่ 158 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เนื้อที่ 43 ไร่ 3 งาน มูลค่า 2,800,000 บาท  แปลงที่สอง น.ส. 3 ก. เลขที่ 159 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เนื้อที่ 38 ไร่ 67 ตารางวา 2,800,000 บาท รวมเนื้อที่ เนื้อที่ 81-3-67 ไร่ ได้มาเมื่อ 23/5/2543 (23 พ.ค.2543 ) ทั้งสองแปลงรวมมูลค่า 5,700,000 บาท

ส่วนอีก 3 แปลงเป็นโฉนดที่ดิน ในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และขอนแก่น ขณะที่ของนางรวิพรรณ ภรรยา มีจำนวน 4 แปลง มูลค่า 5 ล้านบาท อยู่ใน จ.เชียงใหม่ทั้งหมด

ที่ดิน น.ส.3 ก. 3 ฉบับตามที่ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน มีจำนวนเนื้อที่ดินรวม 81-3-67 ไร่ ตรงกับจำนวนที่ดินตามข้อมูลการแถลงข่าว

อย่างไรก็ตามยังมีรายงานเอกสารเผยแพร่จากกรมป่าไม้ในการตรวจสอบการเข้าถือครองที่ดินของแม่และพี่สาวนายธนาธร โดยเฉพาะอย่างยิ่งของนายธนาธรเอง ที่ระบุถึงหนังสือแจ้งรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3ก.ด้วย