จากที่วันนี้ (5 ก.พ. 2564) กรณี สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ออกหมายเรียกกลุ่มคณะราษฎรจำนวน 22 คน ให้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาจากคดีการชุมนุม ซึ่งประกอบด้วย 1.ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย ซึ่งมีประกาศหรือคำสั่งให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
2.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดในลักษณะที่เสี่ยง 3.ร่วมกันกระทำการ หรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป 4.ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อการแพร่เชื้อโรค และ 5.ร่วมกันชักชวน หรือแสดงธงอันไม่สมควรต่อธงชาติในบริเวณสถานที่ราชการ
ต่อมา มีรายงานว่าบริเวณหน้า สภ.คลองหลวง ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 น. บนถนนตรงข้าม สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปิดการจราจร และตั้งแนวแบริเออร์ พร้อมนำรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือ จีโน่ มาจอด และจัดกำลังชุดควบคุมฝูงชนเอาไว้
จากนั้นเวลาประมาณ 09.15 น. บรรยากาศหน้าสภ.คลองหลวง มีการปิดถนน ไม่ให้รถเข้าออก ชุดควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ยืนตรึงกำลัง ทางเข้าออกสถานีมีการกั้นแบริเออร์ ให้เหลือช่องทางเดินเข้าออกแคบลง พร้อมมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตั้งโต๊ะจุดคัดกรองอุณหภูมิ
10.15 น. บริเวณประตูทางเข้า สภ.คลองหลวง ผู้ที่จะผ่านเข้าไปในตึกของ สภ.คลองหลวง ทั้งทนายความและผู้ต้องหา ถูกตำรวจสอบถามความเกี่ยวข้องกับคดี เมื่อผ่านเข้าไปแล้วจะถูกถ่ายภาพพร้อมกับมีการตรวจบัตรประชาชน จดรายละเอียดลงสมุดบันทึกไว้ อีกทั้งมีโดรนบินอยู่ในบริเวณดังกล่าวตลอดเวลาอีกด้วย
เวลา 10.37 น. หน้าประตูทางเข้าสภ.คลองหลวง ทนายความและผู้ถูกกล่าวหาต้องใช้พื้นที่บริเวณใต้สะพาน เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายก่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้ ระหว่างการปรึกษาทางกฎหมายได้มีจนท.คฝ.คอยยืนล้อมทนายความและผู้ถูกกล่าวหาอยู่โดยรอบตลอดการพูดคุย
ขณะที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง หลังจากถูกออกหมายเรียกร่วมกับกลุ่มราษฎรจำนวน 22 คน ให้มาเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังร่วมชุมนุม #saveนิวมธ
โดย นายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่ได้มีความหวาดกลัวใด ๆ เพราะเคยเข้าเรือนจำมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกคนจากรัฐขู่ทำร้ายมาหลายรอบ อย่างที่ตนเคยเขียนจดหมายออกมาจากเรือนจำคือเสียสละอะไรก็ได้เพื่อเป้าหมายที่เราต่อสู้ ก็คือให้แผ่นดินเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง “ผมไม่กลัวอะไร กลัวแต่การต่อสู้จะเงียบงัน แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่าคบไฟแห่งความตื่นรู้และความกล้าหาญได้ถูกจุดขึ้นแล้วทั่วแผ่นดิน คนที่ตื่นขึ้นมาได้เห็นแสงสว่างแล้วย่อมจะไม่กลับไปหลับหูหลับตาอยู่กับความมืดมิดอีก ไม่ว่าพวกผมจะอยู่แห่งใด หรือจะมีพวกผมหรือไม่ ผมเชื่อว่าการต่อสู้ของประชาชนจะดำเนินต่อไป “เรามาไกลเกินกว่าจะกลับไปนับหนึ่ง และเราจะไม่หันหลังกลับอีกต่อไป จะยังคงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปสู้เพื่อความเป็นไท ดีกว่ายอมเป็นทาส”
ทางด้าน นักร้องหนุ่ม แอมมี่ เดอะบอททอมบูลส์ หรือ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ โพสต์ทวิตเตอร์ให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์และรีทวิตว่าตนเองกำลังเดินทางไปรายงานตัวที่ สภ.คลองหลวง แต่ทราบข่าวมาว่าจะมีการฝากขังตนเองแน่นอน
“ด่วน!!! ฝากทุกคนช่วยกันRETWEET ตอนนี้ผมกำลังเดินทางเข้าไปสภ.คลองหลวงเพื่อรายงานงานตัวตอนนี้ข่าวยืนยันแล้วว่าจะฝากขังผมแน่นอน🇹🇭 #ขอให้ประชาธิปไตยคุ้มครอง|||”
