หลังจากที่สถานการณ์ความเคลื่อนไหวในเมียนมา ภายหลังมีการทำรัฐประหาร กลุ่มเยาวชนและนักศึกษาในเมียนมา ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการทำอารยขัดขืน ประท้วงรัฐประหาร ส่วนทีมแพทย์หลายคน ที่ทำงานในโรงพยาบาลของรัฐ ได้กล่าวว่า พวกเขาจะหยุดงาน เพื่อเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวนาง ออง ซานซูจี นั้น
ต่อมาทางด้านนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ นายแพทย์ที่ร่วมสนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว ในช่วงที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความเชียร์การต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา และสนับสนุนว่าการที่แพทย์กว่า 70 รพ. ในเมียนมา หยุดงานเพื่อประท้วงนั้น ทำถูกต้องแล้ว ท่ามกลางกระแสการบล็อกเฟซบุ๊กจนถึงวันที่ 7 ก.พ. 2564
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก มองพม่า LOOK Myanmar ได้อัพเดทความคืบหน้าเพิ่มเติม ระบุว่า สถานการณ์ในเมียนมา ภายหลังนายพล มินอ่องหล่าย และตัวแทนภาคธุรกิจจาก UMFCCI รวมทั้งสมาคมต่าง ๆ ได้ร่วมประชุม โดยมีเนื้อหาสำคัญที่เผยแพร่ดังนี้
1. ชี้แจงเหตุผลของการรัฐประหาร โดยยืนยันว่าตามรัฐธรรมนูญปี 2008 ได้บัญญัติไว้ว่า เมื่อการประกาศภาวะฉุกเฉินจบลง ทางกองทัพต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 6 เดือนและคืนอำนาจให้แก่ผู้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งปัจจุบันทางกองทัพได้จัดตั้ง Union Election Committee ชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว
2. จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจและภาคเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบสุงสุด จะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย จึงต้องการให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิดที่ยอมรับได้ ซึ่งอยากให้ภาคเอกชนเน้นให้ความสำคัญกับ Labor Intensive Industry ก่อนเป็นอันดับแรก
3. วัด เจดีย์และสถานที่ทางศาสนาจะกลับมาเปิดให้ประชาชนได้ศักการะ ยกเว้นการชุมนุมทางศาสนา ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด
4. สนับสนุนภาคส่งออก ผ่านทางประเทศที่เป็นมิตร และป้องกันข่าวลือที่จะส่งผลต่อภาคการเงินการธนาคาร
5. พยายามสนับสนุนบทสรุปข้อจำกัดและความช่วยเหลือที่จำเป็น ที่ทางภาคธุรกิจรวมรวบส่งเข้ามาให้
มีเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมืองมัณฑะเลย์ โดยมีผู้ถูกจับกุมเบื้องต้น 3 ราย
ผู้แทนจากพรรค NLD (ประมาณ 70 คน) ที่กรุงเนปิดอว์ ออกจากการกักกันตัว ประกาศไม่ยอมรับรัฐประหาร และเรียกการรวมตัวว่าการเปิดประชุมสภา
– สถานการณ์ของต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน : ดำเนินตามข้อกำหนดความร่วมมืออาเซียน
– กฎเกณฑ์ภายในประเทศ
Social Media ทั้ง Facebook และ Instagram ถูก block ตามประกาศของ Post & Telecommunication Department แต่ประชาชนบางส่วนยังคงมีความพยายามเข้าผ่านทางการเปลี่ยน VPN (Line ยังคงใช้การได้ปกติ)
– ผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น FDI Trade มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาปี 64 อาจจะหดตัว -0.5% ถึง -2.5% หลังจากกองทัพเมียนมายึดอำนาจรัฐบาล ส่งผลให้การค้าชายแดนไทย-เมียนมาหดตัวอีกเป็นปีที่ 5
ล่าสุดดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี ที่นาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้สัมภาษณ์ถึงการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ว่าเราต้องทำให้ผู้ที่ทำการรัฐประหารเข้าใจให้ได้ ว่าวิธีนี้ เป็นวิธีที่ไม่อาจยอมรับได้ในการปกครองประเทศ ซึ่งมีเนื้อหา ดังนี้
เลขายูเอ็นดัดจริตสร้างภาพทำทีเป็นห่วงระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา
1. อเมริกาส่งซีไอเอไปทำรัฐประหารในยูเครน และควบคุมรัฐบาลยูเครนมาจนบัดนี้
2. อเมริกาส่งซีไอเอไปทำรัฐประหารที่โบลิเวีย ไล่ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วตั้งหุ่นเชิดของตนเองเป็นประธานาธิบดี
3. อเมริกส่งซีไอเอไปพยายามทำรัฐประหารที่เวเนซุเอล่าแต่ล้มเหลว เพราะเวเนซุเอล่าขอให้รัสเซียเข้าไปช่วย
4. อเมริกาสั่งฆ่านายพลโซไลมณีของอิหร่านเพื่อเอาใจอิสราเอล
5. อเมริกายกกองทัพเรือไปป่วนประเทศโน้นทีประเทศนี้ที เป็นประจำ เพื่อแสดงความกักขฬะก้าวร้าวให้เขากลัว
6. อเมริกาส่งทหารไปรุกรานนานาชาติ โดยไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น อิรัก ซีเรีย ลิเบีย เยเมน
7. อเมริกาอยู่เบื้องหลังการรุกรานปาเลสไตน์ของอิสราเอล
8. อเมริกาไปคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหลายชาติอย่างไร้มนุษยธรรม เพียงเพราะตัวเองเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ไม่ได้คล่อง
9. ยุให้อาร์เซอร์ไบจานทะเลาะกับอาร์เมเนีย
10. จัดตั้งม็อบสงครามพันทางป่วนเบลารุส ฯลฯ
ในเรื่องเหล่านี้ บทบาทของเลขาธิการยูเอ็น ไม่เป็นสัปปะรดขลุ่ยอะไรเลย ช่วยอะไรประเทศที่ถูกอเมริการุกรานไม่ได้เลย ยังมีหน้ามาห่วงใยประชาธิปไตยในเมียนมา
เป็นถึงเลขาธิการสหประชาชาติแต่ขาดภาวะผู้นำ คุ้มครองประเทศเล็กน้อยไม่ได้ หน่วยงาน UN ขณะนี้จึงเป็นแค่เวทีที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ จะไปแสดงโวหารทางการเมืองเพื่อให้ผู้คนดูดี แต่จัดการความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศอะไรไม่ได้เลยถ้าหากว่าความขัดแย้งนั้นมีอเมริกาอยู่เบื้องหลัง ผมไม่ให้ราคาเลขายูเอ็น เขากำลังเดือดร้อนแทนประชาชนเมียนมาหรือเดือดร้อนแทนหุ่นเชิดชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกที่ถูกเตะตัดขา แล้วหมดโอกาสเข้าไปคุมรัฐสภาเมียนมาร์ไม่ได้
นอกจากนี้เมื่อครั้งเกิดการประท้วงจากกลุ่มม็อบในไทย คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยรับประกันเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการชุมนุมอย่างสันติและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้หยุดการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงโดยสันติ
และเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2563 “กลุ่มราษฎร” ได้ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ประกาศบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตรา จนทำให้ “กลุ่มราษฎร” โดนแจ้งดำเนินคดีม.112 ไปแล้วอย่างน้อย 17 คน อีกทั้งได้รวมตัวกันเรียกร้องต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อยกเลิกม.112 ด้วย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก P.khondee ( พี่คนดี กวีสมัครเล่น) ยังได้ร่ายบทกลอน ตอกกลับยูเอ็นด้วยว่า ไม่ควรอ้างคำว่า “พลเมืองโลก” เพื่อคอยไปวุ่นวายกับประเทศอื่น ดังนี้
ฝ่ายตนชนะ บอกยูเอ็นไม่ใช่พ่อ พอฝ่ายตนแพ้ บอกยูเอ็น ต้องมาเป็นคนกลางตัดสินข้อขัดแย้งของคนในชาติ ตลกดีไหม เรื่องบ้านเราก็เรื่องบ้านเรา
เรื่องของผัวเมียจะให้ชู้มาตัดสิน จะดีเหรอ
ผัวไม่ทำการบ้าน หรือทำน้อยไปไม่ถูกใจเมีย จะไปเรียกข้างบ้านมาช่วยจะดีหรือ บางคนบอก ต้องเรียกคนนอก มาช่วย เช่นจิตแพทย์
แต่จิตเแพทย์ก็คงช่วยได้แค่แนะนำ จะมารุกล้ำอธิปไตยมิได้หรอกนะ
สมัยก่อนคนที่ชักศึกเข้าบ้าน เขาเรียกคนขายชาติ แต่สมัยนี้ทำให้ดูซอฟต์ ๆ ว่าแค่คิดต่าง
บางคนขอให้คนอื่นมาเสือกยังไม่พอ ตัวเองก็ชอบเสือกเรื่องชาวบ้านด้วย
อ้างคำว่า “พลเมืองโลก” แล้วทำท่าอยากผดุงประชาธิปไตยไปทุกทิศ
คำว่า พลเมืองโลก พวกท่านอ้างเอาเองนะ บางประเทศเขาไม่ให้ท่านเข้าด้วยซ้ำ ถึงเข้าไปได้ก็ไปเป็นพลเมืองชั้นสอง บางคนอยู่เมืองไทยให้คนกราบไหว้ดีดีไม่ชอบ ดิ้นรนไปเป็นคนล้างส้วมในประเทศที่ตนคิดว่าศิวิไลซ์ พวกมีปัญหาไปที่ไหนก็มีปัญหา ไปอยู่บ้านเขาอีกหน่อยก็ไปหาเรื่องวุ่นวายให้เขาอีก
ที่สุด คนกลาง ในโลกก็คงสามารถกลายเป็น คู่ขัดแย้ง กับคนพวกนี้ได้หมด อีกหน่อยมิต้องไปเรียก มนุษย์ต่างดาวมาเป็น คนกลาง หรอกรึ
49/2021 พลเมืองโลกหัวโปกสั่น
พวกอ้างเป็น “พลเมืองโลก” หัวโปกสั่น
เกร็งกำปั้น อึดอัด กับรัฐประหาร
คนไทยเริ่ม รู้สึกแสลง “แมงรำคาญ”
ที่ชอบเสือก เรื่องชาวบ้าน ร่านเกินทน
อยากจะต้าน เชิญไปค้าน ที่บ้านเขา
ท้วงบ้านเรา ห่างตั้งไกล ใครจะสน
คนอยู่ใกล้ สุดหม่นหมอง ต้องอดทน
พวกเด็กเกรียน เขียนถนน สับสนวัย
ใครใส่ไฟ ให้บ้านตน จนร้อนเร่า
เขาเป็นคน โง่เง่า ไม่เอาไหน
นำไฟนอก ที่ผลาญเผา เป่าเข้าใน
