Truthforyou

ศรีสุวรรณ ฟาด “ปริญญา” เป็นครูสอนกฎหมาย แต่ไม่รู้เรื่องความผิดซึ่งหน้า หลังซัดตำรวจทำเกินกว่าเหตุ!?!

ศรีสุวรรณ ฟาด ปริญญา เป็นครูสอนกฎหมาย แต่ไม่รู้เรื่องความผิดซึ่งหน้า หลังโดดป้องการ์ดวีโว่ ปะทะตำรวจหน้าสถานทูตเมียนมา!?!

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564  อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ, อู วินมิ่นท์ ประธานาธิบดีเมียนมา และผู้นำคนอื่น ๆ ได้ถูกควบคุมตัวโดยกองทัพเมียนมา ต่อมาได้มีการจับกุม อองซาน ซูจี ในช่วงที่กำลังเกิดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลพลเรือนกับกองทัพเมียนมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจเกิดการรัฐประหารโดยกองทัพเพื่อล้มรัฐบาล โดยอ้างข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 ซึ่งพรรคของนางซู จี ได้รับชัยชนะถล่มทลาย ต่อมาทางกองทัพเมียนมา ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน เสมือนเป็นการยึดอำนาจ แล้ว ตั้ง “รองปธน. Myint Swe” เป็น ประธานาธิบดี คุมอำนาจ 1 ปี

จากนั้นก็ได้มีการเคลื่อนไหวของคนเมียนมาในประเทศไทย โดยมีการชุมนุมที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ เพื่ออ่านแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการทำรัฐประหารในเมียนมา และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซานซูจี ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยทางรัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูง (สีแดง) ที่ห้ามจัดการรวมตัวใดๆ ที่มีคนจำนวนมาก โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ยานนาวา ดูแลความสงบเรียบร้อย

โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้เกิดเหตุปะทะกัน ระหว่างกลุ่มการ์ดวีโว่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประกาศขอให้ทางกลุ่มยุติ แต่การ์ด wevo ของม็อบราษฎรที่นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ไม่ยอมเลิกทั้งยืนกรานจะชุมนุมต่อ จากนั้นทางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมโล่และกระบองจึงได้เข้าสลายการชุมนุมม็อบราษฎร โดยตั้งแถวเคลื่อนขบวนมาจาก ถ.ปั้น ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างตำรวจ และกลุ่ม wevo ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ข้าวของต่างๆ ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และขณะที่ตำรวจเคลื่อนขบวนบีบเข้ากระชับพื้นที่ ก็เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน บาดเจ็บ 2 นาย ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ 3 คน

จากกรณีที่กลุ่มการ์ดวีโว่ที่ก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถูกจับกุม ทางด้าน ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมและสลายการชุมนุมกลุ่มประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐประหารเมียนมาที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยว่าทำเกินกว่าเหตุ โดยบอกว่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมและจับกุมโดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ที่ ต้องขอศาลก่อน การจัดชุมนุมจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนอย่างน้อย 24 ชั่วโมง  โดยหากไม่แจ้งก่อนจะถือเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่การดำเนินการต่อการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย #เจ้าหน้าที่จะต้องมีการประกาศให้เลิกชุมนุมก่อน หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม #เจ้าหน้าที่ก็จะต้องไปร้องขอต่อศาลเพื่อมีคําสั่งให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม โดยศาลที่ต้องไปขอคือศาลแพ่งหรือศาลจังหวัด ต่อเมื่อศาลมีคำสั่งให้เลิกชุมนุม แล้วผู้ชุมนุมยังไม่เลิกชุมนุม เจ้าหน้าที่จึงจะมีอำนาจ “ดำเนินการให้มีการเลิกชุมนุม” โดยประกาศพื้นที่ตรงนั้นให้เป็น “พื้นที่ควบคุม” และให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ในเวลาที่กำหนด  เมื่อเวลาครบกำหนดแล้วผู้ชุมนุมยังไม่ออกจากพื้นที่ถึงจะไปจับกุม และดำเนินการอื่นๆ ให้เลิกชุมนุมได้
แล้วสำหรับ #การชุมนุมที่หน้าสถานทูต จริงๆ แล้วพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะก็ไม่ได้ห้าม เพียงแต่กำหนดว่า “ต้องไม่กีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงาน หรือการใช้บริการสถานที่”  และหากมีการกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ก็ต้อง “ประกาศให้แก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด” ก่อน หากผู้ชุมนุมไม่แก้ไข ถ้าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการต่อไปก็ต้องไปขออำนาจศาลก่อนเช่นกัน
ว่าง่ายๆ คืออยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ชุมนุมเลยไม่ได้ แม้จะเป็นการชุมนุมที่ไม่แจ้งก่อน หรือเป็นการชุมนุมที่เจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย
โดยการสลายการชุมนุมต้องเป็นวิธีท้ายที่สุด และดังนั้นจึงต้องยากที่สุด คือต้องไปขอศาลก่อน จนบางท่านสงสัยว่ามัวแต่ต้องไปขอศาลก่อนจะไปทันเวลาได้อย่างไร ก็สงสัยไม่ผิดหรอกครับ เพราะการชุมนุมแบบแฟลชม็อบ หรือไม่ค้างคืน ไม่ยืดเยื้อ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะไม่ต้องการให้ไปสลายครับ เพราะเค้าไม่ได้ยืดเยื้อและเลิกกันเองอยู่แล้ว การสลายการชุมนุมจึงใช้เฉพาะการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ไม่ยอมเลิกเท่านั้นครับ
แล้วถ้าจะบอกว่าสถานการณ์ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ต้องใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไม่ต้องใช้พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 อันนี้ก็ไม่ถูกครับ เพราะการชุมนุมที่ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็เป็นแค่ประเด็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่การควบคุมหรือสลายก็ต้องทำตามขั้นตอนตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะอยู่ดีครับ และถ้าหากจะอ้าง พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ผมก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดูมาตรา 17 ของ พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินด้วยครับ คือการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้อง “ไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น” ครับ
เจ้าหน้าที่รัฐมักจะเรียกร้องให้ประชาชนทำตามกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามกฎหมายด้วยเช่นกัน กรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และรวมถึงในวันนี้ที่มีการสลายการชุมนุมและจับกุมโดยไม่ไปผ่านศาลและทำตามขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมายก่อน ผมเห็นว่า #เจ้าหน้าที่ตำรวจทำผิดกฎหมาย และสำหรับตามภาพนี้ผมเห็นว่า #ทำเกินกว่าเหตุ ด้วยครับ
ล่าสุดทางด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของดร.ปริญญาที่ออกมาปกป้องกลุ่มการ์ดวีโว่และบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุว่า
จะบ้าหรือไง ไปกล่าวหาว่าตำรวจจับกุมเกินกว่าเหตุไม่ขอหมายศาล เรื่องนี้เป็นความผิดซึ่งหน้า ตาม ปอ.ม.80 เป็นครูสอน กม.ได้ไง?
Exit mobile version