ผบช.ภ.3 โกนหัว หลังเด้งผกก.สภ.ภูเขียว ลั่นลูกน้องไร้สำนึกความเป็นตำรวจ

3800

จากกรณีที่ในช่วงค่ำของวันที่ 1 ก.พ.64 กลุ่มราษฎรผู้จัดค่าย ราษฎรออนทัวร์ ได้จัดกิจกรรมหน้า สภ.ภูเขียว และมีการนำป้ายปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ขึ้นแขวนหน้า สภ.ภูเขียว และเปิดเวทีปราศรัยย่อย

โดยที่ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการใดๆได้ในขณะนั้น ส่งผลให้ภาพดังกล่าวหลุดแพร่กระจายออกมาในโลกโซเชียล และหลายๆคนต่างรับไม่ได้กับภาพที่เห็น และตั้งคำถามว่ากฎหมายไม่สามารถทำอะไรได้เลยหรืออย่างไร

ต่อมา ได้มีคำสั่งด่วนจาก ตำรวจภูธรภาค 1 ในเรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน โดยมีคำสั่งให้ ว่าที่พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก.สภ.ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่สังกัดเดิม ตั้งแต่วันนที่ 1 ก.พ.2564 เป็นต้นไป ลงนามโดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ซึ่งคาดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นต้นเหตุให้ พ.ต.อ.เพิ่มสุข ขาดจากตำแหน่ง

ล่าสุด พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า กรณีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 กพ.) มีกลุ่มคนอ้างเป็นคณะราษฎรภูเขียว ได้ทำกิจกรรมที่เป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนด (พ.ร.ก) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและความผิดอื่นๆ ที่ สภ.ภูเขียว โดยกางเต้นท์พร้อมตั้งเวทีที่บริเวณหน้าบันไดทางเข้าและได้ติดป้ายมีข้อความไม่เหมาะสม ไม่บังควร “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ #SAVE เมียนมาร์ บังบริเวณบันไดทางขึ้น

แต่ว่าที่ พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก.สภ.ภูเขียว ไร้ซึ่งจิตสำนึก วินัย ขาดแผนเผชิญเหตุ ไม่มีความรับผิดชอบโดยไม่ดำเนินการใดๆ อันเป็นการป้องกันหรือระงับยับยั้งการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายรวมทั้งไม่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบอีก แสดงถึงการปล่อยปละละเลยต่ออำนาจหน้าที่

ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จ.ชัยภูมิ และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้เดินทางไปที่สภ.ภูเขียว เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. สามารถเจรจา พูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้ถอดป้ายและรื้อเวทีออกได้เป็นผลสำเร็จ

ราษฎรกางเต็นท์ หน้า สภ.ภูเขียว หลังตำรวจผิดคำพูด ไม่ขอโทษกรณีคุกคาม  นร.มัธยมฯ

ทั้งนี้ จึงลงนามในคำสั่งให้ ว่าที่ พ.ต.อ เพิ่มสุข ผกก.สภ.ภูเขียว มาปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่สังกัดเดิมพร้อมให้ พล.ต.ต อภิศักดิ์ เดชะคำภู รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นผู้มอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติ ควบคุม กำกับ ดูแลปกครองบังคับบัญชาข้าราชการตำรวจดังกล่าวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ตนได้โกนผมออกเพื่อธำรงวินัย และผู้ใต้บังคับบัญชา ไร้ซึ่งระเบียบ ตำรวจต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนหน้านี้ ตนได้กำชับให้สถานีตำรวจในสังกัด สนง.ตำรวภูธรภาค 3 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และติดตั้งกล้องซีซีทีวี เราเคารพสิทธิผู้ชุมนุม แต่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ

ในช่วงบ่ายนี้จะเดินทางไป สภ.ภูเขียว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินคดีกับคณะราษฎรภูเขียวทุกคนทุกข้อหาที่ปรากฏ ซึ่งพื้นที่จ.ชัยภูมิ มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ รวมสะสม 9 ราย จึงได้ประกาศเป็นเขตควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อร้ายแรงด้วย จึงมี 2 ข้อหาคือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ โรคติดต่อร้ายแรง มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผบช.ภาค 3 กล่าว

“ผมจะเดินทางไปที่ สภ.ภูเขียว เพื่อกำกับติดตามและสั่งการให้ดำเนินคดีกลุ่มราษฎรทุกคนที่ชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ รวมถึงข้อหาอื่นๆ รวมทั้งจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระเบียบวินัย เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาไร้ระเบียบวินัย ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จึงต้องโกนหัวเพื่อธำรงวินัย”พล.ต.ท.ภาณุรัตน์