จากที่เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต3 นครศรีธรรมราช แทน นายเทพไท เสนพงศ์ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส.นั้น
โดยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะส่งผู้สมัครของพรรคลงชิงตำแหน่ง แต่ต้องดูก่อนว่ากรรมการบริหารพรรคจะประชุมว่าอย่างไร และหากทางพรรคประชาธิปัตย์ ร้องขอไม่ให้ส่งผู้สมัครจะดำเนินการหรือไม่นั้น ทางพล.อ.ประวิตร ย้ำว่า ตนไม่รู้ ทั้งหมดขอประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน ส่วนจะเป็นคนเดิมหรือไม่ ก็ไม่รู้เช่นกัน พร้อมกับย้อนถามผู้สื่อข่าวกลับว่า “ถามอย่างนี้แล้วจะให้เราตอบอย่างไร ให้ตอบว่าไม่รู้หรือ ซึ่งผมก็ยังไม่รู้จริงๆและไม่มีคนในใจ”
ต่อมาวันที่ 29 มกราคม 2564 พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งโดนพรรคประชาธิปัตย์ทักท้วงให้คำนึงถึงมารยาททางการเมืองจะต้องมีการพูดคุยกันก่อนหรือไม่ ว่ารอประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)ก็จะรู้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราก็แพ้ไป 2,000 กว่าคะแนน
เมื่อถามว่า คำทักท้วงของพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นสาระที่ต้องนำมาพิจารณาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของการต่อสู้ทางการเมือง ไม่เป็นอะไร ส่วนแนวโน้มคือจะส่งผู้สมัครใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ยังไม่รู้ ต้องรอดูที่ประชุม กก.บห.ว่าจะออกมาอย่างไร แต่เชื่อว่าบรรยากาศการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น สื่อไปคิดกันเอง อย่ามาถามแบบนี้
ทั้งนี้เมื่อถามย้ำว่าจะส่งหรือไม่ส่งก็ไม่มีปัญหาระหว่างพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีปัญหา เป็นเรื่องของประชาธิปไตย พรรคจะส่งหรือไม่ส่งก็ไม่เป็นอะไร พรรคไหนไม่ส่งก็ไม่ส่ง พรรคไหนส่งก็ส่ง ไม่มีอะไร ไม่เกี่ยวกับมารยาททางการเมือง
จากนั้น 31 มกราคม 2564 นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ และรองเลขาธิการพรรค ออกมาเปิดเผยว่า จะจำคำพูดที่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า “ประชาธิปไตยไม่เกี่ยวกับมารยาททางการเมือง” ดังนั้น ต่อไปพรรคร่วมรัฐบาลจะลงมติในสภาแบบไม่ต้องเกรงใจพรรคพลังประชารัฐ
“ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่าน (พลเอกประวิตร) พูดเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับมารยาททางการเมือง ดังนั้นผมจะจำคำพูดนี้ไว้ เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฝ่ายรัฐบาลต้องไม่เอาคำว่า มารยาททางการเมือง มาใช้เป็นข้ออ้างให้พรรคร่วมรัฐบาลลงมติไว้วางใจกับสิ่งที่ฝืนต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างที่เคยเป็น ควรจะพิจารณาตัดสินกันโดยยึดหลัก ถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด น่าจะเป็นการสร้างศรัทธาให้กับรัฐบาลมากกว่า” นายอันวาร์ กล่าว
ล่าสุดวันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2564 พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาพูดถึงกรณี นายอันวาร์ ว่าก็แล้วแต่ที่เขาจะคิด เมื่อถามว่า มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐคุมเกมในสภาฯใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่รู้ ตนยังไม่รู้เลยว่าเขาคิดกันอย่างไรแต่พรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมมือกันนั้นแหละ เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมมือกัน ทำไมพรรคพลังประชารัฐถึงไม่หลีกทางในการเลือกตั้งซ่อม พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ก็คราวที่แล้วเราแพ้นิดหน่อย ครั้งที่แล้วก็สู้กันใช่หรือไม่ และคนเขาอยากลงจะทำอย่างไร ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้จะไม่กลายเป็นปัญหาบานปลายเพราะเป็นของจังหวัด
สำหรับนายอันวาร์ ถือเป็นกลุ่มส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความสนิทกับอดีตหัวหน้าพรรคอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเห็นได้จากกลุ่มส.ส.ดังกล่าวโหวตลงมติสวนทางกับพรรคร่วมรัฐบาลบ่อยครั้ง อย่างเช่น สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการใช้ศึกษาผลกระทบจากประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562 ซึ่งมี 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติเห็นด้วยให้ตั้ง กมธ.ดังกล่าว
โดยยังคงลงมติยืนยันตามเดิม 4 ราย ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายเทพไท เสนพงศ์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ และนายอันวาร์ สาและ ขณะที่ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่ไม่ออกเสียงลงมติ สร้างความไม่พอใจให้กับแกนนำระดับสูงของรัฐบาลเป็นอย่างมาก