อาจารย์หมอศิริราช อัพเดตอาการล่าสุดของผู้ว่าฯสมุทรสาคร โดยเปิดเผยว่า ปอด-ระบบหายใจกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย อวัยวะอื่น ยังประคับประคองทำงานร่วมกันได้ และเริ่มอนุญาตให้ครอบครัวเข้าเยี่ยมได้บ่อยขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นให้มีกำลังใจหายป่วย
โดยทางด้าน รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ไม่มีเว้นวันหยุด คณะกรรมการแพทย์ประชุมกันทุกวันเพื่อหาหนทางเยียวยาพ่อเมืองสมุทรสาครให้ฟื้นกลับคืนมาได้ใกล้เคียงเดิมที่สุด วันนี้การทำงานของปอดและระบบการหายใจกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนการทำงานของอวัยวะอื่นยังได้รับการประคับประคองให้ทำงานกันอย่างยอดเยี่ยมได้อยู่
ตอนบ่ายเช่นเคย คือเปิดโอกาสให้คู่ชีวิตและลูกสาวของพ่อเมืองสาครเข้าเยี่ยม วันนี้มีลูกสาวแฝดสองคนท้ายมาร่วมแจมด้วย การสนทนา family business วันนี้จึงมีหลากหลายอารมณ์กว่าเดิม แถมด้วยเสียงเพลงท่อนสั้นๆ จากคู่ชีวิตของท่านด้วย และวันนี้เราได้จัดหาหูฟังขนาดใหญ่ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนจากอุปกรณ์การแพทย์ในห้องพักของท่าน
พร้อมกับให้ครอบครัวจัดเตรียมเสียงเพลง เสียงสนทนา เสียงพากย์บอล (ตอนหงส์แดงลงแข่ง) และเสียงอื่นที่ท่านโปรด เพื่อนำมาเปิดหมุนเวียนไปตลอดเวลาเท่าที่จะอำนวย หวังผลกระตุ้นการพลิกฟื้นของกายและจิตให้กลับมาไว ๆ
ช่วงนี้ทีมโควิดวิกฤตศิริราชงานเบาลงมากเพราะไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เติมเข้ามา คาดว่าน่าจะปิดซีซั่นสองได้ในสัปดาห์หน้า แต่หนังซีรีส์ที่ดีไม่ควรมีซีซั่นสาม เพื่อจะได้ตรึงใจผู้ติดตามไว้ไม่ให้เสียมาตรฐาน (ที่จริงไม่อยากเหนื่อยอีกครั้งนั่นเองแหละ) …
ขากลับจากโรงพยาบาลผ่านร้านตัดผมเจ้าประจำ ครั้งก่อนเลือกไปตัดให้สั้นเมื่อต้นเดือนก่อนเพราะคาดการณ์ล่วงหน้าว่าระลอกสองมาแน่ และเป็นจริงตามคำทำนาย ดูจะแม่นกว่าการทายผลแข่งขันบอลของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทีมโปรดเสียอีก
รอบนี้คิดว่าศึกโควิดใกล้สงบแล้วเหลือแค่ รอเช็คบิลที่สมุทรสาครและกทม.ให้เรียบร้อย แต่ก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียวเพราะยังมีผู้ป่วยไปโผล่ในกลุ่มคนไทยและแรงงานต่างชาติในโรงงานที่สมุทรปราการได้ ขอให้พวกเราร่วมมือร่วมใจกันให้มั่นอย่าระย่อ จนกว่าวัคซีนโควิดจะมาและฉีดได้กันครอบคลุมมากพอ…
#saveประเทศไทยจากภัยโควิดระลอกสอง”
นอกจากนี้ทางเพจ หมอแม่สอด ยังได้เล่าถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ติดเชื้อโควิด จะต้องมีขั้นตอนการตรวจและรักษาอย่างไรบ้าง ไว้ดังนี้
เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ เราทำอะไรบ้าง
สวัสดีค่ะทุกท่าน ขออภัยที่หายไปนาน เพราะว่ามันยุ่งมากจริงๆ ค่ะ
ไม่กี่วันมานี้ มีข่าวออกไปทุกหัวระแหงว่า มีพยาบาลโรงพยาบาลแม่สอดติดเชื้อ 1 ท่าน
ข่าวนี้เป็นความจริงค่ะ
การที่เจ้าหน้าที่ติดเชื้อถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก เพราะเกี่ยวพันกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ที่จะลดลงไปเพราะถูกกักตัว
การสอบสวนโรคที่รวดเร็วและแม่นยำจึงสำคัญที่สุดค่ะ
คุณพยาบาลที่ติดเชื้อนั้น เมื่อรับทราบแล้วก็เร่งเขียนไทม์ไลน์ของตัวเองออกมาทันที
ในโพสต์นี้หมอเปิดเผยไทม์ไลน์ของแกให้ไม่ได้นะคะ แต่อยากบอกว่า สงสารแกมากเลยค่ะ เพราะไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นจนจบ อยู่แต่ รพ. ขึ้นเวรเช้าบ่ายดึกๆ วนๆแบบนั้น แกมีออกไปข้างนอกบ้าง แต่ก็ไปปฏิบัติงานอีกเช่นกัน แสดงให้เห็นชัดเลยว่า อัตรากำลังของเรามันตึงเครียดจริงๆ
จากนั้นเราทำ 2 สิ่ง
1. สืบขึ้นบนหาต้นตอ
2. สืบลงล่าง หาผู้ที่ติดเชื้อต่อ
จึงปรากฏเป็นการเกณฑ์พยาบาลและคนไข้พร้อมญาติจำนวนหนึ่งมากักตัวและสวอบ
สิ่งนี้ทำให้อัตรากำลังเราขาดแคลน แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะขณะนี้แม่สอดเราไม่โดดเดี่ยว ทันทีที่ทราบเหตุ ได้มีการโยกย้ายกำลังคนจากส่วนอื่นๆ ทั้งในเขตตากและจังหวัดข้างเคียง เตรียมพร้อมมาช่วยพวกเราทันที
ย้อนกลับมาเรื่องการกักตัว เราทำละเอียดถึงขั้นว่า คุณพยาบาลที่ติดเชื้อ เข้าดูคนไข้คนไหน ขึ้นเวรคู่กับใคร มีกิจกรรมอะไรบ้าง เราละเอียดยิบขนาดนั้น ณ ปัจจุบัน พยาบาลที่ขึ้นปฏิบัติงาน จึงปลอดภัยไร้กังวล
สำหรับพยาบาลเสี่ยงสูงทั้งหมด โชคดีที่สุด ที่ทุกคนเคร่งครัดกับการใส่แมสก์ล้างมือ ผลสวอบเป็นลบทั้งหมดค่ะ ดีใจ
สำหรับต้นทางขณะนี้กำลังสืบสวนติดตาม และขยายผลออกไปค่ะ