นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่กรุงทพมหานคร
ระบุว่า ภาพรวมมีรายงานผู้ติดเชื้อต่อเนื่องทุกวัน แต่มีแนวโน้มลดลง ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยในช่วงสัปดาห์นี้มีผู้ป่วยกลุ่มก้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับปาร์ตี้ดีเจดัง และร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม
“อย่างกรณีของงานปาร์ตี้ที่มี 2 กลุ่มเชื่อมโยงกัน วันนี้ได้รับรายงานมีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวเนื่องกับ 2 งานเลี้ยง เพิ่มอีก 1 คน ขณะนี้รวมผู้ติดเชื้อที่ติดจากปาร์ตี้ดังกล่าวแล้ว 30 คน จึงขอย้ำให้ประชาชนมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง ซึ่งนอกจากจะมีโอกาสติดเชื้อแล้ว ยังอาจทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังผู้อื่นได้ด้วย”
ส่วนกลุ่มก้อนร้านอาหารที่ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบ เพราะพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกเป็นพนักงานร้านอาหาร ส่วนอีกกลุ่มเป็นผู้ที่เข้าไปรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นคนละร้านกับที่พบพนักงานติดเชื้อ จึงขอเวลาสอบสวนโรค หาความเชื่อมโยงของการแพร่ระบาด
ขณะนี้ สปคม. ยังร่วมกับกรุงเทพมหานคร ปรับเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้มีความเข้มข้นขึ้น รวมไปถึงการเร่งตรวจเชิงรุก ทั้งในกลุ่มที่เข้าข่าย และสุ่มตรวจในกลุ่มที่ไม่เข้าเกณฑ์ PUI แต่มีความเสี่ยง
อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการสุ่มตรวจโรงงานที่มีแรงงานข้ามชาติทำงาน ในพื้นที่ 5 เขต คือ บางขุนเทียน บางบอน ภาษีเจริญ หนองแขม และบางแค รวมทั้งหมด 40 โรงงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 โรงงาน ในพื้นที่บางบอน บางขุนเทียน และภาษีเจริญ
“แม้การระบาดระลอกใหม่ในพื้นที่ กทม. เมื่อเทียบกับระลอกแรก ผู้ติดเชื้ออาจไม่สูงเท่า แต่มีแนวโน้มระบาดต่อเนื่อง โดยกลุ่มที่ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานและวัยรุ่น จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด การ์ดอย่าตก”
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่กทม. ได้ลงพื้นที่ ตรวจเข้มสถานประกอบการ ประเภทผับ บาร์ คาราโอเกะ และสั่งปิดร้านทันที 3 ร้าน ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้แก่
1. ร้านทัจคาเฟ่ (Taj Cafe) ซอยสุขุมวิท 3 นานาเหนือ เขตวัฒนา ซึ่งฝ่าฝืนมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนด เปิดเกินเวลา ผู้มาใช้บริการมั่วสุมจำนวนมาก ไม่มีมาตรการป้องกัน โดยมีคำสั่งปิด 14 วัน ระหว่างวันที่ 17-30 ม.ค.64 ตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อปิดสถานที่ ที่ กท 8504/295 ลงวันที่ 17 ม.ค.64
2. ร้าน Insanity ซอยสุขุมวิท 11 (ไชยยศ) เขตวัฒนา ฝ่าฝืนมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนด เปิดเกินเวลา ผู้มาใช้บริการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่มีมาตรการป้องกัน จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค.58 โดยมีคำสั่งปิดระยะเวลา 5 ปี ตามคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ที่ กท 8504/494 ลงวันที่ 25 ม.ค.64 และเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร
และ 3. ร้านนั่งต่อ ถ.สุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี ฝ่าฝืนมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนด มีการจำหน่ายและบริโภคสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน โดยมีคำสั่งปิดสถานประกอบการ 14 วัน ระหว่างวันที่ 25 ม.ค.-7 ก.พ.64
นอกจากนี้มีรายงานว่า คณะผู้บริหารโรงแรมบันยันทรี ออกเอกสารชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ ขณะนี้ เรื่องการรับประทานอาหารค่ำในวันคล้ายวันเกิดของดีเจมะตูม ณ ร้านอาหารเวอร์ทิโก้ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2564 โดยมีการสอบถามว่า ทางโรงแรมอนุญาตให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและอนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน หลังเวลา 21.00 น. หรือไม่นั้น
ทางโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ขอชี้แจงว่า โรงแรมได้ปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร และมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทั้งนี้โรงแรมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการในการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งแสดงหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่แสดงว่าทางโรงแรมได้ปฏิบัติตามประกาศและมาตรการของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยไม่อนุญาตให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้านหลังเวลาที่ทางราชการกำหนด
