จากกรณีที่ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบัททอมบลูส์” นักร้องที่ร่วมกับกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ภาพ ใส่ชุดสูท สวมแว่นตา สะพายกล้อง มือถือสมุดอยู่ข้างรถกระบะ พร้อมกับทราย เจริญปุระข้างๆ
ทำให้เกิดคำวิพากษ์วิจาร์ณมากมายว่านายแอมมี่นั้นจงใจถ่ายภาพเลียนแบบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่ชนบทหรือไม่
ทั้งนี้ นางสาวอินทิรา เจริญปุระ หรือทราย เองก็ได้แชร์ภาพดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก และทวิตภาพเดียวกันนั้นลงในทวิตเตอร์พร้อมระบุข้อความว่า “ชมเหมือง”
ขณะเดียวกัน มีผู้คนแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมมากมายเช่น
“พ่อแม่คงภูมิใจสิ่งนะ
ใจบอด ประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดที่คนในชาติต่ำตมขนาดนี้ได้ยังไง”
“เหนื่อยมากมั้ยคะ คงเพราะไม่มีจะกินอยู่แล้วเลยต้องหาผลงานไปขึ้นเงิน ไม่มีใครให้ค่าหรอกค่ะ จิตใจคุณกับคนที่คุณอยากจะล้อเลียนมันต่างกันมากกกก พยายามต่อไปนะคะ”
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทราย แสดงออกแบบจงใจหมิ่นเกียรติ และล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเมื่อวันที่ 26 มกราคม 64 ทราย ได้จูงมือ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อบริจาคผ้าอนามัยและชุดชั้นในให้แก่นักโทษ ภายใต้กิจกรรม “ราษฎรปันสุข” ซึ่งชื่อกิจกรรมนั้น เหมือนจงใจเลียนแบบโครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพิ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อดำเนินการในเรื่องของสุขอนัยทางการแพทย์ต่างๆของผู้ต้องขังให้ทั่วถึงครบถ้วนยิ่งขึ้น
นอกจากกิจกรรมราษฎรปันสุข ทรายเจริญปุระยังมีตวามผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ติดตัวอีกด้วย โดยทรายเจริญปุระได้เปิดเผยสาเหุที่ตนโดนหมายเรียกข้อหาดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยสำนวนฟ้องของพนักงานสอบสวน ระบุว่า
” ในฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในทำนองว่า “ผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ภาพซึ่งมีข้อความล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีคำว่า ‘ฉันคง ไม่กลับ ไปรักเธอ’ ‘กล้ามากเลยนะเธอ’ และ ‘ก็ตาสว่างกันหมดแล้ว’ ในเชิงล้อเลียน เสียดสี” นอกจากนี้ ทราย ยังใส่แคปชั่นประกอบว่า “ฉันคงไม่กลับไปรักเธอ””
ซึ่งขณะที่ทราย เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ตามหมายเรียก ข้อหาหมิ่นสถาบันความผิดตามาตรา 112 และข้อหายุยงปลุกปั่น มาตรา 116 และข้อหาอื่น ๆ จากเหตุการณ์ชุมนุม ที่บริเวณกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ทรายได้ขึ้นไปกล่าวบนเวทีที่ม็อบราษฎรจัดขึ้นบริเวณหน้า ส.น. โดยทรายกล่าวว่า
“พูดเหมือนเพนกวินก็ไม่เป็นนะ ปกติบอกแต่ข้าวอยู่ตรงไหน (หัวเราะ) ขอบคุณค่ะ คือ อยากให้มาก็มาค่ะ แต่ถ้าอยากให้หยุดต้องทำมากกว่านี้ก่อน ขอบคุณค่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ความรู้สึกที่โดนข้อหา ม.112 ก็รู้สึกกล้ามาก เก่งมาก กูโดนได้ไง (หัวเราะ) แต่ก็คิดว่าถ้าเราโดนได้ ทุกคนก็โดนได้นะคะ ก็ยินดีกับทุกๆ คนด้วย ถ้ายังไม่เลิกทุกคนก็มีสิทธิ์โดน เดินผ่านไม่ก้ม ยิ้มมากไม่พอ ใส่เสื้อไม่สวย อะไรก็โดนได้หมดเลย ขอบคุณมากนะคะที่มา แต่อยากให้เวลาน้องๆ ทุกคนที่เป็นแกนนำไป อยากให้มีคนไปให้กำลังใจเยอะๆ แบบนี้ มันมีความหมายมากๆ เลย ขอบคุณค่ะ”
หลังจากนั้น เพจเฟซบุ๊กชื่อ “PAENG Surachet” ของ สุรเชษฐ์ พิสิฐวุฒินันท์ หรือ เป้ง โพสต์ข้อความว่า “ตามที่ข้าพเจ้านาย เป้ง สุรเชษฐ์ ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของนางสาว อินทิรา เจริญปุระ ที่นอกจากจะมาเป็นนางเอกmvในเพลงของข้าพเจ้าแล้ว ยังเลี้ยงส้มตำข้าพเจ้าอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง และขอเป็นท่อน้ำเลี้ยงม๊อบไปอีก90ม๊อบ หรือจนกว่าได้รับชัยชนะ #paengsurachet #กล้ามากเก่งมากขอบใจ”
นอกจากนี้ ทราย เจริญปุระ ยังได้คอยให้การสนับสนุน ม็อบคณะราษฎรที่ได้มีการชุมนุมและปราศัยละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงการชูป้าย พ่นสีถ้อยคำด่าหยาบคายหมิ่นเกียรติ์พระบรมเดชานุภาพมาโดยตลอด จนสุดท้ายก็ได้กลายเป็นหนึ่งผู้ที่กระทำการหมิ่นเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสียเอง
สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุด ของทราย เจริญปุระ อาจจะคือการที่ทรายเคยออกมาชี้แจงถึงจุดยืนเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันในช่วงเวลาที่เธอออกมาต่อต้านม็อบกปปส. โดยเธอระบุว่า “เราก็รักในหลวงค่ะทำงานถวายมาก็เยอะเข้าเฝ้าฯ อยู่เรื่อยๆ เป็นมงคลชีวิตค่ะ ดังนั้น อย่าพูดในเชิงว่าเราจะล้มเจ้าเลยค่ะ ไม่งาม”