จากที่ก่อนหน้านี้ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบัททอมบลูส์” นักร้องที่ร่วมกับกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กล่าสุด ระบุว่าตนเองโดนหมายจับ โดยบอกว่า
“การที่ตำรวจเอาหมาย มาแปะหน้าบ้านพ่อแม่ผม
ถือเป็นการกดดันที่ไร้ซึ่งจริยธรรม
ถ้าจะทำตัวเป็นสุนัขรับใช้เผด็จการ
ก็ขอเถอะครับอย่าทำนิสัย ลอบกัด”
แต่เมื่อตรวจสอบในเพจเฟซบุ๊กของเจ้าตัว พบว่าได้ลบข้อความดังกล่าวออกไปแล้ว ซึ่งตามความเป็นจริง การติดหมายต่าง ๆ เจ้าหน้าที่จะต้องนำหมายนั้น ๆ ไปติดยังบ้านตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านอยู่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ใช่การลอบกัด ตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง
ล่าสุดแอมมี่ ได้โพสต์ภาพ ใส่ชุดสูท สวมแว่นตา สะพายกล้อง มือถือสมุดอยู่ข้างรถกระบะ พร้อมกับทราย เจริญปุระข้างๆ ทำให้เกิดคำวิพากษ์วิจาร์ณมากมายว่านายแอมมี่นั้นจงใจถ่ายภาพเลียนแบบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่ชนบทหรือไม่
ทั้งนี้ นางสาวอินทิรา เจริญปุระ หรือทราย เองก็ได้แชร์ภาพดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก และทวิตภาพเดียวกันนั้นลงในทวิตเตอร์พร้อมระบุข้อความว่า “ชมเหมือง”
ขณะเดียวกัน มีผู้คนแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมมากมายเช่น
“พ่อแม่คงภูมิใจสิ่งนะ
ใจบอด ประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดที่คนในชาติต่ำตมขนาดนี้ได้ยังไง”
“เหนื่อยมากมั้ยคะ คงเพราะไม่มีจะกินอยู่แล้วเลยต้องหาผลงานไปขึ้นเงิน ไม่มีใครให้ค่าหรอกค่ะ จิตใจคุณกับคนที่คุณอยากจะล้อเลียนมันต่างกันมากกกก พยายามต่อไปนะคะ”
อย่างไรก็ตาม แอมมี่ มีวีรกรรมสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ด้วยศิลปะ และยังมีการร่วมม็อบในวันที่ 13 ตุลาคม 2563 พร้อมนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำกลุ่มดาวดิน จนถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว และถูกปล่อยตัวในวันที่ 19 ต.ค. 2563 แอมมี่ พร้อมพวกรวม 19 ราย ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (เรือนจำกลางคลองเปรม) และร่วมกับแกนนำคณะราษฎร เทอาหารหมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีด้วยนั้น อีกทั้งในช่วงที่ม็อบออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่อง แอมมี่ยังได้ ย้ำชัดจุดยืนทางการเมือง ระบุว่า แม้โดนแบนขอ เลือกเปิดหน้าสู้เพื่อปชต.
และเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่” ได้เปิดใจเล่าเรื่องในคุก ผ่านรายการแฉ ช่อง GMM ว่าต้องเข้าคุกอีกก็ยอมรับ ขอพลีชีพเพื่ออุดมการณ์ โดยครั้งนั้นพิธีกรถามว่า ตอนนี้มีคดีอยู่เท่าไหร่แล้ว ? แอมมี่ เผยว่า ตอนนี้ มีมาเพิ่มอีก 3 คดีชุมนุมหน้าเวสต์เกต ตอนนี้รวม ๆ แล้วน่าจะ 11 คดี
อยู่วงการบันเทิง ทำไมตัดสินใจเข้ามาเชียร์ม็อบเต็มตัว? นายไชยอมร เผยว่า ก็มีการพูดคุย มองถึงฟีดแบ็กที่ต้องเห็นอยู่แล้ว มันเป็นคำพูดติดกัน ว่า นักแสดง นักร้อง ห้ามยุ่งกับการเมืองนะ เพราะว่าสังคมของเรามีการคาบเกี่ยวกันระหว่าง สังคมของชนชั้นกลาง ล่าง และบน อยู่แล้ว แต่เราคิดว่ามันคือการพลีชีพ ที่แน่ ๆ เราอาจจะต้องเสียวิชาชีพ หรือ อิสรภาพที่ต้องไปติดคุก หรือ สวัสดิภาพ เรารู้นะ ว่ามันไม่ปลอดภัยมาก ๆ เรารู้กันอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่ถ้ามองว่าใหญ่กว่าตัวเราแล้ว และได้เห็นแล้วว่ามีคนสละชีวิตเพื่ออุดมการณ์ ครั้งหนึ่งในชีวิตก็คิดว่าเป็นโอกาสดี
“ผมเป็นตัวอย่างของคนที่มีต้นทุนในสังคม ชื่อเสียง หรือเงินทอง ถ้าออกมาเป็นปากเป็นเสียง ช่วยน้อง ๆ ได้ก็ยินดี นี่เป็นความคิดเราและหลาย ๆ คน”
ก่อนที่พิธีกรจะทิ้งท้ายถามว่า กลัวเข้าคุก อีกไหม ? “เรื่องนี้ ก็คุยกับอานนท์ กับไผ่ ถ้าต้องเสียอิสรภาพอีกรอบ แต่รักษาอุดมการณ์ไว้ ผมก็ยินดีน้อมรับมัน”
อย่างไรก็ตามการโพสต์ข้อความของแอมมี่ ไม่ได้ต่างไปจากแกนนำคนอื่น ๆ มากนัก เพราะเมื่อโดนคดีจากการที่ตัวเองทำผิดกฎหมาย ก็จะออกมาโวยวาย และกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รังแกทุกครั้ง
ขณะเดียวกัน ทรายเจริญปุระเองก็มีคดี ม.112 ติดตัวอยู่ โดยทรายได้ชี้แจงผ่านเฟซบุกภาพสำนวนฟ้องของพนักงานสอบสวน ในฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในทำนองว่า “ผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ภาพซึ่งมีข้อความล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีคำว่า ‘ฉันคง ไม่กลับ ไปรักเธอ’ ‘กล้ามากเลยนะเธอ’ และ ‘ก็ตาสว่างกันหมดแล้ว’ ในเชิงล้อเลียน เสียดสี” นอกจากนี้ ทราย ยังใส่แคปชั่นประกอบว่า “ฉันคงไม่กลับไปรักเธอ”