จากกรณีปาร์ตี้วันเกิด ดีเจมะตูม ทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิดรวมแล้ว 26 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้ตรวจตั้งแต่ต้น แต่มีการติดเชื้ออยู่เงียบ ๆ เมื่อติดตามตัวมาตรวจจึงพบว่าติดเชื้อ
ขณะที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร ได้เปิดไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิด ว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกับกรณีปาร์ตี้ ที่โรงแรมเรเนสซองส์ ซึ่งเบื้องต้น 3 ผู้ป่วย คือ เจ้าหน้าที่รัฐ , นักร้องนักแสดง และผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ไม่ได้เปิดเผยข้อมูล ก่อนจะให้ไทม์ไลน์ที่แท้จริงในเวลาต่อมา
ทั้งนี้หลายคนพุ่งเป้าไปที่งานปาร์ตี้วันเกิดดีเจมะตูม ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ต่อมากลับพบว่าในไทม์ไลน์หลายคนนั้น ไม่ได้ไปร่วมงานวันเกิดมะตูม แต่ไปปาร์ตี้โรงแรมเรเนสซองส์ โดยในโลกโซเชียล เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Ding Eu Wen ได้ตั้งข้อสังเกต และออกมากล่าวถึงปาร์ตี้ที่โรงแรมดังกล่าว ซึ่งนำภาพของผู้ร่วมปาร์ตี้ ที่มีถึง 20 คน มีอาชีพทั้ง ผู้ประกาศข่าว สจ๊วต พนักงานขายคอนโด ทำทัวร์ สไตลิสต์ พีอาร์ และหมอฝังเข็ม
พร้อมบรรยายแคปชั่นว่า “ปารตี้ กกน. อัพ ณ รร. เรเนซอง ฝ่าฝืนพรก.วันที่ 16 ทำให้เกิดคลัสเตอร์ ยิ่งกว่างานมะตูม ที่ปิดเงียบและโยน…ให้งานมะตูมคนเดียว หญิง 1 เดียวที่ติด ก็มาจากงานนี้ ใครเตือนว่าอย่าจัดก็ไม่ฟัง พวกนี้ ไปไม่รู้กี่ที่ หลังจากงานนี้ธรณีนี่นี้เป็นพยาน #ไม่ถึงนายกไม่ใช่กู รวบตึงให้หมดพวกทำประเทศฉิบหาย”
และได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาด้วยว่า “เขากักตัวอยู่ในบ้านกันครึ่งประเทศ… พวกคุณไปปาร์ตี้โคตรเห็นแก่ตัวเลย… รับไม่ได้”
คนดัง ดารา นักร้อง นักแสดง
คนมีเงิน เพื่อนดารา
ร่วมตัวปาร์ตี้ มั่วสุม กันสนุกสนาน ทั้งที่อยู่ในช่วงโรคโควิด-19 ยังระบาด
พวกเค้าอยู่ในโลกที่การสื่อสารเข้าไม่ถึงหรือคะ ถึงไม่รู้ว่ามีการระบาดรอบใหม่ และไม่ควรจัดงานปาร์ตี้ในช่วงเวลาแบบนี้..
และล่าสุดมีความคืบหน้าอีกหนึ่งคดี เกี่ยวกับปาร์ตี้เบิร์ดเดย์ครบรอบ 5 ปี ของร้านThree Sixty Bar (360 บาร์) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ม.7 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้จัดขึ้นในคืนวันที่ 26 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา และถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเกาะพะงัน ร่วมกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจสภ.เกาะพะงัน และตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน นำกำลังเข้าจับกุมได้นักเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติภายในงาน จำนวน 109 คน และจับกุมเจ้าของร้าน 1 คน กับพนักงานบาร์เทนเดอร์ อีก 1 คน นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เกาะพะงัน
โดยทางด้านพ.ต.อ.ปัญญา นิรัติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน ได้ทำสำนวนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 111 คน ในข้อกล่าวหา “กระทำการชุมนุม หรือทำการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ ซึ่งมีประกาศหรือคำสั่งให้เป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังหรือพื้นที่เฝ้าระวังตามประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมั่งคงเรื่องการห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 2) อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548”
เจ้าของร้านกับพนักงานบาร์เทนเดอร์ เพิ่มอีกข้อกล่าวหา คือ “เปิดร้านอาหารโดยจัดให้มีการบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ภายในร้าน ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 16/2564 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) (ฉบับที่ 30) อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548”
ทั้งนี้พ.ต.อ.ปัญญา นิรัติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน กล่าวอีกว่า สถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน ได้มีการเข้มงวด กวดขัน จำกุม หากพบว่ามีการฝ่าฝืน ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 16/2564 และมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (ฉบับที่ 30) ตลอดจนคำสั่งของผู้บังคับบัญชา อย่างไรก็ตามก็จะมีการออกประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ประกอบการและชาวต่างชาติให้รู้ว่ามาตรการป้องกันโควิด-19 ยังอยู่ ยังไม่มีคำสั่งปลดล็อก
ขณะที่ทางด้านนายพงศ์ดารัณ ลิมโอชากุล อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนเองตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นมา โดยที่ไม่รู้ว่ายังมีคำสั่งห้ามอยู่ เพราะตนเองไปเข้าใจผิดคิดว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่สีเขียว ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ครบ 14 วัน สามารถเริ่มทำกิจกรรมได้ ก็จัดให้มีตลาดขายของ มีกิจกรรม ให้คนมาจับจ่ายใช้สอยก็เพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่มาเตือนก่อนก็พร้อมที่จะยกเลิกจัดงานในทันที ไม่คิดที่จะฝ่าฝืนแต่อย่างใด
ต่อมาพนักงานตำรวจ สภ.เกาะพะงัน ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด แยกเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 89 คน นักท่องเที่ยวคนไทย 20 คน เจ้าของร้าน 1 คน และพนักงานบาร์เทนเดอร์ 1 คน มานั่งภายในอาคารเอนกประสงค์ของที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย เพื่อรอศาลจังหวัดเกาะสมุยพิจารณาคดีทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แทนการเดินทางมาที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจอุณหภูมิวัดไข้และให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์
ล่าสุดศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อ่านคำพิพากษาตัดสินให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 89 ราย และนักท่องเที่ยวคนไทย 20 ราย มีโทษปรับ 4,000 บาท จำคุก 1 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี จำเลย และเจ้าของร้านกับพนักงานบาร์เทนเดอร์ มีโทษปรับ 10,000 บาท จำคุก 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี