ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่ดึงสถาบันฯ เข้ามาพูด

6487

สุดรับไม่ได้!! ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่ดึงสถาบันฯ เข้ามาพูด ฝ่ายค้านมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่!?

จากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งมีทั้งตัวนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ และรัฐมนตรีอีก 9 คน โดยซักฟอกลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม คาดหวังรวมทั้งเนื้อหาที่จะพูดกันในวันประชุมนั้น

โดยญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นระบุพฤติการณ์รัฐมนตรี เช่น พล.อ.ประยุทธ์ บริหารล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ภาวะผู้นำ มีพฤติการณ์ฉ้อฉลทุจริต ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเพื่อสร้างความร่ำรวยให้ตนเองพวกพ้อง ใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่รอบคอบ สร้างความแตกแยก ใช้กฎหมายแสวงหาผลประโยชน์ ทำลายผู้เห็นต่าง ไม่ยึดมั่นศรัทธาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช้สถาบันเป็นข้ออ้างแบ่งแยกประชาชนและแอบอ้างใช้เป็นเกราะปิดบังความล้มเหลวของตนเอง

ซึ่งในประเด็นนี้เองที่เกิดเป็นประเด็นให้มีความน่าสนใจว่า พรรคฝ่ายค้าน กำลังจะนำสถาบันพระมหากษัตริย์ เข้ามาอภิปราย ซึ่งหลายๆฝ่ายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

โดยล่าสุดวันที่ 27 ม.ค.64 เมื่อประมาณ 09.00 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เตรียมเสนอแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอ เนื่องจากว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในขณะนี้กำลังตรวจสอบในเรื่องของรายละเอียดอยู่ อาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน

ทั้งนี้ทางด้านฝ่ายรัฐบาลเริ่มเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในครั้งนี้ค่อนข้างที่จะละเอียดอ่อน และอาจจะมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ล่าสุดทางด้านของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ โดยได้เปิดเผยว่า

สมควรหรือไม่ที่ฝ่ายค้าน นำเรื่องสถาบัน มาเกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี โดยมองว่านี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีสภา พร้อมกับตั้งคำถามถึง ส.ส.ที่ลงชื่อเสนอญัตติครั้งนี้ ยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ พร้อมกับฝากถามไปถึงประชาชนรับได้หรือไม่กับการยื่นญัตติดังกล่าว

ซึ่งทางด้านของ นายสิระ ได้มองว่าฝ่ายค้านมีเจตนาแอบแฝง และอยากให้เข้าใจด้วยว่า ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ไม่ใช่ญัตติไม่ไว้วางใจสถาบัน พร้อมกับยังได้เปิดเผยหากไม่มีการแก้ไขญัตติ จะมีการประท้วงอย่าแน่นอน