Truthforyou

“สนธิญา” เดินหน้าบี้ ปอท. ลงดาบ “ธนาธร” ปมเหิมโพสต์พาดพิงสยามไบโอไซเอนซ์ โยงหมิ่นในหลวง!!

จากการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เริ่มเปิดหน้าเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลและสถาบันตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเหล่าแกนนำและสาวกคณะราษฎรก็ได้เคลื่อนไหวในทิศทางและประเด็นเดียวกัน

ดังเช่นการที่นายธนาธรได้ออกมาโจมตีการจัดซื้อวัคซีนโควิดของรัฐบาล โดยพยายามโยงไปให้ข้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยอ้างว่าการที่บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์เป็นบริษัทชองในหลวงรัชกาลที่ 10 อันก่อตั้งจากพระราชปณิธานและสายพระเนตรอันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาาลที่ 9 ได้รับเลือกจากบริษัทแอสตราเซเนก้า เป็นการที่รัฐบาลจงใจเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของสถาบัน

ต่อมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายบรรสาน บุนนาค รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวทางแก้ปัญหาข่าวปลอมที่สร้างความบิดเบือน หรือ fake news
จึงมีการประชุมร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ กระทรวงการต่างประเทศ เข้าหารือเมื่อวานนี้ เพื่อวางแนวปฎิบัติแก้ปัญหา fake news ให้กระชับและรวดเร็วกว่าเดิม เพราะในปัจจุบันแม้รัฐจะมีอำนาจในการลบข้อความบิดเบือนต่างๆ ในโลกออนไลน์ได้ แต่ต้องผ่านกระบวนการศาล ที่มีขั้นตอนมาก และ อาจไม่ทันต่อสถานการณ์

เบื้องต้นที่ประชุมจึงเน้นย้ำให้ใช้กฎหมายปัจจุบัน โดยเฉพาะข้อกำหนดเข้าไปดำเนินการก่อน หากไม่ทันการติดขัดในส่วนใด เช่น กฎ ระเบียบปฎิบัติ งบประมาณ หรือ บุคลากร ให้แจ้งและจัดทำรายละเอียดยกร่างเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรีตามลำดับต่อไป

และเมื่อวันที่ 20 ม.ค.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อม นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นแจ้งความเอาผิดมาตรา 112 และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กรณีไลฟ์สดพาดพิงสถานบันโจมตีวัคซีนพระราชทาน เพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นการกล่าวหาและมีข้อมูลอันเป็นเท็จนั้น และ

ดีอีเอสแจ้งความเอาผิด “ธนาธร” ไลฟ์สด บิดเบือนวัคซีนโควิด-19 พาดพิงสถาบันฯ ผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่นายกฯสั่งการเฉพาะกิจ เพื่อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาและติดตามกรณีที่มีบุคคล กระบวนการ สร้างและเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง การใส่ร้ายป้ายสี จาบจ้วงหมิ่นสถาบัน รวมถึงการบิดเบือนข้อมูล เพื่อดูว่ารัฐบาลจะมีการแนวทางดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร ทั้งการเคลื่อนไหวในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งพบว่าช่วงที่ผ่านมา มีการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวหลายกรณี โดยนายกฯสั่งการให้ดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด และส่งข้อมูลให้นายกฯอย่างต่อเนื่อง และเร่งติดตามคดีที่มีความล่าช้า

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 26 มกราคม 2564 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ก่อนออกมาจาก จ.สมุทรสาคร ตนได้ทำหนังสือของอนุญาตทางการมาเรียบร้อย วันนี้เดินทางมา บก.ปอท.เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปอท.ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตำรวจ บก.ปอท.ดำเนินคดีต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(2) และ (3)

โดยนำหลักฐานเป็นภาพการโพสต์เฟซบุ๊ก บัญชีชื่อ “Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ของนายธนาธร เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2564 ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับ บ.สยามไบโอไซเอนซ์ มีข้อความเกี่ยวพันพาดพิงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน อันเป็นการกระทำที่สร้างความเสื่อมเสียแก่สถาบันหลักของประเทศชาติ เกิดความเข้าใจผิด กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ด้วยการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

Exit mobile version