ปู จิตกร ซัดเจ็บ “ส.ส.พรรคส้ม” ไม่มีความเคารพพระประมุข แต่อยากได้เครื่องราชฯ!!

2310

ปู จิตกร ซัดเจ็บ “ส.ส.พรรคส้ม” ไม่มีความเคารพพระประมุข สนับสนุนม็อบล้มเจ้า จาบจ้วงสถาบัน แต่อยากได้เครื่องราชฯ!!

จากกรณี ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2563 จำนวน 31,268 คนเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่ผ่านมานั้น

จากการจำแนกรายชื่อ พบว่า อย่างน้อย 25 ราย เป็น ส.ส. พรรคก้าวไกล ประกอบด้วยในฐานะ ส.ส. 22 คน ซึ่งก้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงที่มาของการได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องจากพรรคก้าวไกล มีแนวทางชัดเจนว่าสนับสนุนกลุ่มม็อบราษฎร ซึ่งมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อสถาบัน เหตุใดถึงยื่นเรื่องขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์

นอกจากนี้ ทางด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าก็ยังออกมาแสดงวามคิดเห็นถึงกรณีเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ว่า เมื่อครั้งผมได้เข้าเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มธ. ในเดือนพฤศจิกายน 2544 ช่วงเวลานั้น ม.ธรรมศาสตร์กำลังถกเถียงเรื่องการให้มหาวิทยาลัยออกจากระบบราชการ มาเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับแทน มีการอภิปรายข้อดี-ข้อเสีย มีการหยิบยกเหตุผลของทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยขึ้นมา เหตุผลแต่ละเรื่อง ดูน่ารับฟังทั้งนั้น แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมฉงนสนเท่ห์ และไม่คาดคิดเลยว่าจะกลายมาเป็นข้อโต้แย้งได้ นั่นคือ การได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์

และยังเล่าว่า เมื่อครั้งที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ความยากลำบากในชีวิตก็เริ่มต้นขึ้น พิธีรีตอง รัฐพิธีต่าง ๆ ที่บังคับใช้กับส.ส. เยอะแยะมากมาย เริ่มตั้งแต่วันแรก ส.ส. ต้องไปรายงานตัวกับ กกต. เพื่อเอาเอกสารมายืนยันกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า เราได้เป็น ส.ส. แล้ว ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เลย เราได้เป็น ส.ส. เพราะประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ เป็นผู้เลือกเรามา ไม่ใช่กกต. อนุญาตให้เราเป็น

และยังกล่าวถึงรัฐพิธี ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีรัฐพิธี พระมหากษัตริย์เสด็จเปิดประชุมรัฐสภา สำนักงานเลขาฯ แจ้งหมายกำหนดการให้ ส.ส. เตรียมพร้อม ส.ส. อาวุโสบอกว่า เตรียมชุดขาว กางเกงดำไว้ มีเครื่องราชฯ เข็มอะไรต้องติดให้หมด ต่อมา ทางสำนักงานเลขาฯ แจ้งว่า รัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในปีนี้เปลี่ยนไปจากเดิม ให้ใส่ชุดขาวทั้งชุด (น่าวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไปว่า ที่ผ่านมา รัฐพิธีเปิดประชุมทุกสมัย ให้สมาชิกใส่ขาวท่อนบน ดำท่อนล่าง แต่ทำไม ปีนี้จึงให้ใส่ขาวทั้งชุด ซึ่งปกติให้ข้าราชการใส่) พร้อมทั้งกับนำคำของฝรั่งมาบอกว่า เครื่องราชฯ เป็นเครื่องมือแห่งการครอบงำ ไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งแยกคนออกเป็นพวกเป็นประเภทเท่านั้น แต่ยังช่วยล้อมกรอบให้คนอยู่ในโอวาทด้วย รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ในการบอกว่าใครควรได้เกียรติยศผ่านการทูลเกล้าฯ รายชื่อขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เกียรติยศของบุคคลผู้ใช้อำนาจสาธารณะพึงเกิดจากความคิดเห็นของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ และเพื่อให้ผมยังคงความเป็นอิสระในการนำเสนอเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ผมจึงต้องปฏิเสธไม่ลงนามในเอกสารตามที่เจ้าหน้าที่สภาร้องขอ

ล่าสุดทางด้าน ปู จิตกร บุษบา คอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า

เรื่อง ส.ส. รับเครื่องราชฯนี้
1) เจ้าตัวต้องเป็นผู้เซ็นรับรองเอกสาร จะอ้างว่าระบบทำให้เสร็จสรรพไม่ได้ ไม่จริง
2) เป็นสิทธิและเป็นเกียรติที่พึงได้รับ ในส่วนนี้ไม่ว่ากัน ไม่อิจฉา ไม่มีความรู้สึกใดๆ
3) เพียงแต่ว่า พฤติกรรมแบบ “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง” ต่างหาก ที่สังคมรู้สึกแปลกๆ และรังเกียจ ส.ส.หลายคนสนับสนุนการเคลื่อนไหวที่ปราศจากซึ่งความเคารพและให้เกียรติองค์พระประมุขของแผ่นดินอย่างออกนอกหน้า ไม่เคยตำหนิ ไม่เคยห้ามปราม ไม่เคยชักชวนให้กลับมาอยู่บนความพอดี ด้วยการมีท่าทีเคารพ ใช้คำพูดสุภาพ ไม่ว่าคุณอยากเห็นการปฏิรูปหรือความโปร่งใสใดๆ ก็ตาม ต้องกระทำด้วยความเคารพและบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่ด้วยอคติและความชิงชัง หยามหยาบ และเถื่อนถ่อย คุณดันกันสุดลิ่มทิ่มประตู และใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวนั้นด้วย เหมือนหลอกใช้เขา แต่อีกด้าน ก็ขอเครื่องราชฯเฉย อันนี้แหละครับ ที่คนเขาอยากรู้ ว่าบิดาชื่อย้อน มารดาชื่อแย้ง บ้านอยู่บางซื่อ แต่ใจคด ใช่หรือไม่ 555