ปิยบุตร ตั้งสงสัยว่า “พระมหากษัตริย์” ทำไมไม่ปฏิญาณตนก่อนรับตำแหน่ง ด้าน อดีตบิ๊กข่าวกรอง ซัดเดือด สมองจำแต่ขี้ปากของฝรั่ง หาเรื่องแซะสถาบันไปวันๆ
จากกรณีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 โจ ไบเดน ได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากที่คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำประเทศมาเกือบจะ 3 เดือน และเผชิญกับเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย โดยโจ ไบเดน ได้กล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอให้คำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะบริหารงานในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐด้วยความซื่อสัตย์ และจะพิทักษ์ รักษา และปกป้องรัฐธรรมนูญของสหรัฐอย่างสุดความสามารถ’ เมื่อนายไบเดนกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณที่ว่านี้แล้ว พิธีสาบานตนก็จะสิ้นสุดลง และเขาก็จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา
ล่าสุด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้มีการโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว และยังมีการพูดถึงการปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของโจ ไบเดน โดยโหนไปโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยตั้งขอสงสัยว่า ทำไมพระมหากษัตริย์ไม่ปฏิญาณตนก่อนรับตำแหน่ง โดยระบุข้อความว่า
การปฎิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีและตำแหน่งกษัตริย์
เหตุใดประมุขของรัฐในแทบทุกประเทศต้องมีการปฎิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง? ข้อความและเนื้อหาของถ้อยคำปฎิญาณตนมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? และต้องปฏิญาณเพื่อแสดงสัญลักษณ์ใด? หลายประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ต้องปฎิญาณตนต่อหน้ารัฐสภาหรือในที่สาธารณะ ประเทศที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุขก็ต้องปฎิญาณตน แต่ในประเทศไทยผู้เข้ารับตำแหน่งต่างๆ ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญหรือตำแหน่งที่ต้องใช้อำนาจรัฐก็ล้วนต้องทำการปฏิญาณตน แต่มีตำแหน่งเดียวที่ไม่ได้กำหนดไว้!
ในขณะที่ทางด้าน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่นายปิยบุตร ได้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการปฏิญาณตนของพระมหากษัตริย์ โดยระบุข้อความว่า
คนบางคนเกิดบนแผ่นดินไทย ได้มีโอกาสเรียนเมืองนอก มีปริญญาติดข้างฝา แต่สมองจำแต่ขี้ปากของฝรั่งต่างชาติมาพ่น นึกว่าเท่ห์เสียเต็มประดา พูดอะไรแต่ละที มันถึงได้เสร่อ
ตั้งคำถามมาได้ ทำไมพระมหากษัตริย์ไม่ต้องกล่าวปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่ง จะบอกให้ไม่มีพระมหากษัตริย์ของประเทศใดในโลกต้องกล่าวปฏิญาณ แผ่นดินนี้ ก่อตั้ง ปกปักษ์รักษาและพัฒนามาจากราชวงศ์จักรี หากไม่ใช่พระมหากษัตริย์ที่เสียสละ ป่านนี้ อาจไม่มีชื่อประเทศไทย
แผ่นดินไทยอาจจะถูกนักล่าอาณานิคมฉีกเฉือนแบ่งแยกดินแดนไทยไปจนนึกภาพไม่ออกว่า ดินแดนที่ชื่อว่า ประเทศไทยจะเหลืออยู่เท่าใด พระมหากษัตริย์ทรงดำรงและตั้งอยู่ก่อนที่จะมีรัฐสภา พระมหากษัตริย์มาจากการสืบสันตติวงศ์ ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่ประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง มีแต่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อองค์พระประมุข ว่าจะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต พระมหากษัตริย์ไม่ได้มีที่มาเหมือนนักการเมือง พระองค์อยู่ในตำแหน่งอันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชน
พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง แม้แต่พระราชอำนาจในการยับยั้งร่างกฎหมายก็ยังไม่ใช่พระราชอำนาจเด็ดขาด หากสภาผู้แทนฯยืนยันก็สามารถประกาศใช้ได้เลย อย่าพยายามพูดด้อยค่า หรือบ่อนแซะสถาบันฯให้มากนัก จะอยู่นิ่งๆเงียบๆ หุบปากบ้างจะได้มั้ย
โดยนายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า
คุณปิยบุตรมือตกมากจริงๆ!!!
ไม่สมควรที่จะมาตั้งข้อสงสัยว่าพระมหากษัตริย์ทำไมไม่ปฏิญาณตนรับตำแหน่ง****
แสดงว่าคุณปิยบุตร ไม่สนใจความจริง และราชประเพณี ของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข!
การดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์จะมีผลสมบูรณ์โดยการพิธีบรมราชาภิเษก!!!
ในพระราชพิธีนั้นพระมหากษัตริย์ จะทรงปฏิญาณพระองค์ ต่อพระรัตนตรัย ต่อเทพยดาและอาณาประชาราษฎรทั้งหลาย***
ดังปรากฏในพระปฐมบรมราชโองการนั้น ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จีรังยั่งยืน ยิ่งกว่าการปฏิญาณตัวต่อหน้าสมุดรัฐธรรมนูญซึ่งฉีกแล้วฉีก ดังที่คุณปิยบุตรเข้าใจว่ามีอยู่เพียงเท่านั้น
นี่แหละที่พระพุทธองค์ทรงสอนว่า คนเรานั้นถ้ามีอคติครอบงำแล้วสติปัญญาก็จะมืดมนไป