อดีตอสส.ฟันธง!งานนี้รอดยากม.112 ยกคำพิพากษาฎีกาชัดเจน ซัดเสี้ยมไลฟ์สด

2738

จากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน : ใครได้ใครเสีย?” เกิดเป็นประเด็นทางการเมืองที่ร้อนแรงขึ้นมาทันที กับความรู้สึกของคนไทยกับเจตนาหวังโจมตีสถาบัน จนในที่สุดทางรัฐบาลก็ดำเนินคดีในฐานความผิดตามมาตรา112

ต่อมานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าได้ชี้แจงหลังออกมาไลฟ์พูดถึงผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยมีดีลวัคซีนที่ทำกับบริษัท AstraZeneca มีบริษัทเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นองค์กรที่แสวงหากำไร หากปิดชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้ออกไป บริษัทนี้ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลจำนวนมหาศาล มาจากภาษีประชาชน ประชาชนสมควรที่จะเข้าไปตรวจสอบว่าดีลที่เกิดขึ้นมีความเป็นปกติหรือไม่ เพราะเงินที่นำไปสนับสนุนบริษัทนี้มาจากภาษีประชาชน แล้วปรากฏชัดจากเอกสารที่เราดูว่าเป็นการทำดีลเดียวกันที่เกี่ยวโยงกันระหว่าง 3 ฝ่าย คือรัฐบาล บริษัทสยามไบโอ-ไซเอนซ์ และบริษัท AstraZeneca หรือไม่

ทั้งนี้ช่วงหนึ่งนายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีเรือยอร์ชผ่านการแถลงข่าวตอบโต้เรื่องวัคซีนพระราชทาน โดยมีการขอความเห็นใจว่าตนนั้นเป็นผู้ถูกกระทำ โดยมีเนื้อหาบางตอนระบุว่า

“การต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของผมผ่านเรือยอร์ช ที่ผมไม่ออกมาตอบโต้เพราะรู้สึกว่ามันเล็กมาก และหากออกมาตอบโต้ก็จะเข้าทาง กลายเป็นประเด็น ที่สำคัญตนเป็นผู้ถูกกระทำในเคสนี้ เรื่องนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเรือไฟไหม้ และเรือไฟไหม้ เอกสารต่างๆปรากฎชัดว่าเรือไม่ได้ไฟไหม้ด้วยตัวมันเองแต่เป็นการวางเพลิง ผมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวของกับผม ต้องการตรวจสอบผม ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือทางการเมืองของผม จึงไม่อยากแจ้งความดำเนินคดี เพราะเดี๋ยวกลายเป็นเรื่องใหญ่เข้าทางฝั่งนู้นอีก”

อย่างไรก็ตามเนื่องจากนายธนาธรไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบวางเพลิง จึงทำให้ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าคนร้ายเป็นใครและมีอะไรเป็นเหตุจูงใจกันแน่

ซึ่งนายธนาธรคิดเอาเองและระบุว่าเป็น “ฝั่งนู้น” ซึ่งก็ไม่อาจทราบได้ว่า คำว่า “ฝั่งนู้น” ของนายธนาธรคือฝั่งไหน เพราะมีคนเกลียดชังนายธนาธรมากมายทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่มีคนแสดงความเกลียดชังที่มีต่อนายธนาธร โดยก่อนหน้านี้ได้มีปรากฎการณ์ขับไล่นายธนาธรทั่วประเทศ ขณะที่นายธนาธรลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายกอบจ. ในนามคณะก้าวหน้าจังหวัดต่างๆหาเสียง ซึ่งคงฝันหวานเอาเองว่าจะกวาดคะแนนความนิยมจากท้องถิ่นได้อย่างล้นหลาม เลยลงทุนเดินทางเองเสียหลายจังหวัด แต่ปรากฎว่าฝันสลายเพราะนอกจากจะแพ้ราบคาบเสียทั้ง 42 จังหวัดแล้ว เหล่าก๊วนก้าวหน้ายังโดนขับไล่เสียทุกหย่อมหญ้า เดินไปทางไหนก็มีแต่เสียงประชาชนร้องโห่ไล่ ชูป้ายต่อต้าน บางคนถึงขั้นเปิดเพลงหนักแผ่นดินใส่ จนความมั่นใจที่พกมาของนายธนาธรและพวกหายหด เดินหน้าเจื่อนตลอดการหาเสียง

แม้จะโดนประชาชนทั้งประเทศแสดงจุดต่อต้านขนาดไหน แต่นายธนาธรก็หาสนใจไม่ เดินหน้าชักจูงสาวกให้จงเกลียดจงชังสถาบันหลักของชาติ โดยผ่านพ้นปีใหม่มาได้ไม่เท่าไร นายธนาธรก็เปิดหน้าตั้งคำถามต่อรัฐบาลถึงวัคซีนโควิด แต่กลับตั้งชื่อหัวข้อว่า “วัคซีนพระราชทาน : ใครได้ใครเสีย” เนื้อหาใจความพาดพิงถึงสถาบันโดยตรง ซ้ำบังอาจเหิมเกริมระบุพระนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10

นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด ได้ปรากฏป้ายต่อต้านนายธนาธรตาม สถานที่ต่างๆหลายแห่ง โดยเนื้อหาใจความแสดงถึงความโกรธในความหนักแผ่นดินของนายธนาธร

ครั้งนี้ เห็นทีนายธนาธรจะมาเรียกคะแนนสงสารว่าจตนเป็นผู้ถูกกระทำอีกไม่ได้แล้ว ควรพินิจพิจารณาตนเสียทีว่า ที่คนเขาขับไล่รังเกียจเดียดฉันตน ไม่ใช่เพราะตนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ หรือเพราะอยู่ฝ่านตรงข้ามทางการเมือง แต่เป็นเพราะพฤติกรรมการมุ่งปองร้ายจองล้างจองผลาญสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเหิมเกริม เหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งประเทศต่างหาก

ล่าสุดวันนี้ 26 มกราคม 2564 นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด(อสส.) ได้ออกมาโพสต์ภาพแบนเนอร์พร้อมข้อความ รวมทั้งลิงค์เนื้อหาเกี่ยวกับคำพิพากษาฎีกา และที่สำคัญที่ที่สุดคือการฟันธงถึงพวกหนักแผ่นดินที่ไลฟ์สด ว่างานนี้กับคดีความผิดมาตรา112 รอดยากแน่นอน

และแล้ว 2 เพลงนี้ก็กลับเข้ามาในภวังค์ของผมอีกรอบ  ไม่ยอมหยุดกันเลยนะ..ไอ้พวก #หนักแผ่นดิน #รกแผ่นดิน  เข้าใจเสี้ยมสอนให้ Live สด..ตั้งเป็นคำถาม..ถามนู่นถามนี่เพื่อเลี่ยงกฎหมาย ถามเก่งจัง แต่สุดท้ายก็เผยความในใจว่ามึงคือ #ไอ้พวกล้มเจ้า

ป.ล. งานนี้รอด ม. 112 ยาก…ขอบอก!!!! # ดูคำพิพากษาฎีกาที่ 2354/2531  https://youtu.be/r2Xl8V3PNdU https://youtu.be/L1rO2vVQQaI