ยังคงออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มนักเรียน ที่เรียกตนเองว่า “นักเรียนเลว” ที่มีการก่อตั้งเพจสาธารณะ และทำการรวมกลุ่มกันเพื่อออกมาเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาตามข้อเรียกร้องนั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่ไม่อยากสวมชุดนักเรียนไปโรงเรียน หรือแม้กระทั่งทรงผมต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับภายในโรงเรียนด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด มีการแชร์ข้อความจาก ไบรอัน ไบรอัน เบอร์เลติก ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า เป้าหมายระยะสั้นในประเทศไทยของสหรัฐฯ ย่อมหนีไม่พ้นการโค่นล้มของรัฐบาล ทำลายรากฐานของกองทัพไทย สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และเอาคนจากฝ่ายค้านมานั่งเป็นนายกหุ่นเชิด เพื่อผลักดันเป้าหมายในการควบคุมและล้อมกรอบจีน แล้วเป้าหมายระยะยาวของพวกเขาคือการครอบงำทางวัฒนธรรม แล้วหนึ่งในวิธีที่พวกเขาใช้ตอนนี้คือ การพุ่งเป้าไปยังระบบการศึกษาไทย พวกเขาใช้หลากหลายวิธีในการผลักดันจุดประสงค์นี้
แต่หนึ่งในวิธีที่พวกเขาใช้ ที่ผมจะมาพูดวันนี้คือ เรื่องกลุ่ม “นักเรียนเลว” เท่าที่รู้สหรัฐไม่ได้สนับสนุนนักเรียนเลวโดยตรง แต่กลุ่มฝ่ายค้านที่สนับสนุนโดยสหรัฐทำตรงนี้อย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไปร่วมแทบทุกครั้งที่นักเรียนเลวรวมตัวกัน และแน่นอนว่าการจัดการวางแผนงานทั้งหลายของพวก เขาย่อมต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายค้านสามารถสนับสนุนได้ง่าย ๆ
พวกเขาเรียกตัวเองว่านักเรียนเลว ด้วยความพยายามจะประชด พวกเขาต้องการจะสื่อว่าผู้คนมองพวกเขาเป็นนักเรียนเลว แค่เพราะพวกเขาต้องการการเปลี่ยนแปลงการปฏิรูป แต่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่พวกเขาออกมาประท้วง พวกเขาก็จะเอาแต่ทำเรื่องไม่ดี พวกเขาทำลายข้าวของสาธารณะ พวกเขาตะโกนด่าหยาบคายต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ที่พยายามจะออกมาพูดคุยรับฟัง และทำความเข้าใจต่อความต้องการของพวกเขา พวกเขาจึงเป็นนักเรียนที่เลวสมชื่อจริง ๆ
อีกเรื่องที่น่าขำคือพวกเขามักบอกว่าตัวเองเป็นเหยื่อของระบบต่าง ๆ มาโดยตลอด แต่ทุกครั้งที่พวกเขาออกมาประท้วง และทำผิดกฎหมายตำรวจก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อขัดขวางพวกเขาเลย ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือ ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการพวกเขาโผล่มารวมกัน ตำรวจก็เข้าไปแจ้งว่าห้ามชุมนุมเพราะโควิด-19 พวกเขาเจรจากับตำรวจ แล้วตำรวจก็ยอมให้พวกเขาทำตามความตั้งใจต่อ แล้วพวกเขาก็ละเลงสีไปที่กำแพงด้านนอกอาคารของกระทรวงศึกษา พวกเขาเอาขยะที่เตรียมมาไว้ไปวางด้านหน้าป้ายชื่อรัฐมนตรีกระทรวงศึกษา แล้วมายืนถ่ายรูป
แค่มองก็รู้สึกได้แล้วว่ามันเป็นการจัดฉากแค่ไหน ทำแบบขอไปที และไร้สาระแค่ไหน อย่าลืมว่าพวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นเหยื่อ แม้ทางตำรวจจะปล่อยให้พวกเขาทำลายทรัพย์สินของรัฐหน้าตาเฉย โดยไม่โดนโทษอะไรเลยสักนิด ขณะที่สื่อ พวกที่เรียกตัวเองว่านักข่าวกี่คนที่ไปที่นั่นเพื่อช่วยโฆษณาสถานการณ์นี้ พวกเขากำลังยกหางกลุ่มนักเรียน นักเคลื่อนไหวที่ออกมาทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ตะโกนด่าคนอื่น และเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการที่บ่อนทำลายประเทศไทย
ผมอยากมาพูดเรื่องของกลุ่มนักเรียนเลวนี้ให้ทุกคนฟังกันว่า พวกเขาทำตัวสมชื่อนี่ไม่ใช่กิจกรรมที่นักเรียนรวมตัวกันมาเอง แต่พวกเขาคือกลุ่มเด็กที่ได้รับการสนับสนุนจากเศรษฐีพันล้านฝ่ายค้านในประเทศไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ อย่างที่พวกเขาทำมาแล้วในหลาย ๆ ประเทศ พวกเขาโจมตีทุกอย่างที่ทำให้ประเทศนั้นเข้มแข็ง พวกเขาโจมตีสิ่งเหล่านั้นเพื่อกำจัดมันให้พ้นทาง จะได้แบ่งแยกและทำลายประเทศต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ประเทศที่แตกแยกคือประเทศที่อ่อนแอประเทศที่ทำอะไรไม่ได้จะกลายเป็นประเทศที่สหรัฐสามารถเข้ามาฉกฉวยโอกาสไปได้ตามใจชอบ
สิ่งที่สหรัฐต้องการทำในไทยคือการให้ไทยตัดสัมพันธ์ทั้งหมดกับจีนลงเสีย แล้วใช้ไทยเป็นเหมือนท่อนไม้ที่จะใช้กระทุ้งจีนต่อไป ทำแบบนั้นมันมีประโยชน์ต่อคนไทยตรงไหน เพราะงั้นเรานักเรียนในกลุ่มแบบนี้ทั้งผู้ประท้วง และแม้แต่พรรคฝ่ายค้านลองมองไปทั่วโลกในแต่ละประเทศที่สหรัฐเคยแทรกแซงแบบนี้แล้วลองถามตัวเองดูว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้นั้นมันจะลงเอย แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร
อะไรทำให้คุณคิดว่าการเคลื่อนไหวของคุณในตอนนี้จะประสบผลสำเร็จ ในเมื่อที่อื่น ๆ ทั่วโลกที่สหรัฐแทรกแซงนั้นล้มเหลว และแปรเปลี่ยนเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ หรือไม่ก็จุดจบของประเทศทั้งประเทศ
ไม่เพียงแค่ประเด็นร้อนเรื่อง ม็อบนักเรียนเลวเท่านั้น เพราะไบรอัน ไบรอัน เบอร์เลติก ยังได้แสดงความเห็นอีกหนึ่งประเด็นกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะก้าวหน้า ออกมาวิจารณ์เรื่องวัคซีน ในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทา” ว่า มหาเศรษฐีผู้นำฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ และเหล่าผู้สนับสนุนของเขาได้โจมตีรัฐบาลไทยในการรับมือกับโควิด-19 แม้ว่ากระแสตอบรับของประเทศไทยจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกก็ตาม
ตอนนี้พวกเขากำลังดำเนินการตามแผนของรัฐบาลไทยในการจัดหาวัคซีน พวกเขากำลังทำข้อตกลงกับแอสตราเซเนกา แล้วจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่จะผลิตวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งพรรณิกาซึ่งเป็นหนึ่งในมือขวาของธนาธร เธออ้างว่าประเทศไทยจ่ายเงินมากเกินไป จ่าย 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัคซีน 1 ครั้ง ในขณะที่คนอื่นจ่าย 1.5 ถึง 4 ดอลลาร์ ตัวพรรณิการ์ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่ตัวเธอกำลังพูดเลย เพราะถ้าเธอคิดเธอจะเข้าใจว่า 1.4 – 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นช่วงราคาที่ใหญ่ ทำไมถึงมีช่วงราคาใหญ่ เธออาจจะไปอ่านบทความเช่นนี้จาก BBC ซึ่งบอกว่าผู้ผลิตวัคซีนราคาต่างกัน ราคาต่อโดสเป็นดอลลาร์สหรัฐ
แอสตราเซเนกา ช่วงราคาที่นี่คือ 4 ดอลลาร์ถึง 8.1 ดอลลาร์ และแหล่งที่มาคือยูนิเซฟ สัญญาของรัฐบาลสหรัฐและองค์การอนามัยโลกตามรายงานของ BBC สาเหตุที่ราคาเหลื่อมล้ำ และทำไมถึงไม่จ่ายแพงกว่าคนอื่น เพราะทำข้อตกลงที่แตกต่างกันกับประเทศต่าง ๆ หากเป็นประเทศที่ยากจนข้นแค้นจะได้รับส่วนลด หากเป็นหนึ่งในประเทศในยุโรป ที่ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา พวกเขาก็จะได้รับส่วนลด และประเทศอื่น ๆ เช่นประเทศไทยที่พัฒนาแล้ว และไม่ได้ให้ทุนวิจัยและพัฒนา ต้องจ่ายเงินมากขึ้น ง่าย ๆ แค่นั้น
แล้วคุณต้องสงสัยว่าพรรณิการณ์และธนาธรผู้นำฝ่ายค้าน เขาต้องการบริหารประเทศไทยแต่เขาไม่ใส่ใจที่จะทำการค้นคว้าสัก 5 นาที ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นที่สร้างความแตกแยก และทำลายผลประโยชน์ของชาติไทย ไม่ว่าเขาจะไม่ว่าเขาจะไม่ใส่ใจที่จะค้นคว้า หรือเขาใส่ใจที่จะทำ และเขาจงใจทำให้ผู้ฟังเข้าใจผิดมันก็ไม่ดีทั้งสองอย่าง
อย่างไรก็ตาม สำหรับ ไบรอัน นั้นคือ นักวิเคราะห์อิสระ ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ถึงบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. กรณีแสดงความคิดเห็นว่า สหรัฐควรประณามกลุ่มผู้ประท้วงไทยที่มักใช้วิธีที่ไม่เป็นประชาธิปไตยในการขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถึง 2 สมัยทั้งในสมัยนายกทักษิณและนายกยิ่งลักษณ์ว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความจริงแต่อย่างใด