Truthforyou

“สาวกปลดแอก” หน้าเสีย เจอข้อหาหนักหลายคดี หลังรีวิวปลอมป่วนศรีพันวา เหตุฉุน “ไฮโซปลาวาฬ” ด่าม็อบ

สาวกม็อบคณะราษฎรสารภาพบาป หลังโดนฟ้องเนื่องจากโพสต์รีวิวปลอมโรงแรมศรีพันวา เหตุไม่พอใจไฮโซปลาวาฬไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม

จากกรณีที่ เพจเฟชบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
“ศชอ.จัดให้อีกราย #รีวิวสนุกผลคือทุกข์ระทม
ท่าทีและน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน ไม่เห็นขึงขังน่ากลัวเหมือนตอนที่เก่งกันในโลกออนไลน์
เคสนี้เกิดขึ้นจากการเข้าไปรีวิวเป็นเท็จ ให้ร้ายแก่โรงแรมศรีพันวา เมื่อปลายเดือน กันยายน 2563 ที่ผ่านม
ศชอ.ได้รับการติดต่อจากทางโรงแรมศรีพันวา เพื่อทำการประเมิน สืบค้นข้อมูลผู้กระทำความผิด ให้การปรึกษาและประสานงาน ช่วยดำเนินการทางกฎหมาย

โดยในช่วงแรก ศชอ.ได้ติดตามข้อมูลที่เพียงพอต่อการดำเนินคดี มากถึง 300 กว่าราย แต่ด้วยความเมตตาของทางผู้บริหารศรีพันวา ที่ประสงค์จะแจ้งความร้องทุกข์ เพียงหนึ่งท่าน คือ Youtuber เจ้าของช่อง “Boomz Channel” ซึ่งได้กระทำผิดในฐานะที่เป็น Influencer มีผู้ติดตาม Follower มากกว่า 34.5K subscribers โดยมีผู้เคยรับชมผลงานของเค้ามากกว่า 7M View”

ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมายได้เกือบสิ้นสุดแล้ว ผู้กระทำผิดได้รับการยอมความและให้อภัย แต่มีข้อแม้ว่า จะต้องเปิดเผยตัวและบอกเล่าเรื่องราวที่ได้กระทำผิด เพื่อเป็นอุทาหรณ์และให้เยาวชนตระหนักรู้ว่า ทุกการกระทำบนโลกออนไลน์ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง มีคุณธรรม และ ศึกษาเรื่องราวต่างๆให้ดี ก่อนที่จะทำอะไรลงไป

“เคสนี้ ศชอ. ร่วมทำคดีตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องขอชื่นชมทางเจ้าของ #ศรีพันวา จากใจจริงว่าท่านเป็นคนดีมีคุณธรรมสูง การใช้กฎหมายดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้ามเป็นเรื่องง่าย แต่การทำให้ศัตรูที่มีมิจฉาทิฎฐิ รู้สำนึกผิด พร้อมกลับตัวกลับใจเดินทางสายที่ถูกนั้นเป็นเรื่องยาก โชคดีของพ่อหนุ่มน้อยคนนี้ที่ไปเจอที่มีเมตตาสูง ชีวิตจึงยังไม่ตกต่ำลงไปมากกว่านี้”

อย่างไรก็ตาม ในเพจ ศชอ.ยังได้โพสต์คลิปของผู้ที่เรียกตัวเองว่า “บูม” ออกมาบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นประสบการณ์ตรงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ หลังจากตนได้รีวิวข้อมูลเท็จจนทำให้โรงแรมศรีพันวาเสียหาย และถูกออกหมายเรียกเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการเจรจากับฝ่ายเจ้าหน้าที่ของโรงแรมศรีพันวา และสำนึกในความผิดที่ตัวเองได้กระทำลงไปด้วยความคึกคะนอง

โดยนายบูมได้สารภาพว่า เนื่องด้วบปลายปีที่แล้วคุณปลาวาฬ ได้โพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับการขึ้นเวทีประท้วงของฝ่ายม็อบผ่าน แพล็ตฟอร์มยูทูบโดยการไลฟ์สด ต่อมาเกิดกระแสบูลลี่คุณปลาวาฬในโซเชี่ยล จนลามมาถึงแบนศรีพันวา ที่คุณปลาวาฬได้เป็นผู้บริหารอยู่ ทั้งที่คุณปลาวาฬเพียงแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น เป็นเหตุให้ตนคึกคะนองตามกระแส ได้โพสต์รีวิวปลอมสร้างความเสียหายให้ศรีพันวาในกูเกิ้ลแมพ โดยไม่เคยเป็นแขกเข้าพักของศรีพันวาจริง

ทั้งนี้ นายบูม ยอมรับว่า รู้สึกตกใจมากเมื่อรู้ว่าถูกออกหมายเรียกในข้อหาหมิ่นประมาท และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นึกถึงคำที่แม่เตือนขึ้นมาให้คำพูดของแม่มันเป็นจริง และคิดไปต่างๆนาๆว่าจะติดคุกหรือไม่ ทางโรงแรมจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ จนกระทั่งไปรับทราบข้อกล่าวหา ได้พูดคุยกับทางพนักงานโรงแรมศรีพันวา ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ตนทำลงไปนั้นสร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้กับทั้งทางโรงแรม พนักงานและครอบครัวของเขา อีกทั้งยังเป็นการซ้ำเติมแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซ้ำเติมคนที่โดนพิษโควิดด้วย

“ทางทนายของโรงต้องการให้บูมชดใช้ค่าเสียหายหลายล้านบาท แต่ผมกับครอบครัวไม่สามารถหาเงินจำนวนนี้มาจ่ายได้ จึงขอชดใช้ด้วยเงินจำนวน 2 หมื่นบาท ทางโรงแรมมองด้วยหลักมนุษยธรรมของตนและแม่ จึงไม่ติดใจเรื่องเงิน แต่ขอให้บูมรับปากว่าจะไม่ไปใช้วิธีการแบบนี้ทำร้ายใครอีก ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เพราะครั้งต่อไปคงไม่โชคดีแบบนี้อีกแล้ว อาจจะต้องเสียเงินเสียทอง ติดคุก เสียอนาคต ผมจึงขอกราบขอโทษคุณปลาวาฬ และพนักงานศรีพันวาทุกคน บูมสำนึกผิดแล้วจริงๆ จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอีก”

ล่าสุดทางด้าน ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“การเข้าไปรีวิวสถานที่ของเอกชนแย่ๆ โดยเอาความเกลียดชังทางการเมืองมาเป็นตัวขับเคลื่อน และไม่เคยไปพักจริงๆ ไม่ต่างอะไรจากการ “แต่งเรื่องโกหก”
เช่นเดียวกับเรื่องการ์ดคณะปลดแอกถูกอุ้ม ที่วันนี้ถูกจับได้แล้วว่าแต่งเรื่องโกหกขึ้นมาทั้งหมด เพื่อให้แกนนำ นักการเมืองพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และมวลชนเอาไปปั่นกระแส
คำถามที่ต้องถามต่อคือ พวกเขาแต่งเรื่องโกหกเหล่านี้มาแล้วกี่ครั้ง กี่เรื่อง ในหลายร้อยหลายพันเรื่องที่เขาจุดกระแสขึ้นมาทุกวันๆ เพื่อปั่นหัวมวลชนให้เชื่อและเดินตามพวกเขา?

การโกหกเพื่อหลอกมวลชน เป็นการกระทำที่สวนทางกับคุณค่าประชาธิปไตย ซึ่งต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน เพื่อให้เขามีสิทธิเลือกในสิ่งที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง
หากใครที่ชอบโกหกปั้นแต่งเรื่อง ให้ทราบไว้เลยว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ “ฝ่ายประชาธิปไตย” จริงๆ ตามที่ปากอ้าง เพราะพวกเขาไม่ปฏิบัติตามหลักการและคุณค่าประชาธิปไตยเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เริ่มขบวนการแล้ว…
#สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม”

Exit mobile version