Truthforyou

ดีอีเอส แจ้งความ ธนาธร ผิด ม.112 – พรบ.คอมพิวเตอร์ ไลฟ์หมิ่นในหลวง

จากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ” พูดถึงการจัดหาและผลิตวัคซีนโควิดในประเทศไทยก่อนที่จะพาดพิงสถาบันโดยอ้างถึงการถือหุ้นบริษัทผลิตวัคซีน???

ทั้งนี้ นายธนาธร พูดในประเด็น และคำถามในลักษณะโจมตีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และที่สำคัญพาดพิงกระทบไปถึงสถาบัน ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงระบุว่า บริษัทเดียวที่ไทยฝากความหวังไว้ก็คือ AstraZeneca ซึ่งมีการจ้างบริษัทผู้ผลิตในประเทศไทยก็คือ Siam Bioscience ไม่มีการเจรจากับบริษัทอื่นเพิ่ม จนเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา จึงมีการประกาศว่าได้มีการเจรจาซื้อวัคซีนเพิ่มกับ Sinovac ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมาก คือ 2 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชากร 1.5% เท่านั้น มีการฝากอนาคตของชาติไว้กับบริษัทรายเดียว

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกรทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายธนาธร ออกมาไลฟ์วิจารณ์การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ทั้งนำไปโยงกับการเมืองและใช้คำว่า วัคซีนพระราชทาน ว่า ตนถือว่าเป็นการบิดเบือน ทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จ

“ดังนั้นขอให้ทุกคนระมัดระวังไว้ด้วยการเสนอข่าวพวกนี้ เรื่องอะไรบิดเบือนไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วนำมาแพร่ไม่ว่าในสื่อหรือโซเชียลมีเดีย ตนจะให้ดำเนินคดีทุกเรื่อง จึงขอให้ระมัดระวังไว้ด้วย อย่าหาว่าตนเอากฎหมายไปขู่ แต่ต้องรักษาความเชื่อมั่นของรัฐบาลไปด้วย ไม่เช่นนั้นต่างคนก็ต่างเขียนอะไรกันไปแล้วไม่รับผิดชอบทั้งสิ้น กฎหมายมีทุกตัวอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายธนาธร ด้วยเช่นกันว่า การจัดหาวัคซีนนายกฯย้ำอยู่เสมอว่า จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีคณะกรรมการตรวจสอบ และให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนสูงสุด รวมทั้ง คนไทยทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ไม่เคยคิดเรื่องการเมืองเอาคะแนนนิยมใด ๆ ตรงกันข้ามเรื่องชีวิตความปลอดภัยของคนไทยมีค่าสูงสุด

จึงขอนายธนาธร อย่ามาพูดกล่าวหาแบบมั่ว ๆ และรีบสรุปในเรื่องของการนำวัคซีนเข้ามา เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ทุกอย่างต้องผ่านการรับรองว่า เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพจากต่างประเทศด้วย และทุกบริษัทก็สามารถมายื่นขอใบรับรองจาก อย.ได้ตามขั้นตอนราชการ ถ้ามั่นใจในคุณภาพของวัคซีน

ส่วนที่นายธนาธร กล่าวโยงว่า วัคซีนบางบริษัทไปเกี่ยวข้องพาดพิงกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ถือเป็นการไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งที่ผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยเหลือประชาชน และในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้พระราชทานเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาชีวิตประชาชนทั้งประเทศมากมายนานาประการ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สุด นายธนาธร ไม่เคยมีจิตสำนึกแม้แต่นิดเดียว อยากถามนายธนาธรฯ ว่า หัวใจยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด มีรายงานว่า นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มอบหมายให้นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพย์ ผู้ช่วยรมว.ดิจิทัลฯ ร่วมกับ นายทศพล เพ็งส้ม และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

โดยเข้าแจ้งความเอาผิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี และการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากกรณีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล แต่กลับพาดพิงในหลวง รัชกาลที่ 10⁣

 

Exit mobile version