โควิดยังน่าห่วง ติดเชื้อในประเทศพุ่ง หมอระยองเจอเคสทารก 5 เดือน ติดเชื้อหาต้นตอไม่ได้ อัพเดทอาการ “ผู้ว่าฯสมุทรสาคร” กลับมาทรุดอีกรอบ

2668

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ “โควิด” ประจำวันที่ 15 ม.ค. 2564 ระบุว่า ผู้ป่วยใหม่วันนี้ 188 ราย

แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 154 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 34 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 11,450 ราย เป็นผู้ป่วยระลอกใหม่ 7,213 ราย หายป่วยแล้ว 4,348 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม คงสะสม 69 ราย

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น

1. มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 81 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 47 ราย กทม. 27 ราย สมุทรปราการ 2 ราย นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส ชลบุรี และระยอง จังหวัดละ 1 ราย

2. คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 73 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 52 ราย ฉะเชิงเทรา 7 ราย ระยอง 5 ราย ชลบุรีและสมุทรปราการ จังหวัดละ 3 ราย จันทบุรี 2 ราย และปทุมธานี 1 ราย

3. เดินทางมาจากต่างประเทศ 21 ราย ได้แก่ เยอรมนี 6 ราย ตุรกี 3 ราย เบลเยียม ซูดาน รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต ประเทศละ 1 ราย และพม่า 13 ราย

“ขณะนี้ยังคงการติดเชื้อใน 60 จังหวัด ขอให้อีก 17 จังหวัดที่เหลือที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนคงมาตรการต่อไป อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่เคยมีการติดเชื้อ พบว่า ไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามี 20 จังหวัด ขอให้คงความเป็นพื้นที่สีเขียวต่อไป ยังมีรายงานติดเชื้อใหม่ในรอบ 7 วันอยู่ 40”

สำหรับแนวโน้มของอ่างทอง จากการคัดกรองในชุมชน สแกนทุกพื้นที่ตอนนี้ลงมาเป็น 0 ไม่มีรายงานติดเชื้อในวันนี้ ส่วนสมุทรปราการแนวโน้มคงที่ มี 5 รายที่รายงานจากการค้นหาเชิงรุก ส่วนนครปฐมเป็น 0 มาหลายวันแล้ว มีการเฝ้าระวังใน รพ. ปทุมธานีแนวโน้มยังอยู่ที่ 1 ราย ต้องค้นหากันอยู่ สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด พบว่าเป็น 94% ของการติดเชื้อทั้งหมดในรอบนี้ ตอนนี้ตัวเลขสองหลักคือ กทม. และสมุทรสาครถือว่ายังเยอะอยู่ ถ้า 10 จังหวัดช่วยกันให้ตัวเลขลดลง

ขณะที่ทางด้าน นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผอ.โรงพยาบาลระยอง ได้กล่าวถึงกรณี ที่พบเด็กหญิงวัย 5 เดือน ติดโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า เบื้องต้นได้เรียกพ่อแม่เด็ก มาตรวจหาเชื้อไปแล้ว แต่ปรากฎว่าผลเป็นลบทั้งสองคน โดยไม่พบเชื้อโควิด-19

ตอนนี้อาการของเด็กหญิงวัย 5 เดือน เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่รุนแรง แต่ยังไม่หายจากการติดโควิด ซึ่งยังอยู่ในความดูของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากการสอบสวนโรคยังคงเป็นปริศนาว่าติดมาจากไหน ซึ่งจะมีการขยายผลสอบสวนโรค เพื่อหาแหล่งที่มาของการติดเชื้อโควิด-19 ต่อไป

สำหรับพ่อแม่เด็กก็ยังแปลกใจว่าบุตรสาวไปรับรับเชื้อมาจากไหน ซึ่งพ่อแม่ไม่พบเชื้อ รวมถึงคนใกล้ชิดด้วย จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะไม่รู้ว่าเชื้อโควิดมาติดบุตรสาวได้อย่างไร

 

และสำหรับความคืบหน้าอาการของผู้ว่าฯสมุทรสาคร ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้เปิดเผยว่า อาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ไม่คาดหมายเกิดขึ้นที่จากเดิมที่เตรียมเอาท่อช่วยหายใจออกแล้ว

แต่เมื่อวันที่ 14 ม.ค. แต่ผู้ว่าฯ มีไข้ขึ้น ตรวจหาสาเหตุพบว่าเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ แต่ไม่เกี่ยวกับ COVID-19 ตรงนี้มีโอกาสเกิดขึ้นเพราะอายุมากการติดเชื้อลักษณะนี้อยู่แล้ว จึงให้ยาปฏิชีวนะและยังต้องให้เครื่องช่วยหายใจต่อ แต่ยังคงเป็นลักษณะที่ให้คนไข้เป็นผู้กระตุ้นการหายใจ ทั้งนี้ต้องรอให้การติดเชื้อดีขึ้นก่อนจึงจะถอดเครื่องช่วยหายใจออก

“คนไข้รู้สึกตัว สามารถสื่อสารกับลูกได้แล้ว แม้โต้ตอบไม่ได้เพราะยังคงท่อช่วยหายใจ ท่านกำลังใจดี หลังได้ยินเสียงลูกผ่านโทรศัพท์”

อย่างไรก็ตาม ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เวลารักษาปอดติดเชื้อไม่ใช่ยาปฏิชีวนะอย่างเดียว เพราะจะมีเสมหะคั่งอยู่ในระบบทางเดินหายใจ และเสมหะเหล่านี้จะต้องดูดออกไม่อย่างนั้นจะไปอุดหลอดลมทำให้การติดเชื้อดูแลได้ยากขึ้น จึงยังไม่เอาท่อช่วยหายใจออกเพื่อให้สามารถนำสายดูดเข้าไปดูดเอาเสมหะออกได้ง่ายขึ้น หลังให้ยาปฏิชีวนะโดยทั่วไปประมาณ 48-72 ชั่วโมง ก็จะประเมินอีกครั้ง