จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายศิริชัย นาถึง หรือนิว อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ถูกจับที่หอพักแห่งหนึ่งย่านถนนเชียงราก ตามหมายจับที่ 14/2564
ลงวันที่ 13 ม.ค. 64 เมื่อวันที่ 10 เเละ 13 ม.ค. 64 การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 112, 358 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 27ทวิ โดยคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.คลองหลวง หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสิริชัยมายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาล ก่อนที่จะได้รับประกันตัวออกไป
ต่อมามีรายงานว่า หลังศาลธัญบุรี ปล่อยตัว นิวมธ. หรือนายศิริชัย นาถึง ผู้ต้องหาคดี 112 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ก็มาอายัดตัวไปสอบสวนเพิ่ม พร้อมระบุจะปล่อยตัวภายหลัง
ขณะที่ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ได้รวมตัวกันบริเวณหน้า สภ.คลองหลวง เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายศิริชัย แต่ปรากฏว่าได้มีการกระทำดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดยโปรยอาหารสุนัขให้บริเวณด้านหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่นั่งเรียงแถวควบคุมเหตุการณ์ไม่ให้วุ่นวาย อีกทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้พ่นสีด้วยถ้อยคำหยาบคาย บริเวณตึกอาคารสถานที่ราชการอีกด้วย
โดยในคลิปแก๊งของเพนกวิน ได้พูดด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า “ปล่อยเพื่อนกู ๆ ”
ล่าสุดทางด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” เกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยมีเนื้อหาระบุว่า
“ผมเห็นเด็ก ๆ กลุ่มผู้ชุมนุม นำโดยเพนกวิน ที่ประกาศเรียกร้อง ต้องการเห็น”คนเท่ากัน” ทำกับตำรวจสภ.คลองหลวง แล้วก็หดหู่และเศร้าใจ ผมจึงต้องออกมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ชุมนุมเหล่านี้มองตำรวจเป็นสุนัข เอาอาหารหมา(สุนัข)ไปโปรยให้ตำรวจ เรียกตำรวจในเครื่องแบบว่า”ไอ้เหี้ย” ผมเห็นตำรวจนั่งมองด้วยความอดทน ไม่โต้ตอบ เด็กเหล่านี้แหละครับที่เรียกร้องให้คนมีความ”เท่าเทียม” แต่เขากลับมองตำรวจเป็นสุนัข ผมเห็นความอดทนของตำรวจ ก็ต้องชื่นชม และให้กำลังใจ อดทนครับ เกมส์ยาวครับ แต่สุดท้ายเกมส์ก็ต้องจบครับ”
ขณะที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร ยังได้เคลื่อนไหวโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตนเองอีกว่า ได้ถูกแจ้งข้อหากระทำความผิดมาตรา 112 มากที่สุด ผมโดนหมาย 112 อีกแล้ว คราวนี้ DE เป็นคนแจ้งเองด้วย
โดยนายพริษฐ์ ได้แสดงหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ออกโดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2564 ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้แจ้งความ ว่านายพริษฐ์ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาญาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยนัดหมายพบพนักงานสอบสวนวันที่ 22 มกราคม 2564 ที่บก.ปอท. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ