ทหารพรึ่บรับสงครามกลางเมือง?!? FBIขู่ชุมนุมติดอาวุธจัดการเด็ดขาด หน่วยพิทักษ์มาตุภูมิคุ้มกันคองเกรส 20,000 นาย

1818

ประชาธิปไตยแบบไหนที่ใช้ทหารคุ้มกันรัฐสภาถึง 20,000 นาย วันสาบานตนผู้นำ กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทั้งหมดเข้าประจำการในตึกรัฐสภา เพื่อป้องกันความไม่สงบในพิธีสาบานตน ปธน.สหรัฐคนที่ 46 โจ ไบเดน วันที่ 20 ม.ค.ขณะที่เอฟบีไอเตือน การใช้กฎหมายจับกุมผู้ก่อความไม่สงบต้องใช้ความระมัดระวัง และย้ำคนมาชุมนุมติดอาวุธจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเค่งครัด

เมื่อวันอังคารที่ 11 ม.ค.2564 ปธน.ทรัมป์ ประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั้งกรุงวอชิงตัน ดีซี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11-24 มกราคม 2564 ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และองค์กรเพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งรัฐบาลกลาง หรือ FEMA ร่วมปฏิบัติการกับหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นตามความจำเป็นภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ในช่วงระยะเวลา 14 วัน เพื่อสนับสนุนหน่วยงานราชการในดีซีเกี่ยวกับงานพิธีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐครั้งที่ 59 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. 2564

ในวันพุธที่ 13 ม.ค. 2564 ปธน.ทรัมป์ ได้ออกคำแถลงการณ์ประธานาธิบดีสหรัฐ มีใจความสำคัญว่า ขอเตือนไม่ให้มีสถานการณ์ความรุนแรง ไม่ให้มีการกระทำผิด ละเมิดกฎหมาย และไม่ให้มีการบุกรุกใดๆทั้งสิ้น ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่ประธานาธิบดี และประเทศสหรัฐอเมริกาสนับสนุน ขอเรียกร้องให้ชาวอเมริกันช่วนกันผ่อนคลายความตึงเครียด และรักษาความสงบ

ทรัมป์ถูกถอดถอนจากสภาล่าง-รอส่งต่อสภาสูงฟัน

ในวันเดียวกันคือ วันพุธที่ 13 ม.ค.2564 การประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ พิจารณาถอดถอนปธน.ทรัมป์ โดยนางแนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาฯพรรคเดโมแครต และสส.พรรคเดโมแครต รวมทั้งคะแนนเสียงจากพรรครีพับลิกัน 10 เสียง โดยมีคะแนนเสียงลงมติทั้งหมด 232-197 เสียง ให้มีการดำเนินการถอดถอนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ในข้อกล่าวหามีการยุยงผ่านการแถลงต่อกลุ่มผู้สนับสนุน ให้นำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบอย่างรุนแรงต่ออาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม และถูกตั้งข้อกล่าวหาอาชญากรรมซึ่งกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งถึง 2 ครั้ง ความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกพิจารณาถอดถอนในการประชุมวุฒิสมาชิก ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากวุฒิสมาชิกไม่สามารถจัดการประชุมได้ทันเวลา

และวันเดียวกันอีกเช่นกัน (13 ม.ค.2564) กองกำลังทหารพิทักษ์มาตุภูมิกว่า 20,000 นายประจำการรอบกรงวอชิงตัน ดีซี เพื่อคุ้มกันโจ ไบเดนเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.2564

“ผมคิดว่าคุณคงเห็นภาพทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิกว่า 20,000 นาย กระจายอยู่เต็มเมืองวอชิงตัน ดีซี” นายกเทศมนตรีเมืองวอชิงตัน, ผู้บัญชาการโรเบิร์ต คอนตี กล่าว ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐอนุมัติกำลังทหาร 15,000 นาย ไปคุ้มกันพิธีสาบานตน คอนตีกล่าวว่า พิธีสาบานตนเป็นกิจการการรักษาความมั่นคงโอกาสพิเศษ” แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าปกติ เพราะใช้กำลังพลสูงมากกว่าทุกครั้ง

เจ้าหน้าที่หน่วยUSSS รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้ไม่ประสงค์ออกนามบอกกับ ทอม โบว์แมน ผู้สื่อข่าว NPR กระทรวงกลาโหมว่าจำนวนกำลังคนที่ได้มาร่วมคุ้มกันวันพิธีนั้น รับผิดชอบโดย the Secret Service ซึ่งเป็นหน่วยนำในการรักษาความปลอดภัย พิธีสาบานตนและภารกิจอื่นๆ

US Secret Service (รู้จักในนาม USSS หรือ Secret Service) คือหน่วยงานรักษากฎหมายระดับประเทศ อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security) มีหน้าที่สืบสวนการก่ออาชญากรรมและปกป้องภยันตรายแก่เหล่าผู้นำของประเทศ และในการนี้มีกองกำลังทหารพิทักษ์มาตุภูมิมากว่า 20,000 นาย

กำลังคนต่างๆมาจากมลรัฐใกล้เคียง มีทั้งสารวัตรทหารและคนที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้และบังคับใช้กฎหมายจะติดอาวุธให้เข้าร่วมทีม คนอื่นๆได้รับอนุญาตมีอาวุธได้แต่ห้ามพกโชว์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องไปประจำจุดไหนบ้าง

ปกติการรักษาความปลอดภัยในงานพิธีสาบานตน ของประธานาธิบดีเป็นกิจกรรมปกติที่ทำมาโดยตลอด แต่พิธีสาบานตนของโจ ไบเดนต้องใช้จำนวนทหารสูงมากในการดำเนินการ หลังเกิดเหตุการจลาจลบุกรัฐสภา ส่งผลให้เกิดผู้เสียชีวิต 5 ราย ถูกจับกุมกว่า 52 รายและบาดเจ็บจำนวนมาก