หลังจากที่มีกระแสดราม่า เมื่อ “พิมรี่พาย” ขึ้นไปติดแผงโซลาร์เซลล์บนดอยบ้านแม่เกิบ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ จนต่อมาได้มีการแชร์ภาพของ กอ.รมน. เกี่ยวกับเอกสารสรุปราคากลางงานก่อสร้างอาคาร โครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ของกองดำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3
โดยมีการเบิกงบค่าก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซล์แสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ขนาดกำลังติดตั้งไม่น้อยกว่า 210 กิโลวัตต์ พร้อมระบบกักเก็บเก็บพลังงานรวม 45,205,109.91 บาท
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำความดังกล่าวไปร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้ใช้อำนาจตาม พรป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ดำเนินการตรวจสอบไต่สวนและวินิจฉัยว่าโครงการติดตั้งโซล่าเชลล์ของ กอ.รมน.ทั้ง 5 พื้นที่มีความคุ้มค่า มีผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้าน ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์) ได้โพสต์บทกลอนผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
#อมก๋อยกับอมที่
อะไร กันนักหนา
เรื่องไฟฟ้า บนอมก๋อย
โซลาร์ ที่บนดอย
ช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำ
ทำดี ก็ชื่นชม
อย่าขย่ม อย่าขย่ำ
ใครชั่ว ก็รับกรรม
ต้องแยกขั้ว แยกชั่วดี
ข่าวอมก๋อย มาแรง
มันมาแซง เรื่องอมที่
ประจาน นานหลายปี
ทำไมเงียบ เมื่อเทียบกัน
ปั่นข่าว สร้างข่าวปิด
กระบวนบิด ให้เหหัน
วันหนึ่ง เขารู้ทัน
จะอายฟ้า อายหมาแมว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ทางเพจคณะก้าวหน้า ยังได้โพสต์โหนกระแสของพิมรี่พาย บอกว่า ยังมีอีกกว่า 700 โรงเรียน ขาดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น สัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่ “ไฟฟ้า” แต่การจะเข้าไปทำอะไรก็ตามในพื้นที่ ถือเป็นอุปสรรค เพราะอยู่ในเขตป่าสงวน
การเคลื่อนไหวของคณะก้าวหน้าที่อยากจะแก้ปัญหา เรื่องไฟฟ้า ที่อยากให้เข้าถึงอีกหลาย ๆ โรงเรียนนั้น แล้วอ้างว่าแก้ไขไม่ได้ เพราะมาจากปัญหาที่ดิน ที่บอกว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ “เข้าทำประโยชน์” ใด ๆ นั่นหมายรวมถึง “โรงเรียนและไฟฟ้า” บนพื้นที่เขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ในกำกับของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชด้วย เช่นนั้น สิ่งที่แม่นายธนาธรกำลังทำเรื่องรุกที่ป่า ก็ถือว่าขัดแย้งกับแนวคิดของคณะ ที่อยากจะพัฒนาประเทศชาติ