ไมค์ ระยอง ปลุกก๊วนสามนิ้ว “แบนดอยคำ” ตัดเส้นทางทำมาหากินของชาวดอย ผู้ด้อยโอกาส!?!

21984

ไมค์ ภาณุพงศ์ แกนนำม็อบคณะราษฎร ปลุกสาวกสามนิ้ว แบน “ดอยคำ” โครงการหลวง ตัดทางทำมาหากินของชาวดอยผู้ด้อยโอกาส

จากกรณีที่พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์  หรือพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์และยูทูปเบอร์ชื่อดัง ได้เดินทางไปที่ หมู่บ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กๆ ซึ่ง พิมรี่พาย ก็ได้ทุ่มเงินของตัวเองกว่า 5 แสนบาท ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และซื้ออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่ด้อยโอกาส

ต่อมาก็ได้เกิดประเด็นร้อนแรง โดยมีสาวกปลดแอก ไดโพสต์ข้อความถึงกรณีของพิมรี่พาย และขยายผลเชื่อมโยงไปโจมตีสถาบัน โดยเฉพาะโครงการหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชดำริตั้งโครงการต่างๆเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวเขา ที่อยู่ในถิ่นทุรกันการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้หาเลี้ยงตัวเองได้

พระองค์ทรงริเริ่มโครงการหลวงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเขา ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวเขา และกำจัดการปลูกฝิ่น เพื่อลดปัญหายาเสพติดในประเทศ ทำให้ชาวเขาได้มีอาชีพทำกิน เลี้ยงตัวเองได้อย่างมั่นคง โครงการหลวงเป็นโครงการที่พลิกชีวิตชาวเขา ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแท้จริงและยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ทางด้านของกลุ่มปลดแอก หรือกลุ่มที่เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน กลับมามองว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นปัญหาของประเทศ ทั้งๆที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกาย ริเริ่มโครงการหลวง เพื่อให้พสกนิกรชาวไทย ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแค่ไหน ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และยังช่วยสร้างอาชีพให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ นับว่า โครงการหลวง เป็นการช่วยเหลือประชานได้อย่างมหาศาล แต่ทางด้านม็อบปลดแอกรวมไปถึงแกนนำม็อบต่างออกมาโหนกรณีของพิมรี่พาย เพื่อโจมตีโครงการหลวง

โดยล่าสุด นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ที่ออกมาโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์มาตลอด ได้โพสต์ข้อความถึงโครงการหลวง “ดอยคำ” ผลิตภัณฑ์สินค้าที่แปรรูปผ่านโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป หนึ่งในโครงการตามพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 โดยระบุข้อความว่า

ผลิตภัณฑ์ #ดอยคำ
ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ “ดอยคำ” มาจากการพัฒนาของ “มูลนิธิโครงการหลวง” ที่ #ได้งบประมาณจากรัฐปีละหกร้อยกว่าล้านบาท สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ใช้งบประมาณที่ว่านี้ คือการแปรรูปและพัฒนาสินค้าเกษตร ก่อนจะถูกนำไปผลิตและจำหน่ายโดย “#บริษัทดอยคําผลิตภัณฑ์อาหาร จํากัด” ภายใต้แบรนด์ “ดอยคำ”
ที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่า “#บริษัทดอยคำฯ” เป็นของมูลนิธิโครงการหลวง แต่ข้อเท็จจริงคือมูลนิธิฯ ถือหุ้นเพียง 2.94% ส่วนที่เหลืออีก 97.06% นั้นถือหุ้นโดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ อันนี้ว่าตามข้อมูลปี 2560 เพราะปัจจุบันหุ้นในส่วนนี้ #ถือตรงโดยพระนามของในหลวง ร.10 ของเรา
งบประมาณจากเงินภาษี -> อุดหนุนมูลนิธิโครงการหลวง -> ม.โครงการหลวงใช้งบประมาณรัฐพัฒนาผลิตภัณฑ์ (ปั้นโปรดักส์) ก่อนจะให้ บจก.ดอยคำ ซึ่งมีฐานะเป็น “บริษัทเอกชน” (และถือหุ้นใหญ่โดยในหลวง ร.10) ผลิตและจำหน่าย

สำหรับ ดอยคำ ก่อตั้งขึ้นจากแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือของไทย ทรงก่อตั้งโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปขึ้นในพื้นที่การเกษตร เมื่อปี พ.ศ.2515 ดำเนินการส่งเสริม รับซื้อ พัฒนา และแปรรูปผลผลิต เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพที่มีคุณภาพ ในราคาเป็นธรรม โดยเริ่มต้นเพียง 10 รายการ ใน 2 กลุ่มสินค้า ต่อมาในปี พ.ศ.2537 ได้จัดตั้งองค์กรเป็นนิติบุคคลภายใต้ชื่อ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม ตามศาสตร์พระราชา พัฒนาสร้างสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชุมชนและผลผลิตของเกษตรกรไทย ส่งเสริม รับซื้อ พัฒนา และแปรรูปผลผลิต พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรปลอดภัย พลังงานทดแทน เพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการมุ่งพัฒนาชุมชน ให้เกิดความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างยั่งยืน จวบจนปัจจุบัน