FBI เตือนประชาชน ที่วอชิงตันดีซีเสี่ยงมิคสัญญี เพราะจะเกิดการปะทะต่อสู้กัน เนื่องจากกลุ่มสนับสนุนทรัมป์มีแผนจัดประท้วงติดอาวุธใน 50 รัฐในช่วงวันพิธีสาบานตนของโจ ไบเดน และทางรัฐบาลได้จัดกำลังทหารรักษาความสงบนับหมื่นนายคุ้มกันรัฐสภาและเมืองหลวงแล้ว ขณะที่มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารทั่วสหรัฐกว่า 50 มลรัฐเตรียมรับสถานการณ์ก่อความรุนแรงระดับเดือนภัยสีแดง ก่อความหวาดวิตกแก่ผู้คนที่สับสนกับข้อมูลข่าวสารว่าใครเป็นผู้ก่อความรุนแรงกันแน่
“ล่าสุด 12 ม.ค.2564 ปธน.ทรัมป์ยืนยันได้ประกาศรัฐบัญญัติปราบจลาจล 1807แล้ว เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ความรุนแรงทั่วประเทศ และจะยังคงเป็นประธานาธิบดีจนกว่า ผู้ก่อการร้ายภายในประเทศจะถูกจับกุม”
กำลังทหารเคลื่อนประจำการกว่า 50 รัฐ
หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานเมื่อ 12 ม.ค.2564 ว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เผยแพร่คำเตือนว่า กลุ่มนิยมแนวทางรุนแรงที่มีแนวคิดขวาจัดมีแผนจัดชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และทั่วประเทศ ใน 20 ม.ค.64 ในช่วงระยะเวลาพิธีสาบานตนของผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่
การประกาศเตือนของ FBI ทำให้หลายรัฐเตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น เช่น รัฐวิสคอนซินขอรับสนับสนุนกองกำลังรักษาดินแดน (National Guard) ให้เตรียมความพร้อมเพื่อควบคุมสถานการณ์
สภาผู้แทนและวุฒิสภาร่วมมือกันถอดถอนทรัมป์
นายเควิน แมคคาร์ธี แกนนำพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ทรัมป์บอกว่า กลุ่มที่สร้างความรุนแรงคือ “กลุ่มซ้ายจัดแอนตี้ฟา” ไม่ใช่กลุ่มที่สนับสนุนเขาที่มาประท้วงและไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขา เขาอ้างคำปราศรัยก่อนหน้า กลุ่มประท้วงบุกรัฐสภา ไม่มีคำไหนยั่วยุให้ใช้ความรุนแรง
เขากล่าวว่า ที่ทรัมป์พูดคือทฤษฏีสมคบคิด ที่ไม่มีอยู่จริง และเขาไม่ยอมรับ มีหนังสือพิมพ์ แอกซ์เซียส(Axios)เท่านั้นที่รายงานว่า ทรัมป์ยกหูโทรศัพท์ถึง แมคคาร์ธีและว่าเป็นการกระทำของกลุ่มซ้ายจัดแอนตี้ฟา
ในการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างปธน.ทรัมป์กับแมคคาร์ธีเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ม.ค.ผ่านมา ทรัม์ได้พบกับไมค์ เพนซ์แบบตัวต่อตัวที่ห้องรูปไข่เป็นครั้งแรก หลังเกิดเหตุบุกรัฐสภาและเพนซ์ต้องหลบหนีไปพร้อมกับสมาชิกรัฐสภาอื่นๆอย่างชุลมุน และทรัมป์อ้างว่าเพนซ์เข้าใจว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงที่บุกรัฐสภา ทั้งนี้ไม่มีคำยืนยันจากเพนซ์ในเรื่องนี้แต่อย่างใด
สงครามเพิ่งเริ่ม-ฝุ่นตลบไม่รู้ใครพวกใคร
ท่าทีแปลกๆของคนข้างเคียงทรัมป์๋ ขณะที่ไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศ เป็นคนแรกที่ประกาศจะร่วมขับทรัมป์ออกจากตำแหน่ง แต่ล่าสุดกลับมีข่าวว่า เขาปกป้องทรัมป์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาทวิตในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “วันนี้เป็นวันที่ดีที่จะสวดภาวนา ขอให้พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่กำจัดการโกหกทั้งมวล วันนี้เรามีประธานาธิบดีเพียงหนึ่งเดียว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทุกครั้งที่เขาพูด จงตั้งใจฟังอย่างตั้งใจ เขาจะจัดระเบียบความเป็นสถาบันของเรา รักษาเสรีภาพของเรา อย่าสนใจฟังสือข่าวสารทั้งหลาย พวกนี้โกหก”
“จงกักตุนอาหารและน้ำ 10-12 และวิทยุเพื่อรอและระวัง คนชั่วจะทำความรุนแรงในเมืองหลักของเรา จงวางใจในทรัมป์ แต่ท้ายที่สุดจงวางใจในพระเจ้า เมื่อได้เห็นความวุ่นวาย แผนการจะเปิดเผยออกมา…ทรัมป์จะกลับมาเลือกตั้ง และจะมีชัยชนะแบบถล่มทลาย”
ขณะที่ไมค์ เพนซ์ยืนยันจะไม่ลงนามขับทรัมป์ด้วย รัฐธรรมนูญที่ 25 แต่จะทนแรงกดดันจากนางแนนซี เปโลซีผู้นำสภาล่างแห่งเดโมแครต และพรรครีพับลิกันฝั่งไม่เอาทรัมป์แล้วได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องจับตา
จะเกิดอะไรขึ้นที่อเมริกา ท่ามกลางการระบาดโควิดกลายพันธ์ที่ทำคนอเมริกันติดเชื้อวันละกว่า 300,000 คนและเสียชีวิตเกินกว่านาทีละ 2 คนแล้ว เค้าลางสงครามกลางเมืองจากการแย่งชิงอำนาจได้เริ่มขึ้นแล้ว???