จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ออกแถลงการณ์การเข้าพบ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีบ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
หลังจากที่”พิมรี่พาย” นำเงินส่วนตัวไปติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ โดยระบุว่า หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าหมู่บ้านแม่เกิบนั้น เมื่อดูภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังไปไม่เกิน 7 ปีก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีบ้านเรือนผู้คนอยู่อาศัย ยังไม่มีโรงเรียนหรือศูนย์การศึกษาใด ๆ อยู่ทั้งสิ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าหมู่บ้านแม่เกิบเพิ่งมีการรวมตัวกันเป็นหมู่บ้านใหม่ขึ้นมานั่นเอง
เมื่อพิจารณาต่อไปก็จะพบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อมก๋อย ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกาออกมาใช้บังคับตั้งแต่ 19 ส.ค.2526 แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าหมู่บ้านแม่เกิบ จึงมิใช่ชุมชนท้องถิ่นดังเดิมแต่อย่างใด หากแต่น่าจะเพิ่งมีการอพยพโยกย้ายมาอยู่บริเวณดังกล่าวในระยะเวลาไม่นานตามหลักฐานภาพถ่ายทางดาวเทียม
แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ม.70 ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “รัฐพึงส่งเสริมและให้ความคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ให้มีสิทธิดํารงชีวิต ในสังคมตามวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตดั้งเดิมตามความสมัครใจได้อย่างสงบสุข ไม่ถูกรบกวน ทั้งนี้ เท่าที่ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ หรือสุขภาพอนามัย”
ดังนั้น ภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องยุติการปล่อยวางให้มีการอพยพโยกย้ายตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าต่าง ๆ ได้อีกต่อไป หากแต่จะต้องเร่งรีบในการจัดการกำหนดพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้านเหล่านั้นให้สอดคล้องกับแนวคิด “คนอยู่กับป่า” ให้จงได้ โดยออกพระราชกฤษฎีกากันพื้นที่ดังกล่าวออกมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตอุทยานแห่งชาติเสีย เพื่อที่จะได้พัฒนา และส่งเสริมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเขาเหล่านั้นตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมากังวลว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐตั้งข้อหา “บุกรุกป่า” อีกต่อไป
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงจะเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันพุธที่ 13 ม.ค.64 เวลา 14.30 น. ณ กระทรวงทรัพยากรฯ ถ.พหลโยธิน ซ.7 เขตพญาไท เพื่อหาข้อยุติและผลักดันให้รัฐบาลเร่งจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเสียโดยไว เพราะเราไม่อาจปล่อยวางให้มีข้อขัดแย้งในทางกฎหมายและข้อปฏิบัติในเชิงพื้นที่อีกต่อไป
ต่อมาในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เอกสารของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ (กอ.รมน.) ภาค 3 โดยเป็นเอกสารราคากลาง จัดจ้างระบบโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ ขนาดกำลังติดตามไม่น้อยกว่า 210 กิโลวัตต์ พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน โครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยคำนวนราคากลาง เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2562 เป็นมูลค่า 45,205,000 (สี่สิบห้าล้านสองแสนห้าพันบาทถ้วน) ทั้งนี้ ยังไม่พบการระบุว่าพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวเป็นจุดใด ใน อ.ออมก๋อย จ.เชียงใหม่
โดยล่าสุดพล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกอ.รมน. ได้ออกมายอมรับว่า เอกสารจัดซื้อโซลาร์เซลล์ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ของ กอ.รมน.ภาค 3 เป็นของจริง โดยติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 210 กิโลวัตต์ ในพื้นที่ 5 จุด แต่ไม่มีบ้านแม่เกิบ ที่พิมรี่พาย ไปติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้
ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กของ หรั่ง เครา อดีตการ์ดกปปส. ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นแผงโซลาร์เซลล์ หลังจากเดินทางขึ้นไปบนบ้านแม่เกิบเพื่อพิสูจน์ความจริง ระบุว่า “แผงโซลาร์เซลล์ 18 อันของพิมรี่พาย ที่ผมถ่ายรูปมาได้ มีขายแบบเดียวกันในลาซาด้าที่ราคา 5,200 ต่อชิ้น หากคูณ 18 = 93,600บาท
ในคลิปบอกว่าใช้เงิน 350,000 ทำโซลาร์เซลล์ แสดงว่าขาตั้งโซลาร์เซลล์ + หม้อแบต + สายไฟ แผงควบคุม มีราคาตั้ง 256,400
สายไฟทำด้วยทองคำหรือครับ?
ใครไปซื้อให้คุณพิมรี่พายครับ ครูในคลิปนั้นหรือเปล่า?”