ผิดกฎหมาย ร้ายแรง!? ชำแหละ “ธนาธร” สั่ง “ก้าวไกล” จี้รัฐ คืนชีพโครงการ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” เข้าข่ายครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่!?
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 ม.ค.64 ทางด้านของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้จัดรายการผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเรื่อง “ประเทศไทย 2021: ข้อเสนอจัดการโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นการนำเสนอ การจัดการกับวิกฤติโรคระบาดไวรัสโควิด-19 และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการต่างๆของรัฐ
โดยที่น่าสนใจและถูกพูดถึงกลายเป็นประเด็นมากที่สุด ก็คือ การจี้ให้รัฐบาล ดึงงบประมาณจำนวน 4 แสนล้านบาท มาแจกให้กับประชาชนทุกคนในประเทศ คนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อเป็นการเยียวยาประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตในช่วงโควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในความย้อนแย้งครั้งเมื่อการระบาดของควิดในระลอกแรก รัฐได้ทำโครงการแจงเงินเยียวยา โดยต้องมีการยืนยันตน ยืนยันอาชีพ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนจริงๆ ได้รับสิทธิก่อน โดยในขณะนั้นรัฐบาลได้เยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน
ซึ่งในการเยียวยาครั้งนั้นของรัฐบาล ได้ถูกโจมตีอย่างหนักจาก ฝั่งพรรคการเมืองสีส้ม และคณะก้าวหน้า แต่แล้วไม่นาน ทางด้านของ คณะก้าวหน้า ซึ่งนำทีมโดย ธนาธร ก็ได้ทำโครงการแข่งกับรัฐบาล โดยตั้งชื่อ โครงการว่า “เมย์เดย์ เมย์เดย์” ซึ่งได้ทำการแจกเงินช่วยเหลือเยียวยา โดยที่ไม่ต้องมีการตรวจสอบใดๆ เป็นจำนวน 3,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ก็ได้มาจากการเปิดรับบริจาค ค่อนข้างมีพิรุธ และไม่มีความโปร่งใส ในการตรวจสอบ
ซึ่งทางด้านของ ว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อตีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้เปิดประเด็นและตั้งข้อสังเกตุถึงโครงการดังกล่าวว่า การเปิดรับบริจาคไม่ควรจะใช้บัญชีส่วนตัวของคุณช่อพรรณิการ์ การรับบริจาคขนาดนี้น่าจะเปิดบัญชีในรูปแบบขององค์กรที่ต้องมีคนร่วมเปิดบัญชีร่วมกัน 3-4 คน รวมถึงเพิ่งมีการประกาศรายชื่อผู้ร่วมบริจาค ทั้งๆ ที่แถลงข่าวปิดโครงการไปนานแล้ว จึงต้องการให้มีการตรวจสอบ และได้มีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ระหว่าง นายบุญเกื้อ และน.ส.พรรณิการ์ ตามมา
จากกรณีเหล่านั้น การที่ ธนาธร จี้ให้รัฐบาลทำการแจกเงินเยียวยา 3,000 บาท แบบไม่มีเงื่อนไข จึงไปตรงกับ โครงการของ “เมย์เดย์ เมย์เดย์” เป็นอย่างมาก จึงทำให้หลายๆฝ่ายต่างมองว่า การเยียวยาด้วยวิธีดังกล่าวตามที่ คณะก้าวหน้า อยากให้เป็น มีข้อติเยอะมาก จนอาจจะไม่สามารถทำตามได้ พร้อมด้วยในวันที่ 5 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทางด้านของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้ากลุ่มไทยภักดี ก็ได้นำประเด็นดังกล่าวมาโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวด้วยเช่นกันว่า
“ธนาธรกับ3000บาทถ้วนหน้า ฟังนายธนาธร เสนอเรื่งการจัดการโควิด มาสะดุดที่แนวคิด 3000 บาทถ้วนหน้า ความคิดนี้ จะถูกจะผิด จะเห็นด้วยหรือไม่ ไม่ว่ากัน อย่างน้อยก็ดีกว่า #สู้เป็นไทถอยเป็นทาส ทำให้นึกถึงโควิดปีที่ผ่านมา กับโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ 3000 บาทถ้วนหน้า ไม่ต้องพิสูจน์ความจน
หลายคนยังกังขาว่า ออกแคมเปญนี้มาได้อย่างไร ไม่รู้จริงๆหรือว่า ตนเองทำไม่ได้ เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน และที่สำคัญ คนลงทะเบียนร่วมสามล้านคน แต่จ่ายได้จริง 2427 คน หัวใจที่ต้องย้ำคือ การให้ไม่มีความเป็นธรรมและเท่าเทียม ไม่เรียงตามลำดับ มาก่อนได้ก่อน และนอกจากไม่ถ้วนหน้าแล้ว เงินที่ประชาชนให้มา ก็ไม่ได้แจกทั้งหมด มีการเอาเงินไปทำอย่างอื่น และบางคนแทนที่จะโอนด้วยระบบออนไลน์ให้เหมือนกับคนอื่น แต่กลายเป็นไปโอนที่เคาน์เตอร์
ไหนๆ ล่าสุด นายธนาธรออกมาเสนอรัฐบาลเรื่อง 3000 บาทถ้วนหน้าแล้ว ทางที่ดี นายธนาธร ออกมาชี้แจง 3000 บาทถ้วนหน้าของตนเองให้ประชาชนเข้าใจน่าจะดีกว่า ไม่ยอมพูดถึงสิ่งเหล่านี้”
ส่งผลให้หลายๆฝ่ายต่างมองว่าประเด็นดังกล่าวน่าจะถูกปัดตกไป แต่ก็ได้มีการจับตามมองว่า ข้อความดังกล่าวนั้น จะถูกหยิบยกมาพูดในสภา โดย “พรรคก้าวไกล” หรือไม่!? เนื่องจากว่าทุกครั้งที่ทางด้านของ นายธนาธร พูดถึงการแก้ปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ หรือสังคม จะมีพรรคก้าวไกล คอยรับหน้าไปพูดในสภาให้อยู่ในเสมอ และต่างมองว่า ธนาธร ค่อนข้างจะมีอำนาจสั่งการในเรื่องนโยบายต่างๆกับ พรรคก้าวไกล เสมอมาตลอด ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ทำให้มองว่า ธนาธร ถือได้ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคการเมืองตามกฎหมายหรือไม่
ซึ่งเป็นที่ชัดเจนมากๆ เมื่อวันที่ 12 ม.ค.64 ทางด้านของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เปิดเผยถึงการอภิปรายหลักๆด้วยกัน 4 ข้อ เพื่อแก้พิษเศรษฐกิจ และวิกฤตโควิด แต่ที่ทำให้หลายๆคนสงสัย เพราะ แนวทางในการอภิปรายของพรรคก้าวไกล ค่อนข้างจะออกมาตรงกับสิ่งที่ นายธนาธร พูดไว้ในเรื่อง “ประเทศไทย 2021: ข้อเสนอจัดการโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจ” ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์
ยิ่งในข้อที่ 2 นั่นก็คือ “เร่งช่วยเหลือถ้วนหน้า 3,000 บาท/เดือน (สำหรับอายุ 18 ปี ขึ้นไป ยกเว้นข้าราชการ) เพื่อเป็นโครงข่ายรองรับทางสังคม ให้ประชาชนที่กำลังประสบปัญหา อย่างถ้วนหน้า และพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวไปมากกว่านี้”
ซึ่งค่อนข้างเป็นที่ชัดเจนอย่างมากว่า นายธนาธร มีบทบาทสำคัญในการเดินหน้าเรื่องนโยบายของ พรรคก้าวไกล ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า แบบนี้จะเข้าข่ายการครอบงำพรรคการเมือง ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 28ยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิก กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา พรรคการเมือง ซึ่งมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรค หรือไม่!?
แต่ถึงอย่างไรก็ตามล่าสุด ในวันที่ 12 ม.ค.64 ทางด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบจ่ายเงินมาตรการเยียวยาให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่ คนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน โดยให้กระทรวงการคลังไปศึกษารายละเอียด และนำมาเสนอให้ ครม. เห็นชอบในสัปดาห์หน้าต่อไป