สหรัฐระส่ำระสาย กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ประจำการ 15,000 นายคุ้มกันพิธีสาบานตนโจ ไบเดนขณะสาวกทรัมป์ประกาศติดอาวุธลุย แต่ยากสำเร็จ เพราะฝ่ายไบเดนเตรียมรับมือเต็มพิกัดคาดทรัมป์เลียนแบบทักษิณ ตัังอำนาจรัฐใหม่ซ้อนรัฐบาลไบเดน เพราะมีประชาชนลุ่มหลงนับ 74 ล้านคนจากป็อบปูลาร์โหวต ประกาศตั้งกองกำลังไซเบอร์ และหนุนสาวกป่วนจนวินาทีสุดท้าย ทำสหรัฐอเมริกาไม่มีวันเหมือนเดิม จับตาไบเดน หยุดทรัมป์จะต้องใช้วิธีไหน แค่อิมพิชเม้นท์ หรือขับออกจากตำแหน่งอาจไม่เพียงพอ สงครามชิงอำนาจไม่จบง่ายจับตาวันแตกหัก 20 ม.ค.
ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนว่า สถานการณ์ของสหรัฐไม่ได้ปกติ ภาพกองทหารนับหมื่นประจำการรอบเมืองหลวง เพื่อปกป้องว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ บรรยากาศเสมือนสนามรบ-การรัฐประหาร นอกจากนี้การปลดทรัมป์ ออกจากตำแหน่งต้องใช้เวลากว่า 10 วันย่อมไม่ทันการสาบานตน แนนซี่ เปโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคเดโมแครตจึงกดดัน ไมค์ เพนซ์ อดีตคู่หูมือขวาทรัมป์ให้ดำเนินการบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 แต่เขาวางเฉย และมีข่าวลือว่าเขาพบกับทรัมป์ที่ห้องรูปไข่ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ที่ อเมริกา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานแหล่งข่าวระบุว่า นายเพนซ์และปธน.ทรัมป์ได้พบปะกันที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว และเป็นการพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่กลุ่มผู้สนับสนุนปธน.ทรัมป์ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยในเวลานั้น นายเพนซ์ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เป็นประธานการประชุมดังกล่าวเพื่อประกาศรับรองนายไบเดนอย่างเป็นทางการ ในการพบปะกันครั้งนี้ นายเพนซ์และปธน.ทรัมป์ได้เห็นพ้องกันว่า ประชาชนที่บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาในวันดังกล่าวนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันนโยบาย “America First” ของปธน.ทรัมป์ และทั้งสองยังให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าทำงานร่วมกันจนครบเทอม ก่อนที่จะถ่ายโอนอำนาจให้กับคณะบริหารของนายไบเดน
FBI เตือนว่า กลุ่มสนับสนุนทรัมป์ ส่งสัญญาณพร้อมก่อความรุนแรงรอบใหม่ในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ โจ ไบเดน แต่ทางการสหรัฐได้จัดวางกำลังกองทหารพิทักษ์มาตุภูมิจำนวน 10,000 นาย ประจำการรักษาความสงบรอบเมืองวอชิงตัน ดี.ซี.เพื่อคุ้มกันวันพิธีสาบานตน หากได้รับการร้องขอพร้อมเพิ่มทันทีอีก 5,000 นาย
นายเมียลลี เครียซิส นักวิจัยจากสมาคมติดตามความรุนแรงจากมหาวิทยาลัยอเมริกา กล่าวว่า มีการเชิญชวนผ่านสื่อออนไลน์ รณรงค์เดินขบวนทางการทหารในวอชิงตันดีซี วันสาบานตน ตรงกับรายงานกลุ่มติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มขวาจัด (The Site Intelligence Group) ว่ามีการวางแผนถืออาวุธไปในการคัดค้านพิธีสาบานตนของโจ ไบเดนแน่นอน
พลเอก แดเนียล โฮแคนสัน หัวหน้าสำนักงานกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard Bureau) ของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ที่ 11 ม.ค. 2564 ว่า พวกเขามีแผนจัดกำลังทหารประจำการในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จำนวน 15,000 นาย เพื่อคุ้มกันพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย โจ ไบเดน ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ การคุ้มกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถูกยกระดับขึ้นหลังเกิดเหตุจลาจล ผู้ชุมนุมบุกรุกอาคารรัฐสภาเมื่อ 6 ม.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และถูกจับกุมกว่า 52 คน โดยในวันจันทร์ (11 ม.ค.)มีกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการในเมืองหลวงแห่งนี้แล้ว 6,200 นาย จะเพิ่มเป็น 10,000 นายในวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. และหากมีการร้องขอ ทหารจะถูกส่งไปเพิ่มอีกได้สูงสุด 5,000 นาย
ด้านนาง มูริเอล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ออกแถลงข่าวในวันจันทร์ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงเดินทางมาในเมืองหลวงแห่งนี้ระหว่างที่มีการทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเธอกังวลว่าจะมีผู้ก่อเหตุความรุนแรงมาสร้างความปั่นป่วน “ถ้าฉันจะเป็นห่วงอะไรสักอย่างหนึ่ง ฉันคงเป็นห่วงประชาธิปไตยของเรา เพราะเรามีกลุ่มหัวรุนแรงมากๆ ที่ติดอาวุธและอันตรายอยู่ในประเทศนี้”
“ลัทธิทรัมป์ไม่ได้ตายไปในวันที่ 20 ม.ค.นี้” นางบาวเซอร์กล่าว “เป้าหมายของเราในตอนนี้คือ การขอให้ชาวอเมริกันมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการปกป้อง ดี.ซี. จากการเกิดเหตุจลาจลรุนแรงซ้ำรอยที่อาคารรัฐสภา เมื่อ 6 ม.ค.”
ก่อนหน้านี้นางโบว์เซอร์ได้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้ครอบคลุมระยะเวลา 15 วัน เพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุไม่คาดคิดในวันที่ 20 มกราคมนี้ด้วย