โควิดทำสาหัส!?! สหรัฐจนตรอก เปิดเมือง-เปิดเรียนป่วยเพิ่ม 50-100% ยอมจำนนเสียชีวิตวันละ 1,000 จนกว่าจะมีวัคซีน

1977

การระบาดโควิด-19 ทั่วโลกยังรุนแรง สหรัฐอเมริกายังยืนหนึ่งของโลกในด้านยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 และข้อมูลหลังเปิดเมืองเปิดโรงเรียน ทำคนติดเชื้อเพิ่ม 50-100% แต่ยังหาทางออกไม่เจอเพราะรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นต่างคนต่างทำ คนอเมริกันจึงต้องทำใจยอมรับว่ามีผู้เสียชีวิตวันละกว่า 1,000 คนจนกว่าจะมีวัคซีน เพราะยังไม่มีทางอื่นให้เลือก

อเมริกันยอมรับแพ้โควิดอย่างไม่มีทางสู้

สหรัฐอเมริกา รายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับที่นิ่งมาได้ระยะหนึ่ง ทำให้ทุกฝ่ายมองว่าการป่วยและเสียชีวิตค่อนข้างอยู่ในการควบคุมได้ ทั้งนี้ยืนยันยอดผู้ป่วยใหม่ติดเชื้อสะสมวันละ 41,600 คน ในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็นับว่าไม่น้อยซึ่งก็มากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้เช่นกัน

3 รัฐหลักคือ มลรัฐแอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย และเท็กซัส ยังคงมีรายงานยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังแพ้อีก 18 มลรัฐที่ยังเพิ่มจำนวนไม่หยุด ที่น่าตกใจคือ 7 มลรัฐมีผู้ป่วยเพิ่มกว่า 50% ทุกวัน 

ทั่วประเทศ ตรวจเชื้อพบป่วยเพิ่มขึ้น 5% จากการตรวจ 730,000 คน รายละเอียดของสัปดาห์นี้ หากเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ภาพรวมคือ ทั่วประเทศตั้งแต่ระดับรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่นไม่จริงจังในการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างชัดเจน และน่าแปลกใจ เมื่อมองว่าการระบาดอยู่ในการควบคุมได้ก็เปิดเมืองและเปิดเรียน แต่ผลที่ได้รับทำให้พิสูจน์ว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง  

การเปิดเมืองในเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูร้อนทำให้จำนวนยอดผู้ป่วยพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน และเมืองช่วงนี้เปิดเรียนในโรงเรียน,วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ทำให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ่นเป็นจุดฮอตสป็อตใหม่ ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยอลาบามา นักเรียน 1,200 คนติดเชื้อไวรัส, พนักงานกว่า 150 คนติดเชื้อไวรัสหลักเปิดเรียนไม่นาน และหลายเมืองเริ่มพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ประชากรของมลรัฐอลาบามามีจำนวน ¼ ของประชากรในมลรัฐนิวยอร์ก และมีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่าเท่าตัว กล่าวคือรายงานของรัฐอลาบามา มีผู้ป่วยเกือบ 1,500 คนต่อวันขณะที่รัฐนิวยอร์ก มีผู้ป่วยวันละ 676 ราย ที่มลรัฐเซาท์ดาโกตา พบเคสต่อวันสูงเป็น 100% ของสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการเพิ่มที่สูงสุดของประเทศ เหตุเพราะเพิ่งมีงานฉลองแข่งรถจักรยานยนต์ประจำปี (Stirgis motorcycle rally) และงานคอนเสิร์ต Smash Mouth คนมาเที่ยวนับแสนและส่วนมาก ไม่สวมหน้ากาก  ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย การป่วยติดเชื้อลดลงแต่ก็ยังคงป่วยวันละ 5,000 คน สำหรับมลรัฐฟลอริดา เช่นกันยอดยังนิ่งอยู่ที่ป่วยวันละ 3,600 คน

ในที่สุด การระบาดไวรัสสายพันธ์ใหม่โควิด-19 ยังไม่จบ และคนอเมริกันไม่มีทางเลือก เพราะจะปิดเมือง ปิดประเทศตลอดไปคงอดตายตามๆกัน และคงต้องทำใจรับให้ได้กับ การต้องมีคนเสียชีวิตจากไวรัสร้ายนี้วันละ 1,000 คน ซึ่งน่าสยดสยองยิ่งนัก ?!

สถิติคนป่วยติดเชื้อทั่วโลก จำนวน 18,691,676 ราย เสียชีวิต 703,374 ราย รักษาหาย 11,908,828 ราย

สหรัฐฯยังทำสถิติ อันดับที่ 1 ของโลก  มีผู้ป่วย 4,918,406 ราย เสียชีวิต160,290 ราย รักษาหาย 2,481,250 ราย (ณ วันที่ 5 ก.ย.2563 จาก worldometerinfo)

สัญญาณอันตรายโควิดรอบใหม่-ไทยห้ามการ์ดตก

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด 5 กันยายน 2563 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า

หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ติดกันเพิ่มหลักร้อยถึงหลายร้อย

 

จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และออสเตรเลีย ติดกันหลักสิบ ในขณะที่เมียนมาร์ เวียดนาม และนิวซีแลนด์ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…จาก 6.6 ล้านขึ้นเป็น 16.6 ล้าน ใช้เวลา 53 วัน

…จาก 16.6 ล้านขึ้นเป็น 26.7 ล้าน ใช้เวลาสั้นลงเพียง 40 วัน

ดูข้อมูลแค่สองบรรทัดนี้ ย่อมทราบกันดีว่า สถานการณ์การระบาดทั่วโลกรุนแรงขึ้นอย่างมาก เพิ่มขึ้น 10 ล้านคน โดยใช้เวลาสั้นลงกว่าเดิม 2 สัปดาห์

ข้อเสนอทางยุทธศาสตร์สำคัญในการรับมือคือ

  1. ดำรงชีพและสร้างนโยบายที่น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างเต็มที่ อดทน อดกลั้น อดออม ยืนบนขาตนเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ

2.ลด ละ เลิก และชะลอนโยบายที่จะนำความเสี่ยงเข้าสู่ประเทศไปอย่างน้อย 6 เดือน

3.ทบทวนการอนุญาตนำกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เข้ามาในประเทศ โดยอนุญาตเฉพาะที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น

4.ขันน็อตระบบตรวจตรากำกับมาตรฐานการดำเนินงานของกิจการต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

5.จัดระบบบริการตรวจคัดกรองให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเมือง 

6.ใช้เวลา 6 เดือนนี้ไปกับการปฏิรูประบบธุรกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เป็นรูปแบบใหม่ และพัฒนาความรู้และทักษะแก่กำลังคนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบกิจการ ผู้ให้บริการ และประชาชน

ประเทศไทยต้องทำได้!?!