Truthforyou

ดร.ไตรรงค์สับนักปชต.คลั่งเสรีภาพ ทำลายจารีตประเพณี ไม่สำนักปท.เกิดและโคตรเหง้า

จากที่เมื่อวันที่ 6 ม.ค.63 ที่ผ่านมา ทั่วโลกกำลังจับตามองเป็นอย่างมาก กับเหตุการณ์ผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ บุกปิดอาคารรัฐสภา เพื่อหวังกดดันไม่ให้ทางด้านของ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมสภาคองเกรสรับรอง “โจ ไบเดน” เป็นประธานาธิบดี โดยพันธมิตรของสหรัฐฯในยุโรป ได้ออกมาประณามเหตุการดังกล่าว ว่าเป็นการโจมตีระบอบประชาธิปไตย

ซึ่งหากว่ามองย้อนมาที่ประเทศไทย การชุมนุมของกลุ่มม็อบคณะราษฎรก็เปิดตัวในรูปแบบเดียวกัน นั่นก็คือการไม่พอใจที่ “พรรคอนาคตใหม่” ถูกยุบ และทางด้านของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง หลังจากนั้นทางด้าน นายธนาธร จึงเริ่มปลุกใจประชาชนให้ออกมาต่อต้านรัฐบาล ว่า “โกงการเลือกตั้ง” ไม่ต่างอะไรเลย กับแผนการที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้ใช้ เป่าหูประชาชน เพื่อให้ตัวเองได้อำนาจและปั่นป่วนชาติ

โดยทางด้านของกลุ่มผู้ชุมนุมได้บุกปิดล้อมรัฐสภาสหรัฐอย่างรวดเร็ว ทางด้านของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ได้พยายามปิดล็อกทางเข้าออกทั้งหมด และมอบหน้ากากกันแก๊สน้ำตาให้กับทางด้านของ ส.ส. พร้อมทั้งพาไปหลบซ่อนในที่ปลอดภัย ทั้งนี้ทางด้านของเจ้าหน้าที่รัฐสภา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนได้เพื่อควบคุมสถานการณ์ และสามารถใช้แก๊สน้ำตาในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งแต่เริ่ม ซึ่งก็ถือว่าน่าแปลกมาก ที่เรื่องราวแบบนี้ทั่วโลกต่างๆสนับสนุนว่าไม่ใช่ความรุนแรง แต่เป็นเหตุที่พึงกระทำได้ตามหน้าที่

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กแสดงความเห็นยกตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยระบุข้อความว่า “อย่างน้อยทรัมป์ก็กล้าออกมานำเอง ไม่มุดกระโปรงนักเรียนนักศึกษาเหมือนคนกลุ่มหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม ย้อนไปก่อนหน้านั้น นายธนาธรมีพฤติกรรมที่แสดงออกปลุกระดมให้กลุ่มคน หรือกลุ่ม นักเรียน นักศึกษาออกมาชุมนุม แม้ว่าตัวนายธนาธรเองนั้นจะไม่ออกมาแสดงตัวอย่างโจ่งแจ้งว่าหนุนม็อบ หรือออกมานำม็อบ ปราศรัยข้อเรียกร้องต่าง ๆ แต่นายธนาธรก็มีการออกมาโพสต์หรือให้สัมภาษณ์ถึงม็อบอยู่เรื่อยไป ไม่เพียงเท่านั้นในครั้งที่มีการชุมนุม ยังปรากฏภาพของนายธนาธรอยู่บริเวณที่ชุมนุมด้วย

ดังกรณีเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563 นายธนาธร ทวีตรูปภาพและข้อความในทวิตเตอร์ว่า “เย็นวันนี้ ผมขอออกมาร่วมแสดงพลัง ยืนเคียงข้างกับ นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ไม่ใช่ในฐานะแกนนำ แต่ในฐานะพลเมืองที่ห่วงใยอนาคตของบ้านเมืองคนหนึ่ง”

และเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 นายธนาธร เดินทางไปที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อให้กำลังใจกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมเปิดใจว่า ข้อกล่าวหายืนยันว่าไม่จะได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการชุมนุมครั้งนี้ ของกลุ่มนักศึกษามีความคิด และรับรู้ปัญหากับเมืองไทยมาโดยตลอด

การชุมนุมเป็นการพูดจากันด้วยเหตุด้วยผล อย่างอารยธรรม ไม่ได้เป็นการล้มล้างทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่เข้าใจ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงของนักศึกษาในวันที่ 20 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล “นี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำให้การเมืองและบ้านเมืองกลับมาเป็นประชาธิปไตย ที่สำคัญต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม”

ล่าสุดวันนี้ 11 มกราคม 2564 มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจกับความคิดเห็นจากอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี และยังเคยเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาระบุว่า

“นักประชาธิปไตยกับสัตว์เดรัจฉาน

(1) นักประชาธิปไตยที่ คลั่งการใช้สิทธิเสรีภาพของตน โดยไม่สนใจปฏิบัติตามกฎหมาย จารีตประเพณี และศีลธรรม (ประพฤติผิดทั้งกาย วาจา ใจ) ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น รวมทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ เกียรติยศ และชื่อเสียงของประเทศอันเป็นที่เกิดของโคตรเหง้าของตน มันจะแตกต่างอะไรจากสัตว์เดรัจฉาน ผู้ไม่เคยมีความรู้สึกกตัญญูกตเวทีต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้มันเกิดอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบันแห่งมัน

(2) หวังว่าประชาธิปไตยในไทยจะไม่สร้าง ฝูงสัตว์ ในคราบของมนุษย์ผู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และมีความประพฤติดังกล่าวในข้อ 1 ซึ่งกลายเป็นฝูงชน (สัตว์) ที่บ้าคลั่ง พร้อมจะทำชั่วทั้งกายทุจริต วาจาทุจริต และมโนทุจริต เพียงเพื่ออยากจะได้ในสิ่งที่พวกตนต้องการ แม้ความต้องการนั้นจะไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ก็ตาม มันเคยเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ในฮ่องกง และเพิ่งเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่รัฐสภาของสหรัฐฯ ประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน เหนือนายโดนัลด์ ทรัมป์

นั่นมันสัตว์ชัดๆ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ผู้มีจิตใจเจริญกว่าสัตว์เขาจะทำกัน ระบอบประชาธิปไตยคือระบอบการปกครองสำหรับคนที่เจริญทางจิตใจแล้วเท่านั้น จึงขอให้พวก *นักการเมืองสี่ขาชิงหมาเกิด* ทั้งที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ทุกมุมของโลก รวมทั้งที่อยู่ในประเทศไทย โปรดจำใส่กะโหลกเอาไว้ด้วย”

Exit mobile version